“จ่าเฉย” เลื่อนยศ! เป็น “สารวัตรเฉย AI” คุมกล้องวงจรปิดตรวจจับความผิดบนท้องถนน

บก.จร.เลื่อนยศ “จ่าเฉย” อัปเกรดเป็น “สารวัตรเฉย AI” ใช้กล้องวงจรปิด AI ยืนตรวจจับการกระทำผิดบนถนนแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนส่งข้อมูลไปศูนย์ปฏิบัติการเพื่อออกใบสั่งได้ทันที เริ่มทดลองใช้แล้ว 25 ม.ค.

ภาพของ “สารวัตรเฉย” พ.ต.ต.เฉย ปัญญาประดิษฐ์ ที่กำลังออกปฏิบัติหน้าที่ตรวจจับรถที่กระทำความผิดตามท้องถนน โดยสารวัตรเฉยเริ่มออกปฏิบัติการครั้งแรก คือเมื่อวานนี้ (25 ธ.ค.) โดยอยู่บริเวณตรงถนนราชณดำเนิน สร้างความตื่นเต้นให้กับประชาชนที่สัญจรไปมาที่ได้เห็นภาพลักษณ์ที่เปลี่ยนไปของสารวัตรเฉย

พ.ต.ท.ทศพร กลีบแก้ว รอง ผกก.2 บก.จร. ระบุว่า หลังจากที่จ่าเฉย ยืมเฉยมานาน วันนี้ได้พัฒนาและให้เป็นระบบ ai และได้รับการเลื่อนขั้นยศใหม่ คือ “สารวัตรเฉย” โดยมีโมเดลมาจากตนเอง มีความสูงอยู่ที่ 180 เซนติเมตร ถ้ารวมฐานจะความสูงอยู่ประมาณ 200 เซนติเมตร มีสารวัตรเฉยจะทำหน้าที่หลักๆ อยู่ 4 เรื่อง คือ จอดในที่ห้ามจอด กีดขวางการจราจร ไม่สวมหมอกกันน็อก ขับรถย้อนศร และ ยังสามารถตรวจสอบอุบัติเหตุ หรืออาชญากรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามท้องถนนได้

โดยจุดเริ่มต้นมาจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เพียงพอต่อการปฏิบัติหน้าที่ และการที่จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปยืนปฎิบัติงานทั้งวันนั้นไม่สามารถที่จะทำได้ จึงได้นำโมเดลเดิมที่เป็นจ่าเฉยยืมนิ่ง มาพัฒนาใช้เวลาประมาณ 1 ปี และปรับให้เป็นสารวัตรเฉย ที่ใช้งานด้วยระบบ ai จะเป็นกล้องวงจรปิด ai ที่ทำหน้าที่เหมือนตาคอยสอดส่องดูแลความเรียบร้อยและปลอดภัยให้กับประชาชน ซึ่งในตัวสารวัตรเฉยจะประกอบไปด้วยกล้องวงจรปิด ai แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ตัวส่งสัญญาณมือถือส่งข้อมูลทั้งหมดมายังศูนย์ควบคุมที่กองบังคับการตำรวจจราจร (บก. จร.)

โดยโมเดลนี้จะทำได้เพียงแค่ด้านหน้าไม่สามารถหันซ้ายหรือหันขวาได้ภาพที่สามารถเก็บได้อยู่ที่มุมประมาณ 45 องศา โดยเป็นกล้องที่มีความละเอียดสูงสามารถจับหน้าคนได้ชัดเจน รวมถึงทะเบียนรถต่างๆ ได้อย่างชัดเจน

โดยที่สารวัตรเฉย จะใช้งานต่อครั้งได้ประมาณ 3 ถึง 4 ชั่วโมงแต่ความจำในการเก็บภาพ หรือข้อมูลนั้นจะใช้ที่เก็บข้อมูลเดียวกับที่ กองบังคับการตำรวจจราจร ฉะนั้นภาพก็จะสามารถเก็บได้อยู่เรื่อยๆ โดยที่สารวัตรเฉยจะไม่ตั้งไว้อยู่นิ่งๆ แต่จะนำสารวัตรเฉยไปอยู่บนรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และขับตะเวนเพื่อคอยตรวจจับผู้ที่กระทำความผิดตามท้องถนน

ซึ่งเมื่อสารวัตรเฉยสามารถตรวจจับได้ว่ารถคันไหนกระทำความผิดก็จะมีการจดจำ จากนั้นจะส่งข้อมูลของรถที่กระทำความผิดไปยังศูนย์เก็บข้อมูลที่กองบังคับการตำรวจจราจร จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะคอยเช็คความถูกต้องอีกครั้งหนึ่ง ทั้งในเรื่องของทะเบียนรถว่ามีการตรวจสอบถูกต้องหรือไม่และจะตรวจสอบทุกตัวอักษรก่อนที่จะส่งใบสั่งอัตโนมัติไปบ้านของผู้ที่กระทำความผิดโดยตรง ซึ่งหลังจากนี้ก็จะมีการทดลองใช้ไปในระยะหนึ่ง หากใช้งานได้ดีก็จะมีการขยายโมเดลสารวัตรเฉยให้มีมากขึ้นและตรวจตราตามจุดต่างๆ มากยิ่งขึ้น

พ.ต.ท.ทศพร ยังประชาสัมพันธ์ LINE OFFICIAL ของทาง บก.จร.ที่สามารถตรวจสอบได้ว่าพื้นที่ไหนบ้างเป็นพื้นที่ห้ามจอด เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน และป้องกันการกระทำความผิดในเรื่องของการจอดรถ

โดย nicharee_m