13 ธ.ค. 2568
กองทัพบก เรียกร้องโลกประณามกัมพูชา ละเมิดกติการะหว่างประเทศอย่างร้ายแรง
กองทัพบก เรียกร้องโลกประณามกัมพูชา ใช้โบราณสถานเป็นที่ตั้งทหาร - โจมตีเป้าหมายพลเรือน - ปล่อยเฟกนิวส์ ชี้ละเมิดกฎกติการะหว่างประเทศอย่างร้ายแรง
วันที่ 12 ธันวาคม 2568 แถลงการณ์กองทัพบก กรณีกัมพูชาละเมิดกฎกติการะหว่างประเทศในหลายประเด็นอย่างร้ายแรง
จากสถานการณ์การปกป้องอธิปไตยของประเทศไทย อันเนื่องมาจากการโจมตีและการกระทำที่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติจากฝ่ายกัมพูชาในปัจจุบัน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้กล่าวถ้อยแถลงต่อสาธารณชนและสื่อมวลชนว่า
กองทัพบกขอแสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อพฤติกรรมของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งปรากฏชัดว่ามีการกระทำอันเป็นการละเมิดกฎกติการะหว่างประเทศในหลายประเด็นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในมิติทางทหาร มิติด้านมนุษยธรรม และมิติด้านข้อมูลข่าวสาร อันส่งผลกระทบโดยตรงต่อความมั่นคง ความปลอดภัยของประชาชนผู้บริสุทธิ์ และเสถียรภาพของภูมิภาคโดยรวม
กองทัพบกขอเรียกร้องให้สังคมโลก รวมถึงองค์การและกลไกระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันพิจารณา ตรวจสอบ และประณามการกระทำของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งเข้าข่ายละเมิดกฎหมายและหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างชัดเจน ในหลายประเด็นสำคัญ ดังนี้
1. การใช้โบราณสถานเป็นพื้นที่ปฏิบัติการทางทหาร
ฝ่ายกัมพูชาได้ใช้โบราณสถานเป็นที่ตั้งและพื้นที่ปฏิบัติการทางทหาร ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักการคุ้มครองทรัพย์สินทางวัฒนธรรมในยามความขัดแย้ง ทำให้โบราณสถานดังกล่าวสูญเสียสถานะการคุ้มครองตามกฎหมายระหว่างประเทศ และเสี่ยงต่อความเสียหายต่อมรดกทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ
2. การใช้พื้นที่ชุมชนพลเรือนเป็นฐานยิงอาวุธสนับสนุน
มีการใช้พื้นที่ชุมชนของพลเรือนเป็นฐานยิงอาวุธสนับสนุนเพื่อโจมตีฝ่ายไทย ซึ่งสะท้อนถึงความตั้งใจนำประชาชนมาอยู่ในภาวะเสี่ยงอันตราย อันเป็นการละเมิดหลักการคุ้มครองพลเรือนตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และอาจมีเจตนานำภาพเหตุการณ์ไปบิดเบือนเพื่อกล่าวอ้างต่อประชาคมระหว่างประเทศ
3. การลักลอบใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล
ฝ่ายกัมพูชายังคงมีพฤติกรรมลักลอบใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ทั้งที่เป็นภาคีสมาชิกของอนุสัญญาออตตาวา อันเป็นการละเมิดพันธกรณีระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง อีกทั้งยังปรากฏความพยายามสร้างภาพลักษณ์ที่บิดเบือนต่อองค์กรผู้สนับสนุนระหว่างประเทศ เพื่อมุ่งหวังให้ได้รับเงินทุนสนับสนุน ซึ่งขัดต่อเจตนารมณ์ของอนุสัญญาและบ่อนทำลายความเชื่อมั่นของประชาคมโลก
4. การใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายพลเรือนในพื้นที่ตอนในของประเทศไทย
ฝ่ายกัมพูชาได้ใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายพลเรือนของไทยในพื้นที่ตอนใน ส่งผลให้เกิดความสับสนอลหม่านและความเดือดร้อนแก่ประชาชนผู้บริสุทธิ์อย่างร้ายแรง จนจำเป็นต้องมีการอพยพประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสู้รบเป็นจำนวนมากกว่า 200,000 คน ซึ่งถือเป็นผลกระทบด้านมนุษยธรรมที่ไม่อาจยอมรับได้
5. การเผยแพร่ข้อมูลเท็จและการกล่าวหาโดยปราศจากข้อเท็จจริง
ฝ่ายกัมพูชาได้เผยแพร่ข้อมูลเท็จ กล่าวหาประเทศไทยว่าเป็นผู้รุกราน เป็นฝ่ายเริ่มใช้กำลังก่อน รวมถึงการกล่าวหาว่าใช้อาวุธเคมี ซึ่งล้วนเป็นข้อกล่าวหาที่ปราศจากหลักฐานและข้อเท็จจริง มีเป้าหมายเพื่อบิดเบือนสถานการณ์และมุ่งทำลายภาพลักษณ์ของประเทศไทยในเวทีระหว่างประเทศ
กองทัพบกขอย้ำอย่างชัดเจนว่า ประเทศไทยเป็นประเทศรักสงบ ไม่เคยมีเจตนารุกรานประเทศใด และมิได้เป็นฝ่ายเริ่มต้นความรุนแรง การปฏิบัติการทางทหารของฝ่ายไทยดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ หลักมนุษยธรรม และกฎการใช้กำลังอย่างเคร่งครัด โดยอาศัยสิทธิอันชอบธรรมในการป้องกันตนเองจากการกระทำที่เป็นภัยคุกคามต่ออธิปไตย ความปลอดภัยของประชาชน และบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศไทย
กองทัพบกขอเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ใช้ดุลยพินิจบนพื้นฐานของข้อเท็จจริง และร่วมกันยืนหยัดบนหลักนิติธรรม ความจริง และความรับผิดชอบ เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพ ความมั่นคง และเสถียรภาพของภูมิภาคอย่างยั่งยืน


12 ธ.ค. 2568
216 views
EP อื่นๆ
13 ธ.ค. 2568
13 ธ.ค. 2568
13 ธ.ค. 2568
13 ธ.ค. 2568
13 ธ.ค. 2568
12 ธ.ค. 2568
12 ธ.ค. 2568
12 ธ.ค. 2568
12 ธ.ค. 2568
12 ธ.ค. 2568
12 ธ.ค. 2568
12 ธ.ค. 2568
12 ธ.ค. 2568
12 ธ.ค. 2568
12 ธ.ค. 2568
12 ธ.ค. 2568
12 ธ.ค. 2568
12 ธ.ค. 2568