บันเทิง

‘หนุ่ม กะลา’ ตั้งโต๊ะแถลงปม ฟ้องคนใกล้ชิดยักยอก 66 ล้าน – ‘จูน’ โต้ยักยอก โพสต์แจงยิบค่าใช้จ่าย

8 มิ.ย. 2567

522 views

'หนุ่ม กะลา' ตั้งโต๊ะแถลง ปมยื่นฟ้อง 2 คนใกล้ชิด ยักยอกเงิน 66 ล้าน รับที่ผ่านมาผิด แต่ขอให้แยกกัน มีหลักฐานเส้นเงินชัด ลั่นดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ด้าน "จูน" โพสต์แจงค่าใช้จ่าย ชาวเน็ตแห่เมนต์กันฉ่ำ


จากกรณีที่ ทนายเดชา ได้ออกมาเผยว่า นักร้องดัง หนุ่ม ณพสิน แสงสุวรรณ หรือ หนุ่ม กะลา มอบหมายให้ตนยื่นฟ้องคนใกล้ชิดจำนวน 2 คน ที่ยักยอกเงินของห้างหุ้นส่วนจำกัดทองบริบูรณ์ 365 จำนวนกว่า 66 ล้านบาทนั้น ล่าสุด ทั้งคู่ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงเรื่องนี้


ทนายเดชา กล่าวว่า  เงินหายไปจากบัญชีตั้งแต่ปี 2558 จนถึง 2566 เงินหายไป 66 ล้านกว่า ได้มีการตรวจสอบสเตจเมนต์ในคดีชู้ ซึ่งภรรเขาไปฟ้องเรื่องชู้ แล้วมีการเรียกสเตจเมนต์ผมได้เอาเอกสารมาตรวจสอบ ก็พบว่ามีเงินหายไปจากบัญชี เลยถามทางหนุ่มคำนวณแล้ว 66 ล้าน เขาก็ช็อกเลยที่เงินหาย ตรวจแล้วสเตจเมนต์มายันหมดเลย เงินไปเข้าบัญชีภรรยาหมด เงินบริษัทก็ตรวจสอบ หลังมีปัยหาเรื่องมือที่สาม แยกกันอยู่ ก็เอาบัญชีมาดูเงินเหลือ 2-3 แสนบาท หลังจากนั้นก็ฟ้องไปที่ศาลแขวนสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2567 จริงๆ เราไม่ได้อยากเป็นข่าว แต่ปรากฎว่าทางคู่กรณีดันไปปล่อยข่าวทางโซเชียล ทางเราเสียหาย ต้องออกมาชี้แจง

ด้าน หนุ่ม กะลากล่าวว่า  ย้อนไปข้อสงสัย ต้องบอกก่อนว่าที่ผ่านมาไม่เคยมีข้อสงสัยอะไรเกี่ยวกับการเงิน เพราเราเป็นสามีภรรยากัน จ่ายค่าไฟยังไม่เป็นเลย มีหน้าที่ออกไปหาเงินแล้วกลับมา แต่จุดนึงที่ผมรู้สึกตอนที่คืนบัญชี เขาคืนมา 2 หรือ 3 แสน มันเลยเป็นจุดทำให้ผมรู้สึกว่า เดี๋ยวนะ ผมยังต้องรับผิดชอบรายเดือนเขาและลูก อีกเกินจำนวนเงินที่เขาคืนผม แล้วเงินผมไปไหนหมด เขาไม่เคยให้เหตุผลอะไรกับผม ผมได้เงินเดือนละ 40,000 บาท พอเขาคืนเงินกลับมา ผมก็ตกใจว่าเงินไปไหน แล้วเช็กสเตจเมนต์ทางมือถือได้คร่าวๆ ชื่อออกไปที่ “เพ็ญชุลี” ผมเคยพูดกับจูนว่าทำไมบ้านเราไม่มีเงิน 10 ล้านสักที คำพูดนี้อยู่ในไลน์ที่คุยกัน

ผมน้อยเนื้อต่ำใจมาก ทำไมเป็นนักร้องที่ไม่มีเงิน 10 ล้านสักที ทุกครั้งทีไปแบงก์กัน ผมต้องเป็นคนเซ็นเพื่อเบิกเงิน คำถามว่าทำไมเงินไป เพ็ญชุลี โดยผมไม่ได้เซ็นชื่อ แล้วทุกครั้งที่ไปแบงก์ สมมุติผม 6 เดือน สมมุติผมทำงานมีรายได้เดือนละ 2 ล้าน สมมุติเราได้ 10 ล้าน ผมตีให้แบบฟุ่มเฟือยสุดๆ ใช้เงินครึ่งนึงอาจะเหลือ 5 ล้าน ไม่ครับ เงินเหลือประมาณ 2 ล้าน 3 ล้าน พอเราทำงานมาครึ่งปีหรือหนึ่งปี ผมก็ถามวง่าเงินไปไหน คำตอบคือค่ายใช้จ่าย และไม่ใช่เกิดขึ้นตอนผมมีประเด็นข่าวกับเขานครับ ตั้งแต่ผมเป็น วงกะลา ด้วยซ้ำ จนมาเป็นนักร้องเดี่ยว ทุกมากระจ่างตอนดูสเตจเมนต์ ทำไมถึงเห็นยอด 3 ล้าน ยอด 2 ล้าน เพราะก่อนที่จะเหลือ 3 ล้าน มันถูกกระจาย เงินจะเข้าทุกวันศุกร์แล้วออก ยอดจะเหลือแค่ให้ผมเห็นเท่านี้

วันนี้ที่ผมคุยกับเขามาตลอด เขาบอกทำไมเป็นคนในครอบครัวถึงไม่คุยกัน ผมคุยมาตลอด หลายเดือนแล้ว ทุกอย่างอยู่ในไลน์หมด

ตอนนี้ผมเป็นหนี้เกือบ 20 ล้าน คือถ้าบริหารเงินผมได้จริง ผมเป็นนักร้องมา 26 ปี ทำไมเป็นหนี้ 20 ล้าน ถ้าผมหาเงินได้ปีละ 20 กว่าล้าน ผมเป็นหนี้บ้าน หนี้รถ หนี้คอนโด ทุกอย่างเป็นหนี้หมด พอผมเห็นสเตจเมนต์แล้ว ก็มาพบพี่เดชา และบอกว่าผมไม่ได้จะเอาเงินคืนนะ นี่ช่องทางเดียว มีบัญชีอื่นอีก ต่อให้เป็น 100 ล้านผมก็ไม่เอาคืน แต่ผมขอให้เขาปิดหนี้ให้หน่อย แล้วถ้าเป็นไปได้ขอเงินติดตัว 5 ล้าน ถ้าให้ไม่ได้ไม่เป็นไร ปิดหนี้ให้หน่อย ส่วนเรื่องที่ผมเห็นบางคอมมนต์ว่าอยากหย่าขนาดนี้เลยเหรอ ไม่นะ ความจริงจูนบอกว่าจะหย่าอยู่เรื่อยๆ ช่วงหลัง ผมบอกยังหย่าไม่ได้ เพราะเงินของผมอยู่ที่ไหน เราต้องคุยเรื่องนี้กันก่อน นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น

ผมได้เงินเดือน 40,000 บาท คือจะค่อยๆ เพิ่ม ช่วงก่อนหน้านี้ก็อาจจะ 20,000 บาท แล้วช่วงหลังๆ ผมมาได้เงิน 100,000 บาท ตอนแยกบ้าน ผมขอเขาว่าอยู่ด้วยเงิน 40,000 ไม่ได้ ต้องดูแลลูกน้องเดินสาย และไปอยู่บ้านแม่ก็ต้องรับผิดชอบบางอย่าง เพิ่งมาได้ 100,000 บาท

ส่วนที่ถามว่าเงินไปไหน เขาบอกว่าไม่มี ตอนเป็นประเด็นข่าวมีบางช่องพูดว่า ผมมี 8 ล้าน สาบานให้ตายเลย เกิดมาผมยังไม่เคยเห็นเงินตัวเองเกิน 5 ล้านเลยด้วยซ้ำ ตอน 8 ล้าน เขาบอกขอเก็บให้ลูก ผมยังดีใจที่สุดในชีวิตด้วยซ้ำ อย่างน้อยเลิกกันไป ลูกยังยังมีเงิน 8 ล้าน ผมคิดแบบนั้นเลย

ถามว่ามีปัญหานานหรือยัง  หนุ่ม กะลา กล่าวว่า มันมีคำถามทุกครั้งที่ไปแบงก์ แต่สุดท้ายผมไม่ได้ต้องการคำตอบ เพราะผมไม่ได้จะไปไหนจากเขา แล้วผมไม่คิดว่าคนๆ นึง จะใจร้าย เลิกกันไปแล้ว ตัวเองเก็บทรัพย์สินทุกอย่างไว้หมดแล้วทิ้งหนี้ไว้ให้ผมขนาดนี้ บางคนพูดว่าออกมาแล้วไม่รับผิดชอบเลี้ยงดูลูก ค่าใช้จ่ายเดือนละ 700,000 บาท ผมยังจ่ายทุกเดือนนะ

ส่วนที่ฟ้อง มันคือการที่ขาต้องมาแจงกับผมว่าเงินไปไหน แล้วเมื่อเขาแจงได้หรือไม่ได้ก็ตาม เราต้องคุยกันว่า ถ้าไม่อยากให้เรื่องบานปลาย ก็ขอให้ปิดหนี้ให้หน่อย แล้วจบกันไปนะ คำตอบคือไม่มี อยากฟ้องก็ฟ้องเลย

ผมกับเขาจดทะเบียนสมรสกัน ที่ฟ้องอาญา และไม่ฟ้องหย่า เราแบ่งสินสมรสไม่ได้ เพราะตอนที่ผมแยกออกจากบ้าน ของทั้งหมดที่เป็นหนี้เขาให้ผม แต่ของที่ผ่อนหมดแล้วเขาเอา นั่นคือสิ่งที่ผมจะแบ่งจากอะไร

ด้านทนายเดชา กล่าวเสริมว่า ที่ไม่ฟ้องหย่า แล้วแบ่งสินสมรส เพราะมันไม่มีสินสมรส ถ้าพูดตามภาษากฎหมาย สินสมรสถูกจำหน่ายไป โดยคู่สมรสอีกฝ่ายนึง ในเมื่อสินสมรสหายไป 66 ล้าน จะฟ้องหย่าแล้วแบ่งสินสมรสไม่ได้ เลยต้องใช้คดีอาญา ยักยอกเงินส่วนนี้ไป แต่ไม่ใช่เงินสินสมรส แต่เป็นเงินบริษัท ซึ่งโจทย์ที่ฟ้องคือบริษัท ไม่ใช่หนุ่มนะ

หนุ่ม กะลากล่าวต่อว่า มีสิ่งนึงผมพูดกับคนรอบตัวเสมอว่า ผมรู้สึกผิดที่ผมทำสิ่งนั้น ผมยอมรับผิดอย่างลูกผู้ชายครับ พอเราอยู่ด้วยกันไม่ได้ พอแยกทางก็ต้องตกลงกันว่าจะเอายังไงต่อ ผมทำงานมาทั้งชีวิต มันไม่ยุติธรรมกับผม เงินมันหายไปหมด กลายเป็นว่าผมต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ส่งลูก รวมๆ ทั้ง 2 บ้าน ค่าใช้จ่ายประมาณ 700,000 บาท

ถามว่า จะคุยกันนอกรอบหรือไม่ ศิลปินหนุ่มกล่าวว่า  จริงๆ คุยไลน์ตลอด มีหลากอารมณ์ เขาบอกว่าไม่มี เราอาจจะไม่ได้คุยเรื่องเงิน 66 ล้าน แต่ผมรู้ว่าเขามี เลยบอกว่าเอาเงินมาปิดหนี้ ขอ 5 ล้าน จบเลย เราต่างคนต่างไป บ้านต่อให้ปิดแล้วก็ให้เป็นชื่อทั้งคู่ แต่เขายืนยันว่าไม่มี

ผมขอย้อนกลับไป 2 ปีที่เป็นข่าว นั่นคือ 2 ปีที่ผมไม่ได้เอาเงินออกมาใช้หรือซื้อของเลย มีแค่เงินเดือน 40,000 บาท เท่ากับรายได้ผมจะเข้าเขา 100% ก่อนหน้านี้ไม่มีผมเชื่อ แต่ 2 ปีนี้มันต้องมีสิครบ จะเหลือ 8 ล้านได้ยังไง

บริษัทมีหุ้นคือ ผม น้องสาวผม และจูน ตอนนี้ผมกลับมาดูแลบัญชีเองแล้ว ก่อนหน้านี้น้องก็ไม่ได้ดู มีแค่จูนแบฝ่ายบัญชีอีกท่าน จริงๆ คนที่เซ็นอนุมัติต้องเป็นผม เช่นเรื่องเลิกเงิน แต่ก็ตกใจว่าไปที่เห้นสเตจเมนต์เป็น เพ็ญชุลี ก็มีเพื่อนๆ ให้คำปรึกษาว่าเขาอาจจะใช้แอปฯ หรือเปล่า กับน้องสาวผมก็ติดต่อกัน เราก็ปรึกษากัน เขาแล้วแต่ผม ช่วงที่เอาบัญชีกลับมาดูแล เงินเข้า-ออก ก็เยอะ ปีนี้เป็นปีที่ผมรับงานไม่เยอะ มีแค่ 15-18 งานต่อเดือน ไม่ร่วมค่าลิขสิทธิ์ เงินเข้าโดยประมาณ 20 ล้านต่อปี สาบานตลอดที่เป็นสามีภรรยากัน ไม่เคยเห็น 5 ล้าน ครั้งสุดท้ายที่เห็นก่อนเป็นโควิด ยังคิดว่างานไม่เปิดสักที ค่าใช้จ่ายโหด พอวันนี้มารู้ผมเสียใจมาก ตอนนั้นมันเครียดมาก พอมาเห็นบัญชีทุกอย่างที่ออกไป ก็คิดว่าถ้าพูดกับผมสักคำ

ถามว่าเคยสงสัยเรื่อเงินไหม เขาให้เหตุผลค่าใช้จ่ายเยอะ แต่ท้ายที่สุดสเตจเมนต์ไม่โกหก ผมพูดอะไรก็ได้ จูนพูดอะไรก็ได้ สเตจเมนต์ไม่โกหก

25 ปีที่ผ่านมาเป็นเงินผมที่เลี้ยงเขาและครอบครัว ฉะนั้นผมบกพร่องตรงไหน ทำผิดก็ยอมรับผิดทำสิ่งที่ไม่ดีที่สุดท่าที่ผู้ชายคนนึงจะทำกับครอบครัว แต่ถ้าเรื่องดูแล ผมดูแลดีที่สุดครอบครัวผมและเขา มาตลอด 25 ปี คือเงินผมทั้งหมด ไม่ใช่ของจูน วันนี้ผมแค่รู้สึกว่าต่อให้ทุกบัญชี ขึ้นศาลต่อให้ 100 ล้าน ผมก็ไม่เอาคืน ผมเชื่อว่าสุดท้ายเขาจะดูแลเงินเพื่อลูกได้ดีอยู่แล้ว ผมแค่คิดว่าปิดหนี้ และต่างคนต่างชีวิต ดูแลลูก ก็จบ

ผู้สื่อข่าวถามว่าถ้าเปรียบกับชีวิตตัวเองตอนนี้ อยากเปรียบเป็นเพลงอะไร ผมคิดว่าเพลงปล่อย ชีวิตผมช่วงนี้ไม่ค่อยเล่นโซเชียลมาก ที่เห็นผมเล่นโซเชียลมันเป็นหน้าที่ที่ผมจะต้องทำ เพราะว่าผมยังทำงานวงการบันเทิง มันเลยรู้สึกนิ่งๆ พอมันนิ่งจนถึงจุดหนึ่ง เหมือนว่าเราเตรียมใจมาแล้ว และแพลนมาแล้วว่าเราจะบวช ก็เลยรู้สึกว่าได้จังหวะพอดีเพลงนี้จึงเหมาะที่สุด จริงๆ เดือนกว่าๆ มันอาจเป็นช่วงเวลาที่ไม่นาน แต่สำหรับผมผมคิดว่ามันจะเป็นประโยชน์ต่อใจผมมากๆ ความจริงแล้วตอนนี้ยังทำใจไม่ได้เลยที่จะไม่เจอลูก (หัวเราะ) และผมเองก็ยังส่งข้อความไปหาจูน ก่อนที่จะมีคนทั้งโลกรู้ว่าผมบวช ผมส่งไปบอกว่า 15 นี้ผมบวช ถ้าไม่เป็นการรบกวนเธอจนเกินไป มางานบวชได้ไหม เขาก็ถามว่าบวชวัดไหน ผมก็บอกว่าวัดบวรนิเวศวิหาร และประจำวัดป่า และหลังจากนั้นก็เป็นข่าว


ขณะเดียวกัน หลังการแถลงข่าวของ หนุ่ม กะลา ทางด้านภรรยา จูน เพ็ญชุลี ก็ได้โพสต์ชี้แจงรายจ่ายในแต่ละเดือน พบว่าสูงกว่า 3 แสนบาท และยืนยันว่า ที่สามีพูดว่า รายจ่ายเดือนละ 7 แสนบาทนั้นก็เป็นความจริง และเงินที่ใช้จ่ายก็เป็นเงินของบริษัท


"ขอใช้พื้นที่เล็กๆตรงนี้ชี้แจงรายละเอียดเบื้องต้นนะคะ เราเป็นคนรับเงินมา ก็เอามาจ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าใช้จ่ายในบ้าน

ค่าผ่อนบ้าน 69,800 ค่าคอนโด 15,500 เงินเดือนพ่อแม่ 52,500 เงินเดือนสามี 100,000 เงินเดือนคนขับ 15,000 ค่าผ่อนรถ Benz 38,880 ค่าผ่อนรถ Alphard 45,000 ค่าผ่อนรถ Benz 23,500 Total fix cost ต่อเดือน 360,180

ค่าใช้จ่ายเรื่องงาน ค่าStage ค่าLighting ค่าช่างภาพ ค่าBroker เงินเดือนผู้จัดการ เงินเดือนคนตัดต่อ ค่าเช่าห้องเก็บเครื่องดนตรี ค่าน้ำมันคนขับรถตู้อีก2คัน รวมแล้วเดือนละ+-ประมาณ 300,000


ยังไม่รวมถึงค่าน้ำค่าไฟค่า ค่าเทอมลูก ค่ากินอาหาร ค่าเสื้อผ้า ค่าประกันชีวิต ค่าประกันรถ ค่าไปเที่ยวต่างประเทศ ไหนจะค่าบัตรเครดิตอีก ตามที่สามีพูดเลยค่ะว่ารายจ่ายต่อเดือนประมาณ 700,000    


2 ยอดนี้บวกกัน ลองคูณต่อปีเอาก็แล้วกันนะคะว่ารายจ่ายจะเท่าไหร่ มีเอกสารหลักฐานตรวจสอบได้ทุกยอดค่ะ ขอฝากไปถามก็แล้วกันนะคะว่าจะเอาเงินมาจากไหนถ้าไม่ใช่จากบริษัทที่เปิดร่วมกันกับสามี


Statement ไม่โกหกตามที่สามีพูดเลยค่ะ statement บริษัทมี Statement ส่วนตัวก็มีค่ะชี้แจงได้ว่าโอนออกไปจ่ายอะไรบ้าง และในส่วนเงินเก็บก็ยังอยู่ค่ะ ไว้เราไปดูรายละเอียดกันที่ศาลนะคะ


คนเป็นเมียในฐานะคนทำบัญชี ดูแลบริษัท สั่งจ่ายไปเพื่อประโยชน์ของบริษัทและครอบครัว แบบนี้หรือ คือ ยักยอก ก็ทำแบบนี้มาตลอดนะคะเป็นเวลาหลายปี แล้วทำไมถึงมาฟ้องตอนนี้คะ จริงๆเราก็อธิบายไปหลายรอบแล้วค่ะแต่สามีอาจจะไม่เข้าใจ เดี๋ยวเตรียมหลักฐานเสร็จแล้วให้ศาลท่านช่วยดูก็แล้วกันนะคะว่าแบบนี้เรียกยักยอกมั๊ย  ปล.คำนวณกลมๆ 600,000*12เดือน = 7,200,000 *9 ปี =  64,800,000 มั๊ยคะ"


โดย หลังจาก จูน ภรรยา โพสต์ชี้แจงรายจ่ายใน 1 เดือนว่ามีค่าอะไรบ้าง ลงในไอจีได้ไม่นาน ฝ่าย หนุ่ม กะลา ก็เข้ามาคอมเมนต์ทันที   โดย หนุ่ม กะลา ได้โพสต์ว่า “ปีนึงได้เงิน20ล้าน ค่าใช้จ่าย500000×12เดือน = 6 ล้าน อีก10กว่าล้านล่ะ”  


ด้านจูนเข้ามาตอบว่า “อยากดูรายได้ไปดูงบการเงินได้ว่ามีรายได้ถึงเดือน" "อยากดูรายได้ไปดูงบการเงินได้ว่ามีรายได้ถึงเดือนละ20ล้านมั๊ย ไปโหลดในระบบกรมพัฒน์ได้เลยค่ะจะได้ไม่หาว่าฉันโกหก"


"เงินของห้างหุ้นส่วนจำกัดเป็นเงินของนิติบุคคล ถ้ามีใครเอาเงินของห้างเข้าบัญชีส่วนตัวก็ผิดกฎหมายแล้ว มันคือการทุจริตครับคือการยักยอก ไม่ต้องไปดูเรื่องงบการเงินอะไรหรอก สเตจเม้นท์มันไม่ตรงกับงบการเงินไง ถึงได้ฟ้อง เคนะ"


"ไม่ต้องมาเถียงกันตรงนี้หรอกค่ะ ก็รอเราเอาหลักฐานมาประกบแล้วก็ตรวจเอาแล้วกันค่ะ ถ้าผิดจริงมีเจตนายักยอกจริงก็ว่ากันไปตามนั้นเลย เราก็ต้องยอมรับ"


"แล้วรายได้ต่อปีสูงสุดแค่17ล้านค่ะ ไม่เคยถึง20ล้าน ไปโหลดดูในระบบกรมพัฒน์ได้เลย"  สุดท้ายหนุ่ม กะลา ก็ได้เข้ามาตอบคอมเม้นท์ว่า "พบกันที่ศาล สวัสดีครับ"



รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/CwOZFE5OyR4

แท็กที่เกี่ยวข้อง  หนุ่มกะลา

คุณอาจสนใจ

Related News