'บอย ปกรณ์' ยกเลิกสัญญา ‘ดิไอคอน’ ยันเป็นพรีเซ็นเตอร์ พูดตามสคริปต์ จุกในใจ ทำผู้เสียหายหลงเชื่อ

‘บอย ปกรณ์’ ยืนยันสัญญาที่ทำคือ “พรีเซนเตอร์” มีสคริปต์ให้พูด ยันไม่ได้เป็นบอส-ไม่ได้เป็นผู้บริหาร รับจุกในใจ “แฟนคลับที่รักผมหลงเชื่อธุรกิจนี้ ผมถูกหลอกด้วยเหมือนใช้เป็นเครื่องมือ” พร้อมหักกับดิไอคอน พลาดเองไม่ขอแก้ตัว โชว์หลักฐานประกาศยกเลิกสัญญา “ดิไอคอน” พร้อมคืนเงินค่าจ้างเป็นพรีเซ็นเตอร์ทั้งหมด ลั่น! ทำกับผมขนาดนี้ก็ไม่จำเป็นที่ผมต้องสังคายนา โพสต์ขอโทษ พร้อมยืนข้างผู้เสียหาย ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์

 วานนี้ (11 ต.ค.)  รายการโหนกระแส ได้เชิญ บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ หนึ่งในพรีเซ็นเตอร์ของ ดิ ไอคอน ซึ่งบอยยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นผู้บริหารไม่ได้เป็นบอส ซึ่งก็ตรงกับคำบอกกล่าวของบรรดาอดีตแม่ข่ายและผู้เสียหาย ที่บอกว่า บอย ปกรณ์ ไม่ได้เป็นบอสในบริษัท แต่บอย ก็ยอมรับว่า ตามงานอีเวนต์ต่างๆ มีสคริปต์ให้ตนพูดให้กำลังใจคนที่ทำธุรกิจ เป็นการเสริมแรงให้บรรดาลูกข่ายมั่นใจในตัวบริษัท ซึ่งมีคลิปที่คนแชร์กันเยอะมากในโลกออนไลน์ เป็นคลิปที่บอยพูดถึงการวางระบบงานของบริษัท ดิ ไอคอน ที่เป็นเหมือนอาวุธสำหรับคนที่มาทำธุรกิจออนไลน์ มีหน้าที่แค่ขาย ขาย ขาย อย่างเดียว

บอยยืนยันว่า มันเป็นสคริปต์ที่เขียนมาให้เราพูด ทีมงานเขาบรีฟมาแล้ว ว่าพิธีกรจะถามเราแบบนี้ ต้องตอบแบบนี้ มีทั้งสคริปต์ตัวหนังสือ และที่ทีมงานบรีฟปากเปล่า วันนี้มาเห็นสิ่งที่มันเกิดขึ้น ก็ยอมรับว่ามันเป็นความผิดพลาดของเราจริงๆ ความเสียหายมันเกิดขึ้นจากสิ่งที่เราพูดจริงๆ ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ

วันนี้ตนเองออกมาพูดในข้อเท็จจริง ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อ หรือใครจะด่าว่าตนแถ ก็เป็นเรื่องที่ตนต้องยอมรับสภาพให้ได้ ยืนยันว่าไม่ได้เป็น “บอสบอย” และพร้อมให้ทุกคนตรวจสอบ เพราะตัวเองมั่นใจว่าไม่มีใครในองค์กรเรียกตัวเองว่า บอส ส่วนการเซ็นสัญญาร่วมงานอยู่ในฐานะพรีเซนเตอร์ จ้างแสดงแบบโดยทำสัญญารายปี ตั้งแต่ ปี 2565 , 2566 , และ 2567

ขณะที่มีผู้เสียหาย (เพื่อนของอดีตแม่ข่าย) inbox ฝากข้อความผ่าน อดีตแม่ข่าย มาพูดในรายการว่าที่เขาตัดสินใจมาร่วมธุรกิจนี้ เพราะเขารักบอย ปกรณ์ มาก เขารู้สึกว่าถ้าบอยเลือกแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องเช็คข้อมูล เขาเปิดบิลมา 250,000 เขาไม่เคยอยากลงทุนหรือขายของอะไรมาก่อนเลย ดังนั้นหากถามว่าบอยมีส่วนทำให้คนหลงเชื่อไหม ก็ต้องยอมรับว่ามีส่วนจริงๆ ตอนนี้ก็รู้สึกผิดและเป็นตราบาปกับเพื่อนมากๆ

บอย บอกว่า ตนได้ฟังแล้วจุกอกจริงๆ ก็ต้องยอมรับว่า อาชีพเราเป็นดารา เป็นนักแสดง เกิดมาได้ก็เพราะประชาชนรักและศรัทธาในตัวเรา แล้วเราทำให้ความเชื่อมั่นศรัทธานั้นมันกลายเป็นการหลงเชื่อ นำไปสู่ความเสียหาย ก็ต้องยอมรับว่าเราผิดจริงๆ เรามีส่วนให้คนเสียหายจริงๆ วันนี้ที่มาออกรายการโหนกระแส เพราะอยากขอโทษผู้เสียหายทุกคน แม้จะย้อนเวลากลับไปไม่ได้ แต่หากวันนั้นรู้ ก็จะไม่พูดในสิ่งที่ได้รับบรีฟหากรู้ว่าเป็นเรื่องไม่จริง ทั้งนี้พร้อมให้ความร่วมมือกับตำรวจในเรื่องนี้ทุกอย่าง

บอย ยังบอกอีกว่า รู้สึกว่าตัวเองถูกหลอกใช้เป็นเครื่องมือ ไปทำร้ายคนที่รักตน คนที่หลงเชื่อเขาเป็นประชาชนที่เชื่อมั่นในตัวเรา ถ้าเรื่องราวมันเกิดขึ้นมาแบบนี้ จากบริษัทที่ตนไปร่วมงานด้วย แล้วทำให้คนเกิดความสูญเสียผมพร้อมหักกับดิไอคอน ไม่ต้องกังวลเลย “พอกลับมาดูคลิปที่ตัวเองเคยพูด รู้สึกผมโง่ดีเหมือนกัน ตอนนั้นพูดไปโดยที่มั่นใจว่าในสิ่งที่พูดมันคือความจริง วันนี้ผมพูดได้แค่ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกับตัวผม ผมขอโทษผู้เสียหาย เป็นความผิดของผมเอง ผมเสียใจกับสิ่งที่ผมพูดแบบนั้นที่ทำให้เกิดความสูญเสียในวันนี้ ผมพลาดเอง ไม่มีข้อแก้ตัวอะไร เป็นความผิดของผมเอง ผมว่าผมก็ถูกหลอกด้วย เหมือนผมโดยไปใช้เป็นเครื่องมือ”

บอย ปกรณ์ ยังบอกด้วยว่า ตัวเองรู้ปัญหาต่างๆ พร้อมกับคนอื่นๆ รู้สึกตกใจ และรู้สึกว่าตัวเองโง่มาก ขณะที่หนุ่ม กรรชัย ถามกลับว่า “แถหรือไม่” บอย ปกรณ์ ตอบว่าไม่ได้แถแต่มาพูดในมุมของตัวเอง ส่วนใครจะมองว่าแถหรือไม่ มีสิทธิ์คิดและตัวเขาพร้อมยอมรับ

นอกจากนี้ในรายการโหนกระแส “บอย ปกรณ์” ยังได้โชว์หลักฐาน ประกาศยกเลิกสัญญา “ดิไอคอน” พร้อมคืนเงินค่าจ้างเป็นพรีเซ็นเตอร์ทั้งหมด เผยกลางรายการได้ส่งหนังสือทาง EMS, อิเล็กทรอนิกส์และให้เมสเซนเจอร์ส่งไปที่บริษัทเขาเรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นไปแล้วผิดก็ว่าไปตามผิด พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทั้งหมด ขอโทษที่มีส่วนทำให้ผู้เสียหายได้รับความเดือดร้อน  

พร้อมกล่าวด้วยว่า “ถ้าเขาทำขนาดนี้กับผู้เสียหาย ทำกับผมขนาดนี้ ก็ไม่จำเป็นที่ผมต้องสังคายนา” ยืนยันไม่ใช่การบรรเทาสิ่งที่เกิดขึ้นไป รู้ว่าลบล้างสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ แต่ยกเลิกเพราะไม่อยากยุ่งกับเขาแล้ว หนุ่ม กรรชัย ถามว่าแบบนี้เท่ากับหักกับบอสพอลเลยหรือไม่ บอย ปกรณ์ ตอบว่ายินดีหัก และขอไม่เลือกอยู่ข้างเขา รวมถึงส่วนตัวก็คิดว่าตัวเองถูกยืมเป็นเครื่องมือสร้างความน่าเชื่อถือเหมือนกัน แต่ไม่ขอเรียกตัวเองว่าเหยื่อ เพราะเหยื่อคือกลุ่มผู้เสียหาย

นอกจากนี้ บอย ปกรณ์ ได้โพสต์ข้อความลงในอินสตาแกรม @boy_pakorn โดยบอกว่า “ผมขอโทษผู้เสียหายทุกท่านอีกครั้งนะครับ ในส่วนของผม ผิดว่าไปตามผิดเลยครับ ตามที่ผมพูดไว้ในรายการ ผมพร้อมให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ทุกอย่าง และผมขอยืนอยู่ฝั่งของผู้เสียหายเต็มตัวครับ ผู้เสียหายท่านไหนไม่กล้าออกมา จะ DM มาหากระซิบบอกทางผม ผมก็ยินดีด้วยความเต็มใจนะครับ”

https://youtu.be/b6sgQF0TotQ