ระดมจนท.ดับไฟเขาคอกช้างทับลาน ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 พบเสียหายแล้วเกือบ 2,000 ไร่

วันนี้เกิดไฟป่าหลายจังหวัดในบ้านเรา ทั้งที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน พิษณุโลก และนครราชสีมา เจ้าหน้าที่แต่ละหน่วยงานต้องระดมกำลังเข้าสกัดไม่ใหม้รุกลามไปยังพื้นที่ทำกิน และที่อยู่อาศัยของประชาชนที่อยู่ข้างเคียง



สถานการณ์ไฟป่าที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา สร้างความเสียหายและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในพื้นที่เป็นอย่างมาก เช่นที่เขามะค่า เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าครบุรี ที่เกิดขึ้นถึง 3 ครั้ง ทำให้พื้นที่ป่าได้รับความเสียหายหลายร้อยไร่



เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลาน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าทับลาน สถานีควบคุมไฟป่าสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 นครราชสีมา ฝ่ายปกครอง เครือข่ายอาสาสมัครเฝ้าระวังไฟป่า และจิตอาสาอำเภอครบุรี จ.นครราชสีมา กว่า 30 ชีวิต ต้องเข้าทำการดับไฟป่าบริเวณเขาคอกช้างเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน ซึ่งอยู่ระหว่างรอยต่อพื้นที่ตำบลจระเข้หิน และ ตำบลครบุรีใต้ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 แล้ว แม้ว่าวันนี้จะเป็นวันรณรงค์ให้ปลอดควันพิษจากไฟป่า ก็ตาม เนื่องจากสถานการณ์ไฟป่าที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา แต่ยังไม่คลี่คลาย



ล่าสุดไฟป่าทางด้านทิศตะวันออกและทิศใต้ของเขาคอกช้าง ทางเจ้าหน้าที่ได้ดับไฟไม่ให้ลุกลามได้ทั้งหมดแล้ว เหลือเพียงแค่ขั้นตอนการเข้าทำการดับไฟสุมตอ ที่ยังคงมีหลงเหลือกระจายอยู่ในพื้นที่ เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ทำให้เกิดไฟลุกลามขึ้นมาอีกครั้ง



ขณะเดียวกันก็ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่อีกส่วนหนึ่งเข้าทำการสกัดไฟป่าทางด้านทิศตะวันตกของภูเขา ที่ยังมีการไหม้ลุกลามขึ้นอีกรอบ ซึ่งตอนนี้สามารถควบคุมไฟเอาไว้ได้แล้ว แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากยังคงมีลมกรรโชกแรงในบางช่วง



โดยไฟป่าบริเวณเขาคอกช้าง เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา ลุกลามต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นพื้นที่ลาดชันที่ยากต่อการเข้าถึง อีกทั้งยังมีปัจจัยอื่นๆทั้งสภาพอากาศที่มีลมกรรโชกแรงตลอดทั้งวัน ประกอบกับปริมาณเชื้อเพลิงอย่างหญ้าและเศษกิ่งไม้แห้งที่กระจายอยู่ทั่วผืนป่า รวมถึงพบมีกลุ่มที่ลักลอบจุดไฟเผาป่าเพิ่มในหลายจุด จึงทำให้สถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย คาดว่าได้รับความเสียหายไปแล้วประมาณเกือบ 2,000 ไร่



ส่วนที่จังหวัดพิษณุโลก ตลอดทั้งวันพบกลุ่มควันบนยอดเขาสูง หลังมีรายงานจากพื้นที่อำเภอวังทอง ว่าเกิดไฟป่าลุกลามตั้งแต่เมื่อวานนี้ บริเวณพื้นที่ สวนป่าเขากระยาง หมู่ 2 บ้านแก่งกุลา และหมู่ 12 บ้านแก่งกุลาเหนือ ตำบลวังนกแอ่น อำเภอวังทอง เจ้าหน้าที่ดับไฟป่า จาก เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแก่งเจ็ดแคว ภูแดงร้อน หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พล.8 น้ำยาง หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พล.1 วังทอง ศูนย์ส่งเสริมการควบคุมไฟป่าพิษณุโลก กำนันตำบลแก่งโสภา และผู้ใหญ่บ้าน รวมถึงจิตอาสารวมกำลัง 60 นายได้ลงพื้นที่ช่วยกันดับไฟไหม้ป่า ไม่ให้ลาม สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ป่าและสร้างมลพิษส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ หลังจากมีคนเข้าไปจุดไฟเผาป่าเพื่อหวังผลประโยชน์จากป่าไม้



เจ้าหน้าที่ใช้เวลามากกว่า 1 ชั่วโมงจึงจะถึงจุดที่เกิดไฟไหม้ป่ามีลักษณะพื้นที่เป็นหน้าผาหินสูงชัน จึงทำให้การปฏิบัติการดับไฟป่าและทำแนวกันไฟเพิ่มเติม



เมื่อเวลา 17.00 น.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์อุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์ พบ จุดความร้อน 2 จุด บริเวณ ต.ผาบ่อง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน จึงได้สั่งการบูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ หน่วยพิทักษ์, เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าแม่ฮ่องสอน จำนวนกำลังพลรวม10 นายเข้าตรวจสอบ พบเป็นจุดความร้อนเกิดใหม่ ใกล้เคียงกับจุด เมื่อช่วงเช้าใกล้กับ อบต.ผาบ่อง จึงได้ทำการดับไฟป่าดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมจัดกำลังเจ้าหน้าที่คอยระมัดระวังและร่วมกับผู้นำชุมชนในพื้นที่ ช่วยกันสอดส่องการลักลอบเผาป่าอย่างใกล้ชิด เนื่องจากส่งผลกระทบต่อมลภาวะทางอากาศที่กระทบต่อราษฎรในพื้นที่โดยตรง



สำหรับ สรุปจุดความร้อนจากไฟป่า ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนวันนี้ เกิดขึ้น 18 จุด ที่อ.ปาย 12 จุด อ.เมือง 6 จุด



ช่วงบ่าย เกิดจุดความร้อนขึ้นอีก 33 จุดในหลายพื้นที่ทั้งอ.ปาย,ปางมะผ้า / อ.เมือง , อ.ขุนยวม , อ.แม่ลาน้อย และ อ.สบเมย ซึ่งชี้ให้เห็นว่า ไฟป่าได้เกิดขึ้นในแทบทุกอำเภอของจังหวัดแม่ฮ่องสอนแล้ว

โดย panwilai_c