16 ธ.ค. 2568
"นิกรเดช"โต้ ปธ.หอการค้าอเมริกันใน “กัมพูชา” ชี้เป็นที่ปรึกษารัฐบาล แนะคอมเมนต์บนหลักข้อเท็จจริง ยันไทยไม่ได้ถูกโลกล้อม
นายนิกรเดช พลางกูร โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงในรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ กรณีนายเคซีย์ บาร์เน็ตต์ ประธานหอการค้าอเมริกันใน “กัมพูชา” โวยหาก “ไทย” สกัดกั้นการขนส่งทางทะเลละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ว่า ถ้าสิ่งที่เขาพูดมีข้อเท็จจริงจริงอยู่ในนั้นก็ดูเหมือนจะเป็นเองใหญ่ แต่บังเอิญผมต้องเรียนว่านายเคซีย์ บาร์เน็ตต์ เขาสวมหมวกหลายใบ เขาเป็นที่ปรึกษาของรัฐบาลกัมพูชาด้วย ดังนั้นตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาออกมาคอมเมนต์ ผมก็ตอบโต้เขาไปเต็มที่เลยว่าเขากำลังทำเกินหน้าที่ของประธานสภาหอการค้า ชัดเจนมากว่าสิ่งที่เขาพูดออกมาเป็นสิ่งที่รัฐบาลขอให้พูด
1.เราไม่ได้ปิดอ่าวอย่างที่เขาพูด 2.การที่เราจะทำอะไรก็ตามประชาชนนอกเหนือจากคนไทย ไม่ว่าจะอเมริกัน หรือใครก็แล้วแต่อยู่ตรงหัวใจของการปฏิบัติการของเราเลย เราจะไม่ให้กระทบประชาชนเลยเด็ดขาด อย่าว่าแต่คนต่างชาติเลยครับ คนกัมพูชาเรายังไม่ให้กระทบเลยครับ ดังนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ และกระทรวงก็จะมีการตอบโต้กลับไป ว่าควรจะต้องคอมเมนต์บนหลักการข้อเท็จจริง
ก็คิดว่าสิ่งที่เขาทำอยู่มันเลยสถานภาพและบทบาทของการเป็นหอการค้า ผมเรียนตรง ๆ ว่าคอมเมนต์ของเขา ผมจะรับได้ก็ต่อเมื่อมันไปกระทบต่อมูลค่าการค้า หรือการเดินเรือของสหรัฐฯ ดังนั้นตราบใดที่ยังไม่ไปถึงจุดนั้น และมันยังไม่ไปถึงจุดนั้นแน่ ๆ ผมคิดว่าเขาทำเกินหน้าที่ ก็ต้องระมัดระวังคำพูดและคอมเมนต์ต่าง ๆ โดยเฉพาะในสถานการณ์เปราะบางแบบนี้ และอย่างที่ทุกคนทราบอยู่เขาสวมหมวกอีกใบ ซึ่งเป็นที่ปรึกษารัฐบาล ยิ่งไม่ถูกต้องใหญ่เลยที่ออกมาคอมเมนต์แบบนี้
เมื่อถูกถามว่าตอนนี้โลกล้อมเราแทนแล้วไหม หลังหลายประเทศออกมาเรียกร้องให้ยุติการสู้รบ นายนิกรเดช มองว่าการที่ทุกประเทศ หรือใครก็ตามจะมามีข้อความคิดเห็นในเรื่องนี้ จะต้องพูดเมสเสจเดียวกันว่าไม่ประสงค์เห็น 2 ประเทศนี้สู้รบ เชิงการทูตมันมีเมสเสจอื่นไม่ได้เลย ผมเชื่อว่าเป็นรีแอคของทุกประเทศต้องใช้อยู่แล้ว เป็นแพทเทิร์นปกติ ไม่ได้เกี่ยวกับนานาประเทศร่วมกดดัน แต่ในขณะเดียวกันการที่เรายืนยันว่าเราไม่ได้เป็นผู้รุกราน และเราออกมาบอกแล้วว่าอะไรทำให้สถานการณ์ดีขึ้นได้ 2-3 ประการซึ่งกัมพูชาจะต้องเป็นผู้ดำเนินการ เพราะคุณเริ่ม สำหรับเราเหตุและผมมันมีอยู่ คือผู้เริ่มจะต้องเป็นผู้ยุติ จะบอกว่าเราโดนแกล้งแล้วเราหยุดก่อนคงไม่ใช่
เมื่อถูกถามกรณีที่ “โรม” ฉะการต่างประเทศได้แค่นี้ “รัฐบาลอนุทิน” เปลี่ยนสถานการณ์จาก “โลกอยู่ข้างไทย” ไปสู่ “โลกล้อมไทย” ฉะการต่างประเทศได้แค่นี้ นายนิกรเดช โต้ว่า ไม่ใช่ครับ มันมีเส้นบาง ๆ ที่ประชาคมโลกเขาจะมองถ้ามองผิวเผินมันปฏิเสธไม่ได้ว่าเราเป็นประเทศที่ใหญ่กว่า มีกำลังมากกว่าอยู่ข้างประเทศที่เล็กกว่า อันนี้เป็นเรื่องหนึ่ง ถ้ามองผิวเผินมันก็จะนำมาสู่ข้อสรุปนั้น แต่ถ้ามองชัด ๆ และเข้าใจสถานภาพของปัญหานี้ดี ๆ เราถูกยั่วยุมาหลายครั้งมาก และเราก็บอกด้วยว่าหากมีอีกครั้งหนึ่ง ถ้าทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดขาขาด เราขีดเส้นแล้วนะ เส้นเราอยู่ตรงนั้น ซึ่งถ้าเราไม่ดำเนินการเมสเสจเราก็จะไม่ดัง ไม่ศักดิ์สิทธิ์
ยืนยันไทยทำตามที่ประกาศทุกอย่าง ไม่ได้ดำเนินการโดยใช้อารมณ์ใด ๆ เลย การดำเนินการของเราใช้การยับยั้งชั่งใจ ตอบโต้ตามหลักกฎหมายทุกอย่าง ทหารก็จะมีกรมสนธิสัญญาต่าง ๆ อยู่ด้วยเสมอ ว่าการตอบโต้ของเราได้สัดส่วนเป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายมนุษยชน เราถึงยืนยันมาโดยตลอดว่าปฏิบัติการทางทหารของเราเช็กยังไงก็ได้ว่าไม่มีการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ
16 ธ.ค. 2568
83 views
EP อื่นๆ
16 ธ.ค. 2568
16 ธ.ค. 2568
16 ธ.ค. 2568
16 ธ.ค. 2568
16 ธ.ค. 2568
16 ธ.ค. 2568
16 ธ.ค. 2568
16 ธ.ค. 2568
16 ธ.ค. 2568
16 ธ.ค. 2568
16 ธ.ค. 2568
16 ธ.ค. 2568
16 ธ.ค. 2568
16 ธ.ค. 2568
16 ธ.ค. 2568
16 ธ.ค. 2568
16 ธ.ค. 2568
16 ธ.ค. 2568