25 ธ.ค. 2567
ชาวเน็ตวิจารณ์ สาเหตุรถพุ่งชนขอบทางขึ้นสะพาน เจ็บ 3 จนท.เร่งแก้ เส้นถนน-แนวก้างปลา-เสาล้มลุก
ตร.บางบ่อ ชี้ปัจจัยวิศวกรรมทางถนนทำเกิดอุบัติเหตุได้ ด้านแขวงทางหลวงสมุทรปราการ รุดลงพื้นที่ เร่งแก้ให้แล้วเสร็จใน 3 วัน ทั้ง ตีเส้นเครื่องหมายบนพื้น-ขยายแนวก้างปลา-ทำเสาล้มลุกยาวขึ้น ขณะที่อีกมุมตั้งคำถาม คนขับเมา-หลับในหรือไม่ ตร.แจง รอผลตรวจแอลกอฮอล์ในเลือดออกเที่ยงวันนี้ (5 ธ.ค.)
กรณีช่วงเช้ามืด วันที่ 4 ธ.ค.67 เวลา 04.56 น. ที่ผ่านมา บนถนนเทพรัตน (บางนา-ตราด) กม.32 ช่องคู่ขนาน ขาเข้า กทม. ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ เกิดอุบัติเหตุขณะที่รถกระบะขับมาเลนคู่ขนาน โดยขับเกาะตามเส้นแบ่งเลน (เส้นประสีขาว) แต่จู่ ๆ เมื่อขับไปตามเส้นประ ซึ่งเป็น 2 เลน แต่ขับไปสักพัก ช่องทางจราจรกลับเหลือ 1 เลน ทำให้พุ่งชนทางขึ้นสะพานกลับรถ ชนแบริเออร์ป้ายบอกทางเต็มแรง
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย คือ นายทินกร อายุ 31 ปี คนขับ นายธีรพล อายุ 43 ปี นั่งข้างคนขับ และนายไพรวัลย์ อายุ 34 ปี นั่งแค็บ โดยอาสากู้ภัยได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและนำตัวส่งโรงพยาบาลบางบ่อ สำหรับอาการของทั้ง 3 ราย พบว่า คนขับ จมูกแตก, ปากแตก ส่วนคนนั่งข้างคนขับ หน้าอกกระแทก เลือดออกตรงช่องหน้าอก ส่วรคนนั่งแค็บบาดเจ็บเล็กน้อย ซึ่งทั้งหมดถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลตามสิทธิ์ประกันสังคมในพื้นที่ จ.ชลบุรี
ทีมข่าวได้รับข้อมูลจากเพื่อนร่วมงาน ของทั้ง 3 ราย บอกว่า ทั้งหมดมาทำงานติดตั้งเครื่องเสียงแถว ๆ ถนนข้าวสาร เดินทางมาจาก จ.ชลบุรี และเสร็จงานเวลาประมาณ 03.00 น. ก็แยกย้ายกันกลับชลบุรี ส่วนที่เกิดเหตุขาเข้า กทม. เพราะว่าทั้ง 3 คน กำลังยูเทิร์นไปเอารถของเพื่อนอีกคันแถว ๆ นั้น
ภายหลังรายการเรื่องเล่าเช้านี้ รวมทั้งเพจกรรมกรข่าว ได้นำเสนอเหตุการณ์นี้ ปรากฏว่ามีหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นหลากหลายแง่มุม ส่วนใหญ่พูดถึงสาเหตุว่า เกิดจากเรื่องการตีเส้นถนน ว่าตีเส้นได้กระชั้นชิดมาก ทำให้คนขับอาจไม่ทันได้สังเกตจนเกิดอุบัติเหตุ บางคนบอกว่า ขับมาดีๆ เอ้า เลนหายเฉย, เคสนี้โทษเส้นถนนนะ, ตีเส้นแบบนี้ได้ไงเนี่ย โคตรชุ่ย ฯลฯ
ต่อมาช่วงบ่าย วันที่ 4 ธ.ค.67 ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.ท.พัฒนา มูลการณ์ สารวัตรจราจร สภ.บางบ่อ โดยจุดดังกล่าวพบว่า เป็นถนนบางนา-ตราด กม.32 ขาเข้า กทม.
โดยพบว่า จุดดังกล่าวมีสะพานกลับรถที่เพิ่งเปิดใช้งานเมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา ก่อนถึงสะพานกลับรถมีทางด่วนที่รถสามารถเบี่ยงลงมาใช้ทางปกติหรือกลับรถบนสะพานได้ ส่วนทางปกติมี 3 เลน ก่อนปรับเหลือ 2 เลนก่อนขึ้นสะพานกลับรถ ระยะทางไม่ถึง 100 เมตร ส่วนบนพื้นถนนไม่มีสัญลักษณ์หรือลูกศรจากทางปกติ 3 เลน ว่าให้เบี่ยงขึ้นสะพานกลับรถ ส่วนทางเบี่ยงลงมาจากทางด่วนไม่มีลูกศรเบี่ยงออกทางปกติเช่นกัน อีกทั้งจุดดังกล่าวไม่มีป้ายระบุว่าข้างหน้ามีสะพานกลับรถ มีเพียงแบริเออร์และป้ายบอกทางที่ถูกที่เห็นได้แบบกระชั้นชิดที่ถูกชนพังไปเท่านั้น
ขณะเดียวกัน น้องชายของหนึ่งในคนเจ็บ บอกว่า ตนได้คุยกับพี่ชายที่ได้รับบาดเจ็บเบื้องต้นแล้ว พี่ชายบอกว่าตอนเกิดเหตุรู้สึกว่าทางค่อนข้างมืดมาก และอยู่ ๆ ทางจาก 3 เลน ก็กลายเป็น 2 เลน และคนขับน่าจะไม่ชินทางด้วยจึงทำให้เกิดุบัติเหตุ
นอกจากนี้ ทีมข่าวได้คุยกับ พ.ต.ท.พัฒนา มูลการณ์ สารวัตรจราจร สภ.บางบ่อ ถึงเหตุการณ์ครั้งนี้สาเหตุมาจากอะไรกันแน่ โดย พ.ต.ท.พัฒนา บอกก่อนว่า ไม่ว่าจะเป็นรถ ถนนหรือคน เป็นปัจจัยให้เกิดอุบัติเหตุได้ทั้งหมด แต่ในฐานะตำรวจ ได้ดูคลิปดังกล่าวแล้วมองว่ารถกระบะขับมาค่อนข้างเร็ว เบื้องต้นอาจสันนิษฐานไว้ด้วยว่าอาจมีอาการเมาหรือไม่ หรือหลับในหรือเปล่า ซึ่งทางตำรวจ สภ.บางบ่อ ที่ลงพื้นที่ตอนเกิดเหตุ ยังไม่สามารถให้คนเจ็บเป่าแอลกอฮอล์ได้เนื่องจากว่าทั้ง 3 คนได้รับบาดเจ็บ แต่ได้ประสานให้แพทย์ตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดแล้ว คาดว่าจะทราบผลในเที่ยงวันนี้ (5 ธ.ค.)
พ.ต.ท.พัฒนา ยังบอกว่า อีกหนึ่งปัจจัยที่ตั้งข้อสังเกตไว้คือคนขับอาจไม่ชำนาญทาง แต่ก็ยังไม่ฟันธงว่าสาเหตุมาจากอะไร
ทีมข่าวถามต่อถึงข้อสงสัยในสังคมส่วนใหญ่ที่มองว่าสาเหตุมาจากวิศวกรรมทางถนน จนทำให้เกิดอุบัติเหตุ ประเด็นนี้ พ.ต.ท.พัฒนา กล่าวว่า ปัจจัยวิศวรกรรมทางถนน ก็อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุเช่นกัน สำหรับถนนเส้นนี้ จะเห็นได้ว่ามี 3 เลน พอมาใกล้ถึงจุดเกิดอุบัติเหตุจะเห็นว่าเป็นทางบีบเข้า ที่ไม่มีลูกศรและเครื่องหมายสัญญาณซึ่งตามหลักแล้วควรมีบอกชัดเจน ซึ่งช่วงเช้าวันที่ 4 ธ.ค.67 ได้ลงพื้นที่พร้อมกับแขวงการทางสมุทรปราการ เพื่อดูว่าจะมีวิธีการแก้ไขอย่างไรต่อไป เบื้องต้นระหว่างลงพื้นที่ได้สอบถามทางแขวงการทางสมุทรปราการเช่นกัน ว่าเรื่องวิศวกรรมทางถนนเป็นสาเหตุหรือไม่ แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบ ณ ตอนนั้น แต่หากดูตามตามคลิป ยืนยันว่าวิศวกรรมทางถนนที่จาก 3 เลนเป็น 2 เลน แบบกระชั้นชิด ก็เป็นปัจจัยทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
พ.ต.ท.พัฒนา ในฐานะหัวหน้างานจราจร สภ.บางบ่อ ยังบอกอีกว่า หลังจากเกิดเหตุตนได้มีโอกาสมาสังเกตพฤติกรรมการใช้รถใช้ถนนจุดดังกล่าว พบว่าหากเรามองทางตรงจะเห็นว่ารถที่วิ่งเข้ามา 3 เลน หากวิ่งมาถึงจุดดังกล่าวอาจไม่รู้ว่าด้านหน้ามีสะพานกลับรถ หากคนที่ไม่ชำนาญอาจวิ่งเลยไปได้ แต่หากคนที่มีสติอยู่อาจจะสังเกตได้ว่ามีเสาล้มลุก และเส้นทะแยงให้สัญญาณอยู่ ส่วนเรื่องความสว่างเป็นปัจจัยด้วยหรือไม่นั้น ส่วนตัวมองว่าจุดดังกล่าวมีแสงสว่างเพียงพอ
พ.ต.ท.พัฒนา กล่าวต่อว่า ตรงจุดเกิดเหตุ เป็นช่วงที่มีสะพานกลับรถ ซึ่งเปิดทำการตั้งแต่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้บริเวณดังกล่าวมีจุดกลับรถแต่เป็นจุดกลับรถทางเรียบ ซึ่งถือได้ว่าอันตรายและเกิดอุบัติเหตุบ่อยมากแทบทุกเดือน แต่หลังก่อสร้างสะพานแล้วเสร็จ ไม่เคยเกิดเหตุลักษณะแบบนี้มาก่อน แต่มีบ้างที่รถตกสะพาน ซึ่งถือได้ว่าหลังสร้างสะพานและเปิดใช้งานแล้ว อุบัติเหตุจุดนี้น้อยลงมาก
ขณะที่ แขวงทางหลวงสมุทรปราการ ในฐานะเจ้าของพื้นที่ดูแลรับผิดชอบจุดดังกล่าว เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.67 ที่ลงพื้นที่หลังจากเกิดอุบัติเหตุ และได้รายงานความคืบหน้ามายังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบ่อ ว่าจะดำเนินการแก้ไขวิศวกรรมทางถนนภายใน 3 วัน ประกอบด้วย ทำการตีเส้นเครื่องหมายบนพื้นทาง (เบี่ยงเข้า) ในช่องทางคู่ขนานด้านขวาสุด และจะขยายแนวก้างปลา เสาล้มลุกให้มีระยะยาวออกไปอีก รวมทั้งแก้ไขสัญญาณไฟกระพริบให้กลับมาใช้เหมือนเดิม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากการตั้งข้อสังเกตเรื่องการตีเส้นถนน หรือวิศวรกรรมทางถนนแล้วนั้น ยังมีการตั้งข้อสังเกตด้วยว่า คนขับเมาหรือหลับในหรือไม่ ปรากฏว่ามีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งเข้ามาแสดงความคิดเห็นในเพจ กรรมกรข่าว ทราบในเวลาต่อมาว่าเป็นแฟนของนายไพรวัลย์ คนบาดเจ็บ ที่นั่งข้างคนขับ โดยเธอคอมเมนต์ระบุว่า “ต่างคนต่างความคิดนะ เราเป็นแฟนคนที่เกิดอุบัติเหตุ เขาเลิกงานแล้วน่าจะรีบกลับบ้านไม่ยอมนอนพักก่อน เขาไม่ใช่คนในพื้นที่ไม่คุ้นเส้นทาง”
“ตอนนี้คนเจ็บอยู่ในมือหมอก็ขอปลอยภัยทุกคนค่ะ เราไม่รู้เรื่องอะไรเลยโรงพยาบาลหรืออะไร ไม่มีใครโทรมาหาญาติเลยค่ะ คือมาทำงานจนเห็นข่าวว่าเป็นแฟนตัวเอง”
ในส่วนประเด็นนี้ เมาแล้วขับ หรือหลับใน ทีมข่าวได้รับข้อมูลจากเพื่อนร่วมงานของทั้ง 3 ราย บอกว่า หลังจากทุกคนทำงานเสร็จ ก็แยกย้ายกลับ จ.ชลบุรี เวลาประมาณ 03.00 น. ส่วนตัวไม่คิดว่าทั้ง 3 จะไปดื่มต่อ เพราะดูจากเวลาเกิดเหตุแล้วไม่น่าไปดื่มต่อกันได้ ส่วนน้องชายของหนึ่งในคนเจ็บ บอกเช่นกันว่า เท่าที่คุยกับพี่ชายเบื้องต้น พี่ชายบอกว่าไม่น่าจะใช่พราะหลับใน ส่วนประเด็นคนขับดื่มหรือไม่ ยังไม่ได้สอบถามเพราะพี่ชายยังบาดเจ็บหนักอยู่
ด้าน พ.ต.ท.พัฒนา เผยถึงเรื่องนี้ว่า จากนี้หากผลตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดของคนขับออกมาว่า เกินกว่ากฎหมายกำหนด ต้องมีความผิดในฐานเมาแล้วขับ รวมถึงทำให้ทรัพย์สินราชการได้รับความเสียหาย ส่วนหากผลออกมาว่า ไม่เกินกว่ากฎหมายกำหนด ต้องดูถึงสาเหตุว่าชำนาญทางหรือไม่ หรือหลับในหรือเปล่า ซึ่งเรื่องนี้พนักงานสอบสวนจะดำเนินการต่อไป แต่เบื้องต้นยังไม่สามารถสอบปากคำทั้งสามคนได้ เนื่องจากได้รับบาดเจ็บ และยังอยู่ระหว่างการรักษาตัวที่ จ.ชลบุรี
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/dv1nAK0GHa0
โดย passamon_a
5 ธ.ค. 2567
643 views
EP อื่นๆ
25 ธ.ค. 2567
25 ธ.ค. 2567
25 ธ.ค. 2567
25 ธ.ค. 2567
25 ธ.ค. 2567
25 ธ.ค. 2567
ส่งออกไทยปีนี้รุ่ง ขยายตัว 5% คาดมูลค่าทะลุแสนล้านดอลลาร์ สูงสุดเป็นประวัติการณ์
JitrarutP
25 ธ.ค. 2567
25 ธ.ค. 2567
25 ธ.ค. 2567
25 ธ.ค. 2567
25 ธ.ค. 2567
สนามบินสุวรรณภูมิแจกน้องหมีเซอร์ไพรส์คริสต์มาสนทท. โผล่ทักทายบนสายพานรับกระเป๋า
JitrarutP
25 ธ.ค. 2567
25 ธ.ค. 2567
“เณรแอร์” ยืนยัน ลงนะหน้าทองในที่ลับไม่มีจริงในตำรา เตือนสายมูมีสติอย่าหลงเชื่องมงาย
JitrarutP
25 ธ.ค. 2567
25 ธ.ค. 2567
25 ธ.ค. 2567
25 ธ.ค. 2567
25 ธ.ค. 2567