เหยื่อ 'ไต้ฝุ่นยางิ' ในเวียดนาม พุ่งเป็น 127 ศพ - ด้าน สปป.ลาว น้ำท่วมหนักที่หลวงน้ำทา

ทางการเวียดนาม ระบุว่า จำนวนผู้เสียชีวิตในเวียดนามจากอิทธิพลของ 'ซูเปอร์ไต้ฝุ่นยางิ' ซึ่งเคลื่อนตัวเข้าสู่ภาคเหนือของประเทศ ตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ที่ 7 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา เพิ่มเป็นอย่างน้อย 127 ศพแล้ว และสูญหายอีก 54 คน ในวันอังคารที่ 10 ก.ย. 2567 หลังจากที่พายุลูกนี้ ยังทำให้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วม และดินถล่ม อย่างต่อเนื่อง ทั้งในเวียดนาม สปป.ลาว และจีน

ทั้งนี้ 'ไต้ฝุ่นยางิ' เป็นพายุรุนแรงที่สุดที่เวียดนามเคยเผชิญในรอบกว่า 30 ปี สร้างความเสียหายแก่สะพานหลายแห่ง หลังคาบ้านเรือน และโรงงาน ถูกลมกระโชกพัดปลิวกระจาย ต้นไม้ และเสาไฟฟ้า หักโค่นจำนวนมาก จนเกิดไฟดับกระทบประชาชนกว่า 1.5 ล้านคน และทำให้เกิดน้ำท่วมเป็นวงกว้าง กับดินถล่มอีกหลายจุด

ทั้งนี้ แม้ว่า 'ไต้ฝุ่นยางิ' จะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันในวันอาทิตย์ แต่อิทธิพลของพายุลูกนี้ ทำให้สะพานฟงเชา (Phong Chau) สะพานข้ามแม่น้ำแดงอายุกว่า 30 ปี ในจังหวัดฟู้เถาะ พังถล่มลงไปในแม่น้ำเบื้องล่าง เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา พร้อมกับรถยนต์หลายคัน โดยจนถึงตอนนี้ ยังมีผู้สูญหายอีก 8 ราย


โดยที่จังหวัดท้ายเงวียน และ จังหวัดเอียนบ๊าย ในภาคเหนือของเวียดนาม ถูกน้ำท่วมอย่างหนักในช่วงเช้ามืดวันอังคาร บ้านชั้นเดียวจมอยู่ใต้น้ำเกือบทั้งหมด ทำให้ประชาชนหลายพันคนต้องหนีขึ้นไปอยู่บนหลังคาบ้าน และติดอยู่บนนั้น ซึ่งบางคนโพสต์ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์เพื่อขอความช่วยเหลือ

ล่าสุด ทางการเวียดนามต้องประกาศเตือนภัยน้ำท่วม และดินถล่ม ใน 401 ชุมชนทั่ว 18 จังหวัด ในภาคเหนือของประเทศ และ นอกจากผู้เสียชีวิต และผู้สูญหายดังกล่าวแล้ว ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บที่มีสาเหตุเกี่ยวข้องกับอิทธิพลของไต้ฝุ่นยางิในเวียดนามอีกอย่างน้อย 752 ราย  

ขณะเดียวกัน สถานการณ์ที่ สปป.ลาว สำนักข่าว 'ลาวไทม์ส' ได้รายงานเมื่อวันที่ 9 กันยายน ว่า เมืองหลวงน้ำทาได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมหนักจากพายุไต้ฝุ่นยางิอย่างรุนแรง ส่งผลให้เกิดความปั่นป่วน และความเสียหาย อย่างมาก น้ำท่วมทำให้ต้องปิดสนามบินหลวงน้ำทาชั่วคราว ประชาชนจำนวนมากติดอยู่ และได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ส่วนชั้นแรกของโรงพยาบาลในพื้นที่ก็ถูกน้ำท่วมเช่นกัน

ทั้งนี้ มีภาพปรากฏตามโซเชียลมีเดีย แสดงให้เห็นกระแสน้ำที่ท่วมรุนแรง และไหลเชี่ยวในจังหวัดหลวงน้ำทา  

เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นได้ระดมกำลังอย่างรวดเร็ว เพื่ออพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัย เนื่องจากระดับน้ำยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บ้านเรือนหลายหลังได้รับความเสียหาย และทรัพย์สินส่วนตัวสูญหาย ประชาชนบางส่วนต้องอยู่แต่ในบ้านเนื่องจากน้ำท่วมรุนแรง โดยมีรายงานในโซเชียลมีเดียระบุว่า ประชาชนต้องหลบภัยบนหลังคาบ้านเพื่อหนีน้ำท่วม

ทีมตอบสนองฉุกเฉินกำลังทำงานเพื่อให้ความช่วยเหลือและกู้ภัยผู้ที่ยังคงติดอยู่ แม้ว่าระดับน้ำจะเริ่มลดลงแล้ว แต่ประชาชนจำนวนมากยังคงต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

ขณะที่ แขวงบ่อแก้วก็ประสบปัญหาน้ำท่วมเช่นกัน แม้ว่าผลกระทบจะไม่รุนแรงเท่ากับที่หลวงน้ำทา  

โดย nattachat_c

11 ก.ย. 2567

138 views

EP อื่นๆ