สถานการณ์น้ำท่วม “ภาคใต้” เริ่มลดลง แต่ยังหนัก

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ยะลา เข้าสู่วันที่ 7 หลังฝนตกหนักถึงหนักมากต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 ทำให้เกิดสถานการณ์อุทกภัย กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดยะลา โดย ปภ.ยะลา ได้สรุปสถานการณ์ ณ วันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 จังหวัดยะลา มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 8 อำเภอ 53 ตำบล 289 หมู่บ้าน 46 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 45,634 ครัวเรือน 122,350 คน อพยพ 1,668 ครัวเรือน 7,527 คน (เมืองยะลา รามัน และยะหา) บ้านเสียหายทั้งหลัง 1 หลัง บางส่วน 1 หลัง มีผู้เสียชีวิตแล้ว 5 ราย พื้นที่การเกษตรเสียหาย 15,680 ไร่ ประมง 452ไร่ ปศุสัตว์ 19,167 ตัว ถนน 9 สาย คอสะพาน 2 แห่ง ประปา 4 จุด เสาไฟฟ้า 7 ต้น ดินสไลด์ 17 จุด


จังหวัดยะลา ได้ประกาศพื้นที่ 4 อำเภอ คือ เบตง เมืองยะลา รามัน ธารโต จำนวน 28 ตำบล 150 หมู่บ้าน เป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย/เขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) พร้อมทั้งให้การช่วยเหลือด้านการดำรงชีพ และสนับสนุนเครื่องมืออุปกรณ์ต่าง ๆ ในขณะที่สถานการณ์ปัจจุบัน มีฝนตกต่อเนื่อง ในปริมาณลดลง ยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง


ทางด้านนายก้องสกุล จันทราช รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้ลงพื้นที่ ที่มีน้ำท่วมขัง เยี่ยมให้กำลังใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบ พร้อมทั้ง ติดตามสถานการณ์ การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย จากส่วนราชการ หน่วยงาน ในพื้นที่ อย่างใกล้ชิด ภาพรวมหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติม สถานการณ์จะคลี่คลายดีขึ้น


สำหรับสถานการณ์น้ำเขื่อนบางลาง ประจำวันที่ 25 พ.ย 68 ตั้งแต่เวลา 00.00 น. ปริมาณน้ำกักเก็บปกติ 1,454 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำในอ่าง อยู่ที่ 747.97 ล้านลูกบาศก์เมตร 51.4% สามารถรองรับน้ำได้อีก 706.39 ล้านลูกบาศก์เมตร 48.6% เขื่อนบางลางยังคง งดการระบายน้ำต่อไปอีก 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 26 - 28 พฤศจิกายน 2568 เพื่อช่วยลดปริมาณน้ำที่จะไหลลงสู่พื้นที่ท้ายน้ำและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน


อย่างไรก็ตาม แม่น้ำปัตตานี ยังคงมีน้ำล้นตลิ่งในหลายจุด เจ้าหน้าที่ยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด


ในพื้นที่ จ.สตูลขณะนี้ เขตเทศบาลเมืองสตูล เขตเทศบาลต.คลองขุด อ.เมืองจ.สตูล ระดับลดลงแต่ยังไม่มากในพื้นที่ลุมต่ำยังมีน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ เส้นทางหัวสะพานตายายรอยต่อเขตเทศบาลต.คลองขุด และเขตเทศบาลเมือง ระดับลดลงบ้างแล้วรถเล็กยังผ่านไม่ได้ ประชาชนต้องเดนลุยน้ำเพื่อเข้าเมืองไปทำงาน


ส่วนที่อ.ละงู ระดับเริ่มลดลงแล้วเช่นกัน อย่างที่ ต.เขาขาว ต.ละงู ระดับน้ำลดลงในบางจุด ชาวบ้านที่น้ำเริ่มลดก็เร่งเก็บกวาด พื้นที่แยกมหาจันทร์ ย่านเศรษฐกิจ เขตเทศบาลต.กำแพง ระดับน้ำยังท่วมสูง แม้ว่าในเช้าวันนี้สตูลยังไม่มีฝนตกแต่ท้องฟ้ายังคงมืดครึ้ม ชาวบ้านยังคงไม่ไว้วางใจ ยังคงติดตามสถานการณ์ตลอดเวลา พื้นที่ได้รับผลกระทบรวม 7 อำเภอ 30 ตำบล 219 หมู่บ้าน 20 ชุมชนมีประชาชนได้รับผลกระทบ 26,349 ครัวเรือน 68,926 คนมี ผู้บาดเจ็บ 18 คน และผู้เสียชีวิต 2 ราย เส้นทางหลวงรวม 17 เส้นทาง ผ่านได้ 10 เส้นทาง ผ่านไม่ได้ 7 เส้นทาง จากน้ำท่วมผิวถนนแนวโน้มสถานการณ์ฝนลดลงต่อเนื่องในหลายพื้นที่ แต่ต้องเฝ้าระวัง น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาและชุมชนใกล้ลำธาร


ด้านผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.พัทลุง ยังอ่วมหนักบางพื้นที่ของอำเภอปากพะยูนวิกฤติ ถูกตัดไฟถูกตัดขาดจากโลกภายนอกเส้นทางรถไม่สามารถใช้สัญจรผ่านไปมาได้ การเข้าถึงหน่วยงานของรัฐค่อนข้างลำบาก


หลังฝนตกต่อเนื่องเป็นเวลา 9 วันเต็ม หลายพื้นที่ทั้ง 11 อำเภอยังคงถูกน้ำท่วมขัง บางแห่งระดับน้ำยังเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ ริมทะเลสาบสงขลา อ.ควนขนุน อ.เมือง อ.บางแก้ว อ.ปากพะยูน และเขาชัยสน ในขณะนี้ถือว่าวิกฤติสุดๆ โดยเฉพาะ อำเภอปากพะยูน ซึ่งถือเป็นพื้นที่วิกฤต ขณะนี้ถูกตัดกระแสไฟฟ้าและตัดขาดจากโลกภายนอก ถนนทุกเส้นทางไม่สามารถนำรถยนต์ขนาดเล็กผ่านเข้าออกได้ จำเป็นต้องใช้รถยนต์ขนาดใหญ่หรือเรือเท่านั้นในการลำเลียงสิ่งของและเข้าช่วยเหลือประชาชน ทำให้รถของทางราชการและรถของหน่วยงานรัฐไม่มีบริการ ทำให้ชาวบ้านที่เป็นภาคเอกชน คอยช่วยเหลือ อพยพชาวบ้านออกมาพักพิงชั่วคราว ตามวัดและโรงเรียน อย่างเช่นที่บ้านท่าไหล อ.ดอนประดู่ ชาวบ้านกว่า 120 ครอบครัวต้องอพยพหนีน้ำท่วม หลังจากน้ำทะเลหนุนสูงเป็นประวัติกาล


เช่นเดียวกับชาวบ้านในพื้นที่ ต.เกาะนางคำ อ.ปากพะยูน เส้นทางเข้าในหมู่บ้านทุกเส้นทางระดับน้ำท่วมสูง กว่า 1 เมตร ต้องใช้รถใหญ่ของเอกชนเท่านั้นที่คอยช่วยเหลือและลำเลียงสิ่งของเข้าไปช่วยเหลือ สภาพพื้นที่ทั้งเกาะกลายเป็นทะเลโดยสิ้นเชิง ทำให้ชาวบ้านกว่า 3,000 ครอบต้องจมอยู่ใต้น้ำ พร้อมทั้งต้องย้ายออกจากบ้าน อาศัยตามวัด โรงเรียน และมัสยิส เป็นที่หลับนอน


การเข้าถึงยากลำบากเนื่องจากน้ำท่วมทั้งเกาะ โดยล่าสุด ทางนายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง ได้นำข้าวสาร พร้อมไข่ไก่ นำขึ้นรถสิบล้อ เพื่อส่งไปบรรเทาทุกข์ในเบื้องต้น แต่การเดินทางค่อนข้างยากลำบากเนื่องจากถนนกลายเป็นทะเล การบรรเทาทุกในเบื้องต้นเป็นไปได้อย่างช้า ๆ ชาวบ้านต้องอาศัยกันอย่างยากลำบาก ขณะที่ทางเทศบาลเกาะนางคำที่คอยดูแลช่วยเหลือตลอดทั้งวัน รับมือไม่ไหว ร้องขอความช่วยเหลือจากด้านนอกแต่การช่วยเหลือเรื่องขนย้ายยังคงเป็นไปได้ยาก ระดับน้ำยังคงท่วมเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากทะเลสาบสงขลา เป็นที่รองรับน้ำจาก จังหวัดพัทลุง นครศรีธรรมราช และสงขลา ทำให้น้ำยังเพิ่มประมาณประกอบกับน้ำทะเลหนุน


ขณะที่เพจ Pr.Songkhla ประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา คาดการณ์ปริมาณน้ำฝน 27 พฤศจิกายน 2568 หลายอำเภอยังมีฝนหนัก ขณะที่ระดับน้ำท่วมในเขตอำเภอหาดใหญ่ลดลง


ด้าน หน่วยกู้ภัยแม่โจ้ ซึ่งลงพื้นที่ช่วยเหลือน้ำท่วมหาดใหญ่ เผยว่า สถานการณ์โดยรวมน้ำลดลงเยอะ แต่เรือเข้าออกยาก เพราะใต้น้ำมีรถมีเศษซาก เรือมีชนบ้าง บางส่วนติดท้องเรือเพราะน้ำลดเกือบแห้ง แต่ก็ยังมีบางพื้นที่ที่ยังท่วมสูงอยู่


แต่ในข่าวดีมีข่าวร้ายเช่นกัน มีหลายบ้านเคสผู้เสียชีวิตในบ้านร่างผู้เสียชีวิตเริ่มส่งกลิ่น อาหารคลานแคลนเยอะมาก ทีมเราพอหาอาหารแห้งและน้ำได้ วันนี้จะกระจายให้ได้มากที่สุด ตอนนี้การติดต่อภายในพื้นที่หาดใหญ่ ค่อนข้างยาก แต่พวกเราจะทำสุดความสามารถ วันนี้เรามีกำลังเสริมจากเชียงใหม่ 6 นาย มาช่วยเสริมทีม เราจะทำงานได้มากขึ้น เราจะลุยได้เต็มที่