DSI ส่งรถหรูคืนอังกฤษ 30 คัน หลังถูกโจรกรรมลักลอบเข้าไทย มูลค่ากว่า 100 ล้าน

กรมสอบสวนคดีพิเศษ ส่งมอบรถยนต์หรู 30 คัน มูลค่ารวมกว่าหนึ่งร้อยล้านบาท คืนให้ประเทศอังกฤษ หลังจากถูกโจรกรรมมาแล้วลักลอบนำเข้าประเทศไทยด้วยวิธี ที่ผิดกฎหมายกระทั่งดีเอสไอ รับเป็นคดีพิเศษเมื่อปี 2561 โดยยังเหลือรถยนต์อีก 5 คัน ที่อยู่ระหว่างติดตาม ขณะที่ผู้เกี่ยวข้องถูกดำเนินคดีรวม 13 คน



รถยนต์หรู 30 คันนี้ ถูกโจรกรรมมาจากประเทศอังกฤษตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา กระทั่งกรมสอบสวนคดีพิเศษแกะรอยติดตามจนพบ และดำเนินการตามกฎหมาย และส่งมอบ คืน ให้ทางการอังกฤษได้ในวันนี้ โดยผู้แทนฝ่ายไทยที่ส่งคืน คือพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมเจ้าหน้าที่ดีเอสไอและสำนักงานอัยการสูงสุด ส่วนผู้แทนฝ่ายอังกฤษที่รับมอบ คือนายมาร์ก กุดดิง เอกอัครราชฑูตอังกฤษประจำประเทศไทย พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยปราบปรามอาชญากรรมแห่งชาติแห่งราชอาณาจักร



คดีนี้มาจากที่มีขบวนการโจรกรรมรถหรูในประเทศอังกฤษ ระหว่างปี 2559 -2560 จากนั้นดีเอสไอ ได้รับการร้องขอความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา หรือ MLAT จากประเทศอังกฤษ ผ่านสำนักงานอัยการสูงสุด โดยดีเอสไอระบุว่ากลุ่มผู้กระทำผิดนำโดยนายอินทระศักดิ์ หรือบอย ยูนิตี้ ร่วมกับคนไทยและต่างชาติ



ขบวนการนี้จะเช่าซื้อรถยนต์หรูในประเทศอังกฤษ แล้วสำแดงต่อศุลกากรประเทศอังกฤษว่าเป็นรถยนต์ใหม่ แล้วส่งออกทางเครื่องบิน จากสนามบินฮีทโธรว์ กรุงลอนดอน ไปสิงคโปร์ จากนั้นขนส่งทางเรือจากสิงคโปร์มาประเทศไทย



รถยนต์ที่ขบวนการนี้ส่งเข้าประเทศไทยมี 35 คัน จำนวน 13 ยี่ห้อเช่น Porsche, Lamborghini, Range Rover เป็นต้น ราคารวมในประเทศอังกฤษเกือบ 3 ล้านปอนด์สเตอร์ลิง หรือมากกว่า 100 ล้านบาทไทย



หลังจากนั้น ทางการอังกฤษ โดยหน่วยงาน National Crime Agency หรือ NCA ประสานมาที่ดีเอสไอ และดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษที่ 78/2561 มีพันตำรวจโท พะเยาว์ ทองเสน รองอธิบดีดีเอสไอ เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน โดยพบว่ากลุ่มผู้กระทำความผิดได้ใช้บริษัท 3 ราย ที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กันเป็นผู้นำเข้า โดยนำเอกสารมาสำแดง และเสียภาษีศุลกากร เพื่อให้เป็นรถยนต์ที่ถูกต้อง แล้วนำไปจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก จากนั้นก็ขายให้ประชาชนทั่วไปในประเทศไทย



ต่อมาวันที่ 18 พฤษภาคม 2560 ดีเอสไอ เปิดปฏิบัติการ "Titanium Operation" มีหน่วยงาน NCA ร่วมสังเกตการณ์ โดยนำหมายค้น เข้าตรวจค้น จุดต้องสงสัย ในกรุงเทพฯทั้งหมด 9 จุด จนขยายผลยึดรถยนต์ได้ทั้งสิ้น 30 คัน คือรถยนต์ยี่ห้อ BMW M4 จำนวน 5 คัน Ford Mustang จำนวน 1 คัน Honda GT Type-R จำนวน 1 คัน Lamborghini Huracan Spyder จำนวน 1 คัน Lexus จำนวน 1 คัน Mercedes Benz จำนวน 8 คัน Mini Cooper จำนวน 1 คัน Nissan GTR จำนวน 3 คัน Porsche จำนวน 5 คัน  Land Rover จำนวน 2 คัน  และVolkswagen GTI จำนวน 2 คัน



นอกจากนี้ ยังมีรถที่อยู่ระหว่างติดตามอีก 5 คัน ประกอบด้วย ยี่ห้อ Audi รุ่นQ7 S Line ยี่ห้อ BMW รุ่น M4 ยี่ห้อ Ferrari สีขาว 4. ยี่ห้อ Porsche รุ่นBoxster 718 สีเหลือง และยี่ห้อ LAND ROVER รุ่น Range Rover Sport สีดำ



คดีนี้ พนักงานสอบสวนสวน มีความเห็นสั่งฟ้องนายอินทระศักดิ์ กับพวกรวม 13 คน ในความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์,และร่วมกันรับของโจรเพื่อค้ากำไร ฐานร่วมกันปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม ฐานร่วมกันนำรถใช้แล้ว เข้ามาในราชอาณาจักร โดยไม่ได้รับอนุญาต ฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และฐานอั้งยี่หรือซ่องโจร



และเนื่องจากคดีนี้ มีโทษตามกฎหมายไทยที่ทำผิดนอกราชอาณาจักร ผู้มีอำนาจพิจารณาสั่งคดีในชั้นสอบสวนคืออัยการสูงสุด และอัยการสูงสุดพิจารณาสำนวนแล้ว มีคำสั่งให้จัดการรถยนต์ของกลางทั้ง 30 คัน ตามอำนาจหน้าที่พนักงานสอบสวน และพนักงานสอบสวนพิจารณาเห็นว่า เมื่อพนักงานอัยการไม่ริบของกลาง จึงส่งคืนให้ผู้เสียหายชาวอังกฤษที่เป็นเจ้าของรถดังกล่าว

โดย nut_p

19 ก.ค. 2567

84 views

EP อื่นๆ