23 พ.ย. 2568
"ธนาธร"ชู "เมกะโปรเจกต์สีส้ม" ทุ่ม 6.3 แสนล้าน 8 ปี เปลี่ยนไทยเป็นประเทศพัฒนาแล้ว
23 พ.ย. 2568 ที่อาคารอนาคตใหม่ ในกิจกรรมรีชาร์จประชาชน Recharge the People เป็นวันที่ 2 ในการเสวนาหัวข้อคุณภาพชีวิตดีที่คนไทยคู่ควร นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำคณะก้าวหน้า ร่วมเปิดเวทีในหัวข้อ “Orange Megaprojects การลงทุนครั้งใหญ่เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย” ว่า วันนี้ทางพรรคขอให้ตนมานำเสนอเรื่อง Orange Megaprojects ซึ่งเวลาเราคิดถึงเมกะโปรเจกต์ เราคิดถึงสะพาน ตึกหรือสิ่งที่เป็นโครงสร้างใหญ่ๆ พรรคประชาชนบอกว่าเราควรต้องกลับมาลงทุนกับคุณภาพชีวิตของประชาชน การเพิ่มคุณภาพชีวิตของคนถึงจะเป็นเมกะโปรเจกต์ เวลาเราบอกว่าเราอยากเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว เราอยากเป็นเหมือนเขาด้านอะไร อย่างแรกเราอยากมีรายได้ เราอยากให้คนของเรามีรายได้ต่อเดือนเท่าเขา และเราอยากได้คุณภาพชีวิตเท่าเขา ดังนั้นเวลาเราบอกว่าเราอยากเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วมี 2 มิติ คือมิติด้านรายได้ และมิติด้านคุณภาพชีวิต
นายธนาธร กล่าวว่า โดยตนอยากเริ่มจากการพาทุกคนไปดูปัญหาใหญ่ๆ ของประเทศไทยว่ามีอะไรบ้าง อย่างแรกคือการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยในรอบ 30 ปีที่ผ่านมา ซึ่งหากเราดูการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจตัวเลขจีดีพีเราจะเห็นว่ามีทั้งปีขึ้นและปีลง 10 ปีมีปัญหา 1 ครั้ง แต่ในภาพรวมยังเติบโตอยู่ แต่หากเราดูเป็นทศวรรษ ทศวรรษที่ 2530 เรามีการเติบโตเฉลี่ย 7.3 % ต่อปี ทศวรรษที่ 2540 เราเติบโตเฉลี่ยต่อปี 5.3 % ทศวรรษที่ 2550 การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ 3.2% ต่อปี และทศวรรษนี้ เหลือ 2.0 %ต่อปี ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเรากำลังแข่งขันกับโลกไม่ได้ เราเติบโตสู้กับชาวบ้านไม่ได้ ซึ่งไม่ใช่สะท้อนเฉพาะปัญหาเฉพาะหน้าแต่สะท้อนปัญหาที่สะสมมายาวนานซึ่งแก้ไขได้ยากกว่ามีวิกฤตเฉพาะหน้าแล้วลงลึก
นายธนาธร กล่าวต่อไปว่า การใช้จ่ายและการลงทุนในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ไม่ก่อให้เกิดการเติบโตของรายได้ ทำให้เงินที่เรากู้มาเป็นสัดส่วนมากขึ้นกว่ารายได้ ซึ่งสะท้อนว่าเราลงทุนอย่างไม่มีประสิทธิภาพ และการตรวจสอบของเราตั้งแต่เป็นพรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล และพรรคประชาชนในฐานะฝ่ายค้านก็บอกเช่นนั้น เช่น เราเจอเรื่องตึกที่สร้างขึ้นมาแล้วไม่ได้ใช้งาน และหากเรายังใช้ต่อไปอย่างไม่มีประสิทธิภาพดอกเบี้ยต่อประมาณการรายได้ของรัฐก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รัฐบาลต่อไปจะแบกรับภาระที่หนักมาก เงินจะเหลือให้นำไปพัฒนาน้อยลงเพราะต้องเอาไปจ่ายดอกเบี้ยที่มากขึ้น ต่อไปต้องใช้เงินอย่างชาญฉลาดและมีประสิทธิภาพ สร้างผลการเติบโตต่อไปในอนาคตให้กับประเทศได้จริง
นายธนาธร กล่าวต่อไปว่า สิ่งที่ตนอยากเสนอการใช้จ่ายภาครัฐที่มาจากภาษีของทุกคน คือ
1.จะต้องเพิ่มคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น แก้ปัญหาสังคมได้
2.สร้างงานที่มีคุณภาพ คนต้องมีงานทำ และต้องเป็นงานที่มีคุณภาพ
3.สร้างอุตสาหกรรมใหม่ สร้างเทคโนโลยีของคนไทย
4.ทำให้ประเทศไทยพร้อมรับมือสำหรับความท้าทายในอนาคต
เราเสนอ 6.3 แสนล้านบาทใน 8 ปี ซึ่งจะถือเป็นการลงทุนครั้งใหญ่เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับคนไทยให้เทียบเท่ากับประเทศที่พัฒนาแล้วได้ แบ่งเป็นการจัดการน้ำเสีย 6 หมื่นล้านบาท น้ำประปาดื่มได้ 7.5 หมื่นล้านบาท ขนส่งสาธารณะ 3.7 หมื่นล้านบาท การจัดการขยะ 1.83 แสนบ้านบาท โรงเรียน 5 หมื่นล้านบาท โรงพยาบาล 3 หมื่นล้านบาท และโครงข่ายไฟฟ้าอัจรยะ 1.92 แสนล้านบาท ตัวเลขอาจฟังดูเยอะแต่เมื่อหารด้วย 8 ปีแล้ว ออกมาปีละไม่ถึง 8 หมื่นล้านบาท ซึ่งพอเป็นไปได้ที่จะลงทุนสิ่งต่างๆ เหล่านี้ เพื่อให้กลับมาสะท้อนคุณภาพชีวิตของประชาชน
“หากเราไม่กล้าคิดอย่างทะเยอทะยานเราจะไปไม่ถึง หลายคนฟังแล้วบอกว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ลองให้โอกาสพวกเราดู ผมคิดว่านี่เป็นเวลาของการกล้าทะเยอทะยาน นี่คือสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงไปหากพรรคประชาชนได้รับความไว้วางใจ ให้เข้ามาบริหารจัดการงบประมาณ งบฯ จะไม่ถูกใช้อย่างสะเปะสะปะ แต่จะถูกใช้อย่างมีเป้าหมาย เราจะทำให้คงเส้นคงวาและทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้ให้เป็นจริง เหตุผลที่ต้องใช้ 8 ปี เพราะเรื่องเหล่านี้มันใหญ่ 4 ปีไม่จบ 8 ปีตั้งเป้าแบบนี้ว่าจะมีบริการเหล่านี้ให้ทัดเทียมกับประเทศพัฒนาแล้ว ผมคิดว่ามีโอกาส ขอทุกคนเดินทางไปกับพวกเรา ให้กำลังใจพวกเรากล้าคิดอย่างทะเยอทะยานไปด้วยกัน” นายธนาธร กล่าว
23 พ.ย. 2568
397 views
EP อื่นๆ
23 พ.ย. 2568
23 พ.ย. 2568
23 พ.ย. 2568
23 พ.ย. 2568
23 พ.ย. 2568
23 พ.ย. 2568
23 พ.ย. 2568
23 พ.ย. 2568
23 พ.ย. 2568
23 พ.ย. 2568
23 พ.ย. 2568
23 พ.ย. 2568
23 พ.ย. 2568
23 พ.ย. 2568
23 พ.ย. 2568
23 พ.ย. 2568
23 พ.ย. 2568
22 พ.ย. 2568