ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบผู้ต้องหา ขัดขวางผู้ยื่นซองประกวดราคา จ้างเหมาก่อสร้างถนน ค.ส.ล. จ.อุตรดิตถ์ วงเงินกว่า 2.9 ล้านบาท

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ท.สรัล ยศพลพิเนต สว.กก.1 บก.ปทส. พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปทส. และ พนักงานเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. ร่วมกันจับกุม 1. จ.ส.อ.ประพนธ์ฯ อายุ 71 ปี สถานที่จับกุม บริเวณลานจอดรถยนต์ หน้าห้างสรรพสินค้าย่านหลักสี่ ถ.พหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร


ซึ่งกระทำความผิดฐาน “ข่มขืนใจผู้อื่นให้จำยอมร่วมดำเนินการใดๆ ในการเสนอราคา หรือต้องทำการเสนอราคาตามที่กำหนด โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญด้วยประการใดๆ ให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกายเสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกขู่เข็ญหรือบุคคลที่สาม จนผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านั้น และฐานเป็นผู้สนับสนุน ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือกรรมการหรืออนุกรรมการในหน่วยงานของรัฐ ซึ่งมิใช่เป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ หรือกระทำการใดๆ ต่อเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐ ซึ่งมีอำนาจหรือหน้าที่ในการอนุมัติ การพิจารณา หรือการดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเสนอราคาเพื่อจูงใจหรือทำให้จำยอมต้องยอมรับการเสนอราคาที่มีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 6 และมาตรา 13 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86” ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 ที่ จ.2/2563 ลงวันที่ 15 มกราคม 2563



พฤติการณ์ สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2548 จ่าสิบเอกประพนธ์ฯ ร่วมกับ นายวินัยฯ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุตรดิตถ์กับพวก มีพฤติการณ์ขัดขวางผู้ยื่นซองประกวดราคาจ้างเหมาโครงการก่อสร้างถนน ค.ส.ล. วงเงินประมาณ 2,975,000 บาท ขององค์การบริหารส่วนตำบลร่วมจิต อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ ไม่ให้เข้าร่วมยื่นซองการประกวดราคาโดยสะดวก จ่าสิบเอกประพนธ์ฯ ได้ถูกขึ้นบัญชีเป็นผู้มีอิทธิพลในจังหวัดอุตรดิตถ์ ในขณะนั้น


ต่อมา ปี 2559 คณะ คสช.ร่วมกับตำรวจ และฝ่ายปกครองราว 20 นาย เข้าตรวจค้นบ้านที่ ต.ชัยจุมพล อ.ลับแล ของ จ.ส.อ.ประพนธ์ฯ เนื่องจากมีรายงานว่ามีพฤติการณ์เกี่ยวกับการสมยอมราคารับเหมาก่อสร้างหรือฮั้วประมูล และถูกขึ้นบัญชีเป็นผู้มีอิทธิพลในจังหวัดอุตรดิตถ์ เมื่อทำการตรวจค้นไม่พบเจ้าตัว ตรวจค้นภายในบ้านและรอบๆบ้าน ผลการตรวจไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด  


สำหรับการเข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมายทั้ง 2 แห่งดังกล่าว เป็นไปตามอำนาจตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 13/2559 ลงวันที่ 29 มีนาคม 2559 เรื่องการป้องกัน และปราบปรามการกระทำผิดบางประการที่เป็นภยันตรายต่อความสงบเรียบร้อยหรือบ่อนทำลายเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศ โดยตั้งแต่ปี 2548 ถึงปัจจุบัน จ่าสิบเอกประพนธ์ฯ หลบหนีจากจังหวัดอุตรดิตถ์ ไม่ทราบว่าหนีไปพักอยู่ที่ใด กระทั่งเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2563 จ่าสิบเอกประพนธ์ฯ ไม่มารายงานตัวต่ออัยการตามกำหนดนัด และไม่ได้แจ้งเหตุขัดข้องให้ทราบแต่อย่างใด สำนักงาน ป.ป.ช.จึงยื่นคำร้องขอศาลออกหมายจับ จ่าสิบเอกประพนธ์ฯ และศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 ได้อนุมัติหมายจับ ตามหมายจับของตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 ที่ จ.2/2563 ลงวันที่ 15 มกราคม 2563


กระทั่งล่าสุด เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกองกำกับการ 1 บก.ปทส. ร่วมกับ พนักงานเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. ได้ร่วมสืบสวนจนทราบว่าผู้ต้องหารายดังกล่าวได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ในเขตบางเขน กรุงเทพมหานคร จึงลงพื้นที่ และพบตัว จ่าสิบเอก ประพนธ์ฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับ เดินอยู่บริเวณลานจอดรถยนต์ หน้าห้างสรรพสินค้าย่านหลักสี่ ถ.พหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร จึงเข้าจับกุมตัว พร้อมแจ้งข้อหาดังกล่าว และแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ ก่อนนำตัวส่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป


สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ​

โดย gamonthip_s

23 ต.ค. 2567

277 views

EP อื่นๆ