โผล่อีก ยายถูกคนร้ายข่มขืนกลางไร่มัน คาดเป็นคนเดียวกับก่อเหตุ 2 ยายโคราช

จากกรณีที่มีคุณยาย อายุ 78 ปี และอายุ 68 ปี ชาวจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งทั้งสองเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ว่าถูกคนร้ายล่วงละเมิด โดยทั้งสองคดี คนร้ายสวมหมวกไอ้โม่งปิดบังใบหน้า บังคับล่วงละเมิดกลางทุ่งนา เบื้องต้นคาดว่าเป็นคนร้ายคนเดียวกัน ซึ่งตำรวจยังจับกุมคนร้ายไม่ได้

วันที่ 25 ธันวาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ คนร้ายเคยก่อเหตุข่มขืนนางสมใจ (นามสมมติ) วัย 60 ปี เหตุเกิดกลางไร่มันสำปะหลัง ในพื้นที่บ้านหนองโคบาล หมู่ 6 ต.บึงพะไล อ.แก้งสนามนาง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้เคียงกับบริเวณที่เกิดเหตุของหญิงสูงอายุ 2 รายแรก โดยเหตุการณ์ครั้งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2567 และจนถึงขณะนี้ ตำรวจก็ยังไม่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้

หญิงสูงอายุผู้เสียหาย เปิดเผยว่า วันที่เกิดเหตุ ตนได้ออกไปตัดหญ้าในไร่มันสำปะหลัง ซึ่งขณะที่ตนกำลังถางหญ้าอยู่ มีคนร้ายเดินเข้ามาทางด้านหลัง แล้วกอดล็อกตัวของตนไว้ ตนเองจึงสะบัดขัดขืนแต่ไม่หลุด ตอนแรกคิดว่าเป็นลูกชายของตนเอง จึงได้เรียกชื่อลูกชายออกไปหลายครั้ง แต่ไม่ได้ยินเสียงตอบรับ  และคนร้ายได้กดหัวตัวเองลงในร่องมันสำปะหลัง พร้อมกับถามหาเงิน ตนเองจึงบอกว่าเงินอยู่ที่รถจักรยานยนต์ แต่คนร้ายก็ไม่สนใจ และลงมือถลกกางเกงของตนเองออก แล้วใช้เสื้อกางเกงมัดแขนกับเท้าตนไว้ ก่อนที่คนร้ายลงมือข่มขืนตนจนสำเร็จ ตนจึงอาศัยจังหวะคนร้ายเผลอ ลุกขึ้นวิ่งหนีออกมาขอความช่วยเหลือชาวบ้าน ทั้งๆ ที่มือและเท้าของตนยังถูกมัดอยู่ ตนรู้สึกหวาดผวาตกใจมาก และยังจำภาพเหตุการณ์ได้ติดตา อยากฝากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ ทั้งนี้คาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนเดียวกันกับที่มีข่าว

ด้าน พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ร่วมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา และชุดสืบสวน สภ.บัวใหญ่ เร่งสืบสวนดำเนินการหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ เนื่องจากคดีดังกล่าวมีผลกระทบสร้างความหวาดกลัวให้กับพี่น้องประชาชน ทั้งนี้ชุดสืบสวนสามารถเก็บดีเอ็นเอของคนร้ายที่ก่อเหตุไว้แล้ว ขณะนี้ได้นำผลดีเอ็นเอไปตรวจสอบ และแบ่งกลุ่มผู้ต้องสงสัยไว้ โดยมุ่งเน้นไปที่กลุ่มคนที่มีประวัติเคยก่อคดีทางเพศ และคดีอาชญากรรมต่างๆ นำไปเปรียบเทียบดีเอ็นเอเพื่อหาตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็ว ส่วนคนร้ายจะเป็นในพื้นที่หรือไม่นั้น จากข้อมูลขณะนี้ เป็นไปได้ทั้งหมดว่าคนร้ายอาจเป็นคนในพื้นที่หรือนอกพื้นที่ก็ได้

โดย nutda_t