ป.ป.ช.ฟันผิด 7 เจ้าหน้าที่ศุลกากร เอื้อ 3 บริษัทจ่ายภาษีนำเข้ารถหรูน้อยเกินจริง

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดคดีสำคัญกรณีเกี่ยวกับการกระทำความผิดต่อหน้าที่ราชการ จากกรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช. มอบหมายคณะไต่สวนเบื้องต้นเพื่อดำเนินการไต่สวน กรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่า นายชลิต นักวิชาการศุลกากรชำนาญการ สำนักงานศุลกากรกรุงเทพ กรมศุลกากร กับพวก ช่วยเหลือผู้ประกอบการนำเข้ารถยนต์ที่ไม่ใช่ตัวแทน ด้วยการรับราคารถยนต์นั่งใหม่สำเร็จรูปที่นำเข้าจากต่างประเทศที่สำแดงราคาต่ำกว่าความเป็นจริงเป็นราคาศุลกากร และตรวจปล่อยไปจากอารักขาศุลกากร รวมจำนวน 62 คัน (2 สำนวนคดี)


ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนปรากฏจากหลักฐานบัญชีราคาสินค้า (INVOICE) ซึ่งเป็นหลักฐานตามคำร้องขอความร่วมมือระหว่างประเทศในทางอาญาจากสาธารณรัฐอิตาลี ว่ารถยนต์ยี่ห้อ LAMBORGHINI และยี่ห้อ MASERATI จำนวน 122 คัน ที่นำเข้าโดย 3 บริษัท มีการสำแดงราคาต่ำกว่าความเป็นจริง


โดยระหว่างวันที่ 17 มกราคม 2554 ถึงวันที่ 28 ตุลาคม 2557 นายชลิต นักวิชาการศุลกากรชำนาญการ, นายเอกสิทธิ์ นักวิชาการศุลกากรชำนาญการ (เสียชีวิตแล้ว) และนายนิตย์ชัย นักวิชาการศุลกากรชำนาญการ สังกัดสำนักงานศุลกากรกรุงเทพ, นายสนองชัย นักวิชาการศุลกากรชำนาญการ, นายธนพล นักวิชาการศุลกากรชำนาญการ, นายอภิชาต นักวิชาการศุลกากรปฏิบัติการ, นายพรชัย นักวิชาการศุลกากรชำนาญการ และนายศรัณยพงศ์ นักวิชาการศุลกากรชำนาญการ สังกัดสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ได้ตรวจปล่อยรถยนต์นั่งใหม่สำเร็จรูปยี่ห้อ LAMBORGHINI จำนวน 29 คัน และยี่ห้อ MASERATI จำนวน 33 คัน ตามใบขนสินค้า ซึ่งสำแดงราคาต่ำกว่าความเป็นจริง เป็นราคาศุลกากรและได้ชำระค่าภาษีอากรแล้ว ไปจากอารักขาของศุลกากร โดยรู้อยู่แล้วว่าราคาที่บริษัทผู้นำเข้าทั้ง 3 บริษัทสำแดงไม่ใช่ราคาที่ได้ชำระจริง และเป็นราคาที่ต่ำกว่าราคาซื้อขายจริง


ทำให้บริษัทผู้นำเข้าได้ประโยชน์ในการชำระค่าภาษีอากรนำเข้าน้อยกว่าที่ต้องชำระจริง เป็นเหตุให้กรมศุลกากร กรมสรรพากร และกรมสรรพสามิต ได้รับความเสียหายรวมเป็นเงินจำนวนไม่น้อยกว่า 897,148,369 บาท


คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติดังนี้ การกระทำของนายชลิต, นายสนองชัย, นายธนพล, นายพรชัย, นายนิตย์ชัย, นายอภิชาต และนายศรัณยพงศ์ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 154 มาตรา 157 และมาตรา 162 (1) (4) ประกอบมาตรา 91 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 แล้วแต่กรณี และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง


การกระทำขอทั้ง 3 บริษัท และเอกชนที่เกี่ยวข้อง มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิด และฐานความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง


ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจ และส่งรายงาน สํานวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคําวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อดำเนินการทางวินัย ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 91 (1) (2) และมาตรา 98 แล้วแต่กรณี


นอกจากนี้ยังมีกรณีการนำเข้ารถยนต์ยี่ห้อ LAMBORGHINI และยี่ห้อ MASERATI อีกจำนวน 60 คัน อยู่ระหว่างการไต่สวนนอกจากนี้ยังมีกรณีการนำเข้ารถยนต์ยี่ห้อ LAMBORGHINI และยี่ห้อ MASERATI อีกจำนวน 60 คัน อยู่ระหว่างการไต่สวนทั้งนี้ ให้แจ้งกรมศุลกากรดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจเพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหาย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 82 วรรคสอง และให้ส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาหรือ ผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนดำเนินการทางวินัยไปตามหน้าที่และอำนาจกับผู้บังคับบัญชาของผู้ถูกกล่าวหา กรณีบกพร่องไม่ควบคุมกำกับดูแลการปฏิบัติงานของผู้ถูกกล่าวหา จนเป็นเหตุให้กรมศุลกากรได้รับความเสียหาย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 64 ต่อไป

นอกจากนี้ยังมีกรณีการนำเข้ารถยนต์ยี่ห้อ LAMBORGHINI และยี่ห้อ MASERATI อีกจำนวน 60 คัน อยู่ระหว่างการไต่สวน

โดย paranee_s

25 มิ.ย. 2567

281 views

EP อื่นๆ