เร่งช่วยสาวป่วยโรคดักแด้ทรมาน 19 ปี ซ้ำร้ายพ่อถูกรถชนทำงานไม่ได้ มีเพียงเบี้ยคนพิการไม่พอใช้จ่าย

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 28 ก.ค.65 นายศิวัช ฟูบินทร์ นายอำเภอสูงเม่น พร้อมด้วย นางชลธิชา ฟูบินทร์ นายกกิ่งกาชาด อำเภอสูงเม่น ลงพื้นที่ตามโครงการรวมพลังคนแพร่แก้จน เพื่อช่วยเหลือครัวเรือนที่ด้อยโอกาสในพื้นที่ อ.สูงเม่น จ.แพร่ โดยมี นายเพ็ญ ก่อกอง กำนัน ต.สูงเม่น นายศุภชัย ขยัก ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 10 กลุ่ม อสม. ในพื้นที่ พร้อมด้วย พระมหาธีรวัฒน์ ปิยะเมธี เจ้าอาวาสวัดศรีสว่าง และ พระอธิการเมืองแมน โชติธฺมโม เจ้าอาวาสวัดสร่างโศก ต.สูงเม่น อ.สูงเม่น จ.แพร่ ร่วมนำสิ่งของจำเป็นที่ใช้ในชีวิตประจำวันร่วมช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส

โดยลงพื้นที่ พบกับ น.ส.สุคนธ์ทิพย์ ขาดศูนย์ อายุ 19 ปี ที่ทนทรมานกับโรคประหลาด (โรคดักแด้) ผิวหนังลอก มีแผลตกสะเก็ดไปทั่วตัวยกเว้นใบหน้า มีอาการคัน จนต้องคอยสะกิดแผลตลอดเวลา ส่วนใหญ่ต้องใช้ชีวิตในมุ้ง โดยน้องบิม อยู่บ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ โดยมีพ่อที่ประสบอุบัติเหตุไม่สามารถทำงานได้ พร้อมมียาย อายุ 85 ปี เป็นผู้ป่วยป่วยติดเตียง อยู่ร่วมกันในบ้านหลังนี้ มีเพียงแม่เพียงคนเดียว ที่หาเงินมาจุนเจือครอบครัว

นายแสงวัน ขาดศูนย์ อายุ 53 ปี ผู้เป็นพ่อและ นางวิลาวัลย์ ขาดศูนย์ อายุ 47 ปี ผู้เป็นแม่ เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ลูกสาวเกิดมาร่างกายครบ 32 ประการ แต่มีอาการคล้ายตุ่มเล็กๆ ตั้งแต่แรกเกิดแต่คิดว่าเป็นธรรมดาของทารก จนกระทั่งโตขึ้นมาอาการก็ไม่รุนแรง จนกระทั่งเข้าเรียนหนังสือจบประถมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนบ้านสร่างโศก แต่ก็ไม่ได้เรียนต่อระดับมัธยม เพราะอาการโรคร้ายเริ่มจะแสดงออกหรือกำเริบแต่ทาง พ่อและแม่ ก็นำตัวไปรักษาโรคตามโรงพยาบาลและคลินิก ทุกที่ทุกแห่งตามที่มีผู้แนะนำโดยเฉพาะโรงพยาบาลสูงเม่น และโรงพยาบาลแพร่ แต่อาการไม่หายขาด

จนกระทั่งต้นปี 2565 อาการเริ่มกำเริบขึ้นมาอย่างรุนแรงจนทำให้มีการคันทั้งตัวและมีแผลตกสะเก็ดไปทั่วตัวยกเว้นใบหน้า สำหรับอาการตัวน้องบิมจะแสดงอาการคันและคอยสะกิดแผลตลอดเวลา ความเป็นอยู่ตัวผู้ป่วยเองต้องอยู่ในมุ้งคุมตลอดเวลา เพราะกลัวแมลงวันมากัดกินแผลจะทำให้อาการรุนแรงมากยิ่งขึ้น

ส่วนเงินที่จะจุนเจือครอบครัวนี้ มีเพียงผู้เป็นแม่เท่านั้นที่ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป ผู้เป็นพ่อได้รับอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้มไม่สามารถที่จะประกอบอาชีพได้ที่ลำคอยังใช้เหล็กดามอยู่ ส่วนน้องบิมมีเพียงเบี้ยคนพิการเท่านั้น เวลานี้ค่าใช้จ่ายภายในบ้านไม่พอใช้จ่าย ประกอบกับต้องนำตัวน้องบิมไปรักษาตัวที่คลินิกโรคผิวหนังในตัวเมืองแพร่ของทุกเดือน

เบื้องต้น คณะทั้งหมดได้มอบสิ่งของเครื่องใช้ เพื่อช่วยเหลือเบื้องต้น และจะได้ประสานหาทางช่วยเหลือให้หายจากโรคร้าย ที่ต้องทนทุกข์ทรมานมากว่า 19 ปี ต่อไป

โดย nicharee_m