11 ต.ค. 2567
ตร.แจง ‘ติ๊ก ชีโร่’ ไม่ได้เป่าแอลฯ ที่เกิดเหตุ เพราะเจ็บหน้าอก สั่งตรวจแอลกอฮอล์ในเลือด รู้ผลใน 3 วัน
‘ติ๊ก ชีโร่’ ขับรถตู้ พุ่งชน จยย. 3 พี่น้อง ตาย 1 เจ็บสาหัส 1 เจ้าตัวยอมรับผิดและยินดีรับผิดชอบทุกอย่าง เบื้องต้นตำรวจสั่งตรวจหาปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด เชื่อรู้ผลภายใน 3 วัน
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณตี 4 ที่ผ่านมา ตำรวจ สน.คันนายาว และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณช่วงสะพานข้ามถนนเทพรักษ์ ถนนสุขาภิบาล 5 ย่านสายไหม หลังได้รับแจ้งว่า มีรถตู้ชนมอเตอร์ไซค์ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต
ที่เกิดเหตุพบศพนางสาวเทียนพร อายุ 28 ปี อยู่ที่บนสะพาน และยังพบมอเตอร์ไซค์ฮอนด้าคลิกสีดำของผู้เสียชีวิต ในสภาพพังยับเยิน นอกจากนี้ยังพบรถตู้ฮุนไดสีดำ ซึ่งมีนายศิริศักดิ์ นันทเสน หรือ ติ๊ก ชีโร่ ซึ่งเป็นคนขับรถตู้คันนี้ พุ่งชนจักรยานยนต์ โดยพบว่ารถตู้กันชนยุบ และไฟหน้าด้านซ้ายแตก
ส่วนที่พื้นถนนด้านล่าง พบนายจักรภัคร อายุ 21 ปี เป็นนักศึกษาชั้น ปี 2 คณะมนุษยศาสตร์ มศว. ประสานมิตร อยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลภูมิพล
นางสาวจิณห์นิภา อายุ 24 ปี เปิดเผยว่า ผู้หญิงที่เสียชีวิตเป็นพี่สาวของเธอ ส่วนผู้ชายที่บาดเจ็บเป็นน้องชายของเธอ ก่อนเกิดเหตุน้องชายขี่มอเตอร์ไซค์โดยมีเธอนั่งตรงกลางและพี่สาวนั่งซ้อนท้าย เมื่อมาถึงบนสะพานขวดน้ำเปล่าที่เธอถือมาด้วยได้ตกลงไปบนถนน เธอจึงบอกให้น้องชายจอดมอเตอร์ไซค์ไว้ริมสะพาน จากนั้นได้ลงไปเก็บขวดน้ำ
ในจังหวะนั้นรถตู้สีดำก็ขับขึ้นสะพานมาด้วยความเร็วและพุ่งชนมอเตอร์ไซค์ของน้องชายอย่างจัง โดยที่น้องชายกระเด็นหลุดออกจากมอเตอร์ไซค์ตกลงจากสะพานลงไปพื้นถนนด้านล่าง ส่วนพี่สาวกระเด็นหลุดออกจากมอเตอร์ไซค์และเสียชีวิต
ขณะที่ติ๊ก ชีโร่ หลังขับรถตู้ชนมอเตอร์ไซค์แล้ว ได้ยืนรอมอบตัวกับตำรวจ ซึ่งทันทีที่พ่อและแม่ของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตมาถึงติ๊ก ชีโร่ เข้าไปกราบขอโทษและยอมรับผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมบอกว่าขับรถมาจนถึงตอนนี้อายุ 63 ปีแล้ว ไม่เคยประสพอุบัติเหตุจนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตมาก่อน ขณะที่พ่อแม่ของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตได้ถามว่าทำไมติ๊กถึงต้องขับรถเร็วขนาดนี้
จากนั้นติ๊ก ชีโร่ ได้ไปยังจุดที่นางสาวเทียนพรเสียชีวิต ซึ่งพบว่าเหลือเพียงกองเลือดอยู่ที่พื้นถนน ซึ่งติ๊ก ชีโร่ ได้กราบขอขมากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ล่าสุดทีมข่าวไปตรวจสอบที่ สน.คันนายาว โดยพบว่ามีครอบครัวผู้เสียชีวิตนำตัวผู้รอดชีวิต คือนางสาวจิณห์นิภา มาเพื่อรอให้ปากคำกับตำรวจ
นายจีรวัฒน์ ซึ่งเป็นพ่อของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต เปิดเผยว่า อาการของลูกชายคนเล็กขณะนี้พบว่า กะโหลกศีรษะร้าว กระดูกต้นคอแตกหัก และยังอยู่ในอาการโคม่า แพทย์บอกว่ามีโอกาสรอด 10% ตอนนี้อยู่ระหว่างการ ประสานขอย้ายโรงพยาบาลไปยังโรงพยาบาลตามสิทธิ์ เนื่องจากมีเงินไม่เพียงพอ และจะประสานไปยังโรงพยาบาลที่มีหมอเฉพาะทางด้วย หลังเกิดเหตุ ติ๊ก ชีโร่ ได้เข้ามาคุยกับตนเอง และยอมรับว่าเป็นคนขับรถตู้ และบอกว่าจะรับผิดชอบทั้งหมด
พันตำรวจเอกนเรนทร์ เครื่องสนุก ผู้กำกับการ สน.คันนายาว เปิดเผยว่า ในส่วนของติ๊ก ชีโร่ ที่มีข่าวออกมาว่าหลังจากพบเจอกับพ่อและแม่ของผู้เสียชีวิต และได้หายตัวไปติดต่อไม่ได้นั้น จากการตรวจสอบพบว่าหลังเกิดเหตุ ติ๊กได้ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลกับญาติตั้งแต่ช่วง 6.00 น. โดยทางแพทย์ได้ประเมินให้อยู่พักรักษาตัว และแบตโทรศัพท์ของติ๊กหมด จึงทำให้ติดต่อไม่ได้
ทั้งนี้ได้ประสานให้ทางโรงพยาบาลตรวจเลือดหาค่าปริมาณแอลกอฮอล์ของติ๊กแล้ว คาดว่าจะทราบผลภายใน 3 วัน ส่วนติ๊กหากแพทย์อนุญาตให้กลับบ้าน ตำรวจก็จะเรียกมาสอบปากคำทันที
ส่วนประเด็นที่ทำไมถึงไม่ให้ติ๊ก เป่าแอลกอฮอล์ในที่เกิดเหตุนั้น เนื่องจากติ๊กมีอาการเจ็บหน้าอกไม่สามารถเป่าได้ จึงให้ไปตรวจที่โรงพยาบาลและติ๊กก็ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี
ส่วนการแจ้งข้อกล่าวหาตอนนี้ยังไม่สามารถแจ้งได้ เนื่องจากต้องรอผลการตรวจแอลกอฮอล์ในเลือด และหากผลการตรวจออกมามีแอลกอฮอล์ในเลือดก็จะแจ้งความดำเนินคดีตามขั้นตอน แต่หากผลออกมาไม่มีแอลกอฮอล์ในเลือดก็อาจจะมีความผิดเข้าข่ายฐานประมาทร่วม แต่ก็ต้องดูหลักฐานอื่นๆ ในที่เกิดเหตุประกอบ ทั้งนี้ทางญาติของติ๊ก ได้เตรียมเงินมา 100,000 บาท เพื่อมอบให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต เป็นค่าทำศพ และพร้อมจะดูแลค่ารักษาพยาบาลคนเจ็บ โดยส่งไปยังโรงพยาบาลเฉพาะทางเพื่อทำการรักษา
https://youtu.be/zxr674Y6JuM
โดย paweena_c
10 ต.ค. 2567
140 views
EP อื่นๆ
11 ต.ค. 2567
10 ต.ค. 2567
10 ต.ค. 2567
10 ต.ค. 2567
10 ต.ค. 2567
10 ต.ค. 2567
10 ต.ค. 2567
10 ต.ค. 2567
9 ต.ค. 2567
9 ต.ค. 2567
9 ต.ค. 2567
9 ต.ค. 2567
9 ต.ค. 2567
9 ต.ค. 2567
9 ต.ค. 2567
8 ต.ค. 2567
8 ต.ค. 2567
8 ต.ค. 2567