ประชาชนไม่ปลื้มแจกเงินหมื่นเฟส 2 ให้เฉพาะผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปที่ลงทะเบียนแล้ว ไม่ทั่วถึง

ที่จังหวัดอุทัยธานี จากกรณีที่ วันนี้ (19 พ.ย) ได้มีการประชุม ครม. และนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ออกมาเปิดเผยว่า คณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เห็นชอบการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการแจกเงิน 10,000 บาท เป็นเงินสดให้กับผู้สูงอายุอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่มีการลงทะเบียนในระบบทางรัฐ และยืนยันตัวตนผ่านแล้ว สำหรับกลุ่มนี้มีประมาณ 3-4 ล้านคน วงเงินประมาณ 40,000 ล้านบาท โดยผู้ที่ได้รับเงินจะได้รับก่อนวันตรุษจีนปี 2568 หรือวันที่ 29 ม.ค.2568 ส่วนคนที่เหลือจะดูความพร้อมของระบบ คาดว่าจะได้ช่วงประมาณปีหน้าเดือน เมษายน - มิถุนายน 2568 โดยจะทบทวนและดูว่าสามารถทำต่อไปได้หรือไม่ โดยได้มอบให้กระทรวงการคลังไปดำเนินการสำหรับคนที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไปนั้น



ซึ่งประชาชนชาวอุทัยธานี โดยเฉพาะประชาชนที่ลงทะเบียนผ่านแอปฯทางรัฐไปแล้ว และกำลังรอรับเงินหมื่นจากรัฐบาลและรอความหวังเฝ้าติดตามการประชุมครม.ในวันนี้ แต่ผลของการที่รัฐบาลได้มีมติและเคาะออกมาดังกล่าวนั้น สร้างความผิดหวังให้กับประชาชนที่รอความหวังจะนำเงินไปใช้จ่าย และจะทำให้กระตุ้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้น ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันตลอดทั้งวัน ในทำนองรัฐบาลไม่ทำตามสัญญา และเลือกที่จะแจกเงินหมื่นเฉพาะคนที่มีอายุ 60 ปี ขึ้นไปแค่ 3 – 4 ล้านคนกับผู้ลงทะเบียน และเหมือนกับว่ารัฐบาลได้มีการเคลื่อนไหวในการแจกเงินหมื่นว่ามีการแจกจริง และดำเนินการอยู่ และเหมือนกับว่าแก้ผ้าเอาหน้ารอดเท่านั้น



และในช่วงเย็นวันนี้ (19 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่ตลาดสดเทศบาลตำบลหนองฉาง อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี เพื่อดูการค้าขายว่าบรรยากาศเป็นอย่างไร และได้พบกับนายขจรศักดิ์ อายุ 42 ปี พ่อค้าขายแกง ที่มาตั้งร้านขายแกงถุง ถึงกับบ่นว่าการค้าขายช่วงนี้เงียบเหงามากคนเดินตลาดจับจ่ายซื้อของกันบางตา ไม่เหมือนช่วงรัฐบาลแจกเงินหมื่นในเฟสแรกการค้าขายดีมากแต่ก็เป็นช่วงระยะสั้นๆ พอเงินหมดกันแล้วการค้าขายก็เหมือนเดิม และซบเซามากในช่วงนี้



การแจกเงินหมื่นในเฟสที่ 2 นั้น จะเลือกแจกเฉพาะผู้ที่มีอายุ 60 ปี ขึ้นไปที่ลงทะเบียนไว้แล้วประมาณ 3 – 4 ล้าน คน ตามที่มีมติออกมาแล้ว คิดว่าการแจกเงินในเฟสที่ 2 จะไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างแน่นอน อยากให้แจกจ่ายอย่างทั่วถึงไม่จำกัดอายุ อย่างน้อยก็แจกให้ครบตามที่ประชาชนที่ลงทะเบียนไว้ก็จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง



ขณะที่ทางด้านนางสุภาวรรณ อายุ 48 ปี อาชีพรับจ้าง กล่าวว่าตนเองได้ลงทะเบียนผ่านแอบทางลัดไปแล้วตั้งแต่เปิดให้ลงทะเบียน และรอความหวังจะได้รับเงินหมื่นมาใช้จ่ายในครอบครัวอย่างคุ้มค่าที่สุด และจากติดตามข่าวในวันนี้ และเมื่อมีมติดังกล่าว ตนเองถึงกับสิ้นหวังว่าคงหมดหวังกับการรับเงินหมื่นอย่างแน่นอน อยากจะฝากถึงรัฐบาลให้เห็นใจคนยากจน ไม่ควรเลือกปฏิบัติ และไม่ควรผิดสัญญาที่เคยให้ไว้กับประชาชนในตอนหาเสียง ขอให้รัฐบาลทบทวนเรื่องจากแจกเงินหมื่นอย่างทั่วถึง เพราะทุกคนก็ลำบากอยากได้เงินมาใช้จ่าย และยังสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีกด้วย

โดย paranee_s

19 พ.ย. 2567

638 views

EP อื่นๆ