สมัชชาสงฆ์ “กัมพูชา” มีมติ ส่งพระลงชายแดนให้กำลังใจทหาร-ปชช.

“กัมพูชา” ประกาศให้พระสงฆ์ทั่วประเทศกว่า 7 ล้านรูปเข้ามามีบทบาทเชิงรุกด้านมนุษยธรรม ด้วยการให้ลงพื้นที่ตามแดนชายแดนและพื้นที่ขัดแย้ง เพื่อเยี่ยมเยียนและเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ทหาร ตำรวจ และประชาชนที่ต้องพลัดถิ่นจากเหตุการณ์ความไม่สงบ


คณะกรรมการบริหารของคณะสงฆ์สองนิกาย ได้แก่ คณะมหานิกายและคณะธรรมยุต ได้ตกลงที่จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งของโครงสร้างความเป็นผู้นำ ยกระดับคุณภาพการศึกษาทางพุทธศาสนา และส่งเสริมคำสอนทางพุทธศาสนากับพระธรรมวินัยให้กว้างขวางยิ่งขึ้น


โดยคณะกรรมการได้ประกาศว่า พระสงฆ์ทุกสมณศักดิ์ทั่วราชอาณาจักรควรมีส่วนร่วมในงานด้านมนุษยธรรม ด้วยการลงพื้นที่เยี่ยมเยียนและสร้างขวัญกำลังใจแก่ผู้พลัดถิ่น ทหาร และตำรวจ ที่เสียสละปกป้องชาติ การกระทำเช่นนี้จะช่วยบรรเทาความทุกข์ยากของสังคม และมีส่วนสนับสนุนภารกิจต่อเนื่องของรัฐบาลในการปกป้องสันติภาพ อธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดน


พระมหาขิม ศร รองสมเด็จพระสังฆราชแห่งคณะมหานิกายชี้ว่า "การเยียวยาจิตใจ" เป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะความทุกข์ทางใจนั้นรับมือได้ยากกว่าความลำบากทางกาย ซึ่งพระสงฆ์มีบทบาทสำคัญในการช่วยสร้างความเข้มแข็งทางจิตใจให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบ


ท่านยังระบุอีกว่า ที่ผ่านมาพระสงฆ์ได้ดำเนินโครงการให้การศึกษาด้านจิตวิทยาและศีลธรรมในโรงเรียน ชุมชน และแม้กระทั่งในเรือนจำมาอย่างยาวนาน และในปัจจุบัน การมีส่วนร่วมของพระสงฆ์ยิ่งมีความสำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งตามแนวชายแดนกัมพูชา-ไทย จึงขอให้พระสงฆ์ก้าวเข้ามาช่วยบรรเทาความทุกข์นี้ผ่านการชี้แนะด้านจิตใจและจิตวิญญาณ


ประกาศนี้มีขึ้นหลังจากที่กัมพูชาได้จัดการประชุมสมัชชาสงฆ์แห่งชาติครั้งที่ 33 เป็นเวลา 3 วัน ณ สถาบันการศึกษาแห่งชาติ และสิ้นสุดลงเมื่อวันพุธ (19 พ.ย.) ที่ผ่านมา


โดยสมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภา ได้กล่าวเปิดการประชุม ยกย่องว่าคณะสงฆ์คือ "พลังสำคัญ" ที่ช่วยฟื้นฟูค่านิยมของชาติ และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันส่งเสริมพุทธศาสนาให้เป็นเสาหลักของสังคมต่อไป


ทั้งนี้ จากข้อมูลของกระทรวงกิจการศาสนาของกัมพูชาระบุว่า ปัจจุบัน ทั่วประเทศ มีวัด 5,144 แห่ง และพระสงฆ์ 7,555,600 รูป