ตำรวจรับตัว 'นัตตี้' โกงเทรดหุ้น 2 พันล้าน เร่งตามตัวเลขายังหลบหนี เจ้าตัวกล่าวสั้นๆ ขอโทษผู้เสียหาย

หลังจากที่ตำรวจสืบสวน สอท. และตรวจคนเข้าเมือง สามารถติดตามจับกุม น.ส.นัทธมณ หรือ “นัตตี้ ลีอาห์” ยูทูบเบอร์ เจ้าของช่อง Nutty’ s Diary ที่มีผู้ติดตามกว่า 8 แสนคน และนางธานิยาหรือศรัญญา มารดาของนัตตี้ สองผู้ต้องหาในคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชน นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 มีผู้เสียหายมากกว่า 6,000 ราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านกว่าบาท โดยจับกุมได้ที่เมืองดูไม จังหวัดรีเยา เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย


เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท. และ ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ DSI ได้เดินทางมารับตัวผู้ต้องหา 2 แม่ลูกนัตตี้ ไดอารี่” จากประเทศอินโดนีเซีย ด้วยสายการบินบาติกแอร์ เที่ยวบินที่ ID 7631 จากท่าอากาศยานซูการ์โน-ฮัตตา กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย มายังท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพ ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายทำบันทึกการจับกุมและนำตัวขึ้นรถ DSI เพื่อนำตัวไปดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป


โดย พล.ต.ท.ธัชชัย กล่าวว่า ในการจับกุมครั้งนี้เป็นการจับกุมตามหมายจับของตำรวจไซเบอร์ โดยตัวนัตตี้เองมีหมายจับมากถึง 13 หมายจับในข้อหาเดียวกัน ส่วนแม่ของนัตตี้มีจำนวน 2 หมายจับ ทั้งนี้เป็นการออกหมายจับของตำรวจก่อนที่ DSI จะรับเป็นคดีพิเศษ จากการสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย รวมไปถึงตัวเลขาที่ยังอยู่ในระหว่างการหลบหนี ได้ลักลอบหนีออกจากประเทศไทยไปตั้งแต่เมื่อเดือนกรกฎาคม 2565 ผ่านทางช่องทางธรรมชาติทางภาคใต้ โดยมุ่งหน้าต่อไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย และลักลอบนั่งเรือข้ามไปยังประเทศอินโดนีเซียและพำนักอาศัยอยู่ในประเทศอินโดนีเซียแบบผิดกฎหมาย และไม่มีหนังสือเดินทาง ซึ่งตลอดเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา กลุ่มผู้ต้องหาได้พยายามทำอาชีพรับจ้างขนส่งอาหารเลี้ยงชีพและอยู่แบบหลบๆ ซ่อนๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ตำรวจอินโดนีเซียจับกุม เนื่องจากเข้าเมืองผิดกฎหมาย


จนกระทั่งเมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา ทางตำรวจอินโดนีเซียสามารถติดตามตัวจับกุมตัวนัตตี้และมารดาได้ในที่พักในเมืองดูไม จังหวัดรีเยา เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งในชั้นจับกุมนั้น ผู้ต้องหาทั้ง 2 รายไม่ขัดขืนและยินยอมให้จับกุม ทางตำรวจอินโดนีเซียจึงได้ดำเนินคดีในข้อหาลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ก่อนดำเนินการประสานกับทางตำรวจไทยเพื่อผลักดันส่งตัวกลับประเทศและรับตัวกลับมาดำเนินคดีที่ไทย ทั้งนี้ ตัวเลขาสาวอีก 1 รายที่ยังอยู่ในระหว่างการหลบหนี ทางตำรวจอยู่ในระหว่างการสืบสวนหาเบาะแสและจับกุมดำเนินคดี คาดว่ายังหลบหนีอยู่ในต่างประเทศและขอไม่เปิดเผยว่า ปลายทางของเลขาคนนี้ไปอยู่ที่ใด


พล.ต.ท.ธัชชัย กล่าวต่อไปว่า คดีนี้ทางตำรวจได้ประสายไปยังตำรวจสากล รวมทั้งตำรวจในภูมิภาคอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ในการช่วยตามล่าหาเบาะแสของผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ซึ่งถือเป็นผู้ต้องหารายสำคัญในคดีนี้ที่ทางการไทยต้องการตัวมากที่สุด จนนำมาสู่การจับกุมในครั้งนี้ โดยหลังจากนี้จะส่งมอบตัวนัตตี้และมารดาให้กรมสอบสวนคดีพิเศษไปดำเนินการสอบสวนตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไปและ ทาง DSI จะต้องดำเนินการขยายผลไปยังผู้ให้การช่วยเหลือผู้ต้องหาทั้ง 3 รายในระหว่างหลบหนีอยู่ในต่างประเทศ ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่า ผู้ให้การช่วยเหลือเป็นชาวไทยหรือชาวต่างชาติท้องถิ่น


ด้าน ร.ต.อ.วิษณุ กล่าวว่า ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษรับกรณีแชร์ลูกโซ่นัตตี้นี้เป็นคดีพิเศษที่ 294/2565 และที่ผ่านมาได้มีการดำเนินการยึดทรัพย์ทั้งในส่วนของตำรวจและ DSI ไปแล้ว 16 ล้านบาท ซึ่งได้ส่งมอบให้ทาง ปปง. เป็นที่เรียบร้อย หลังจากนี้จะต้องขยายผลหาเส้นทางการเงินและสืบทรัพย์เพิ่มเติม เพื่อหาว่าทรัพย์สินของผู้ต้องหามีการแยกย้ายถ่ายเทไปที่ใดบ้าง โดยเฉพาะในระหว่างหลบหนีที่ต่างประเทศ


ทั้งนี้ คดีดังกล่าวนั้นมีพฤติการณ์โดยสังเขปคือ ตัวนัตตี้ได้หลอกลวงผู้เสียหายว่า ให้สมัคร Application เพื่อลงทุนและได้ผลกำไรสูงแบบก้าวกระโดด โดยให้ผู้เสียหายลงทุนขั้นต่ำเป็นจำนวน 5,000 บาทสูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาทต่อ 1 บิล ผู้เสียหายจะเปิดกี่บิลก็ได้และชวนเชื่อว่า จะได้ผลกำไรทุกเดือน เช่น สัญญา 3 เดือน ได้กำไร 25% หรือสัญญา 12 เดือน ได้กำไร 35% เป็นต้น แต่สุดท้ายผู้เสียหายก็ไม่ได้ผลกำไรตอบแทนจริง ๆ และมีเหยื่อหลงเชื่อทั่วประเทศกว่า 6,000 ราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านกว่าบาท เบื้องต้นมีผู้เข้าแจ้งความดำเนินคดีแล้ว 445 ราย


โดยหลังจากกรมสอบสวนคดีพิเศษรับคดีนี้เป็นคดีพิเศษแล้วนั้น พบมีผู้กระทำความผิดจำนวน 9 ราย ซึ่ง 6 รายนั้นเป็นระดับลูกข่ายที่สามารถออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาดำเนินคดีไปแล้ว ส่วนอีก 3 ราย นั่นก็คือตัวนัตตี้ มารดา และเลขา ซึ่งถือเป็นผู้ต้องหารายสำคัญที่สุด ได้หลบหนีออกนอกประเทศไป จึงนำมาสู่การออกหมายจับติดตามตัว ณ ขณะนี้ก็จับกุมได้แล้ว 2 ราย คือนัตตี้และมารดา คงเหลือแต่เลขาอีก 1 รายที่ต้องติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป


ทั้งนี้ ในระหว่างการแถลงข่าว นัตตี้ เปิดเผยกับสื่อมวลชนสั้นๆ เพียงแค่ว่า วันนี้ตนมามอบตัวแล้วและขอโทษผู้เสียหายทุกคน ไม่เคยคิดที่จะหลบหนี ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ทางคดีนั้นไม่ขอตอบคำถาม


จากการสังเกตพบว่า ทั้งนัตตี้และมารดามีสีหน้าที่เรียบเฉย ทั้งคู่สวมหน้ากากอนามัยและเดินกุมมือกัน ท่ามกลางการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ DSI และเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนจะนำตัวขึ้นรถไป

โดย panisa_p

25 ต.ค. 2567

226 views

EP อื่นๆ