บันเทิง

“เบสท์ ชนิดาภา” โร่แจ้งความ มิจฉาชีพหลอกโอนเงินสมัครงานรีวิว สูญเงิน 1.2 ล้านบาท

โดย nicharee_m

10 พ.ค. 2568

17.9K views

“เบสท์ ชนิดาภา” ดาราสาวแจ้งความ บก.ปอท. ถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกโอนเงินสมัครงานรีวิวโรงแรม สูญเงิน 1.2 ล้านบาท เผยกลวิธีทำเป็นขบวนการ แม้ระวังแล้วก็ยังพลาด ไม่เจอกับตัวไม่รู้

เบสท์ ชนิดาภา พงศ์ศิลป์พิพัฒน์ ดารานักแสดง เดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บก.ปอท. หลังถูกมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินสมัครงานรีวิวโรงแรม อ้างเป็นแคมเปญรีวิวร่วมกับ Agency ชื่อดัง สูญเงินไปกว่า 1.2 ล้านบาท

เบสท์ ชนิดาภา เล่าว่า เมื่อวานนี้ได้เล่นเฟซบุ๊กแล้วเจอโพสต์ที่ยิงแอดว่ารับสมัครนักรีวิวโรงแรม รายได้กว่า 3 หมื่นบาท ซึ่งตนรู้สึกสนใจ เพราะปกติเป็นคนชอบเดินทางไปพักผ่อนอยู่แล้ว เลยทัก inbox ไปถามรายละเอียดงาน แต่อีกฝ่ายให้โหลดแอปพลิเคชั่น Telegram เพื่อจะเข้าไปพูดคุยในนั้น แล้วมีรหัสไอดีให้

จากนั้นได้คุยกับแอดมินแจ้งว่า จะต้องมีการทดสอบเขียนรีวิวโรงแรมก่อนว่ามีคุณสมบัติจะทำงานนี้ไหม และจะมีค่าเสียเวลาให้ พอลองทำไป ก็มีเงินโอนเข้ามาจริงๆ เป็นจำนวนไม่มากแค่หลักสิบ ซึ่งตนได้เอาชื่อบัญชีไปเช็คแล้ว พบว่าไม่ใช่บัญชีม้า นอกจากนี้ การเขียนรีวิวแต่ละครั้ง จะมีคะแนนสะสมให้ ถ้าทำได้ครบ 100 คะแนนก็จะรับเข้าทำงาน

พอตนทำได้ครบ 50 คะแนน ก็ถูกดึงเข้าไปในอีกแชทกลุ่มที่มีสมาชิกเยอะมาก แอดมินบอกว่า แคมเปญนี้เป็นแคมเปญรีวิวร่วมกับ Agency จองโรงแรมชื่อดัง ดังนั้น จึงต้องมีการให้โอนค่าดำเนินการไปก่อน แล้วเมื่อรีวิวลงแพลตฟอร์มที่กำหนดแล้ว จะคืนเงินให้พร้อมกับค่าคอมมิชชั่นแบบขั้นบันได

ตนจึงลองเริ่มที่ยอดเงินต่ำสุด คือ 400 บาท ทำการรีวิวแชร์ลิงก์โรงแรมไปในเฟซบุ๊ก ไม่ถึง 2 นาที ก็ได้เงิน 400 บาทพร้อมค่าคอมมิชชั่น 10% จริงๆ จากนั้นแอดมินจึงชักชวนให้ทำต่อ จำนวนเงินมากขึ้นเรื่อยๆ อีก 4 ครั้ง ก็ได้เงินและค่าคอมมิชชั่นทุกครั้ง พอถึงครั้งที่ 5 ที่เป็นยอดเงินกว่า 5 พันบาท ก็ถูกดึงเข้าไปอยู่ในอีกแชทกลุ่ม ที่มีสมาชิกแค่ 5 คน ซึ่งแอดมินบอกว่าเป็นกลุ่ม VIP ของระดับที่สูงขึ้น

ตอนนั้นตนยังไม่ได้เงินที่ทำการรีวิวครั้งที่ 5 คืน แอดมินบอกว่า ต้องทำการรีวิวต่อกับสมาชิกในกลุ่มนี้ แล้วจะได้เงินคืนทั้งหมด ซึ่งมีการให้โอนเงินแบบเดิม แต่ครั้งนี้ยอดสูงขึ้น เป็นหลักหมื่น พอทำไป แอดมินจะเริ่มหาจุดมาบอกว่า เราทำผิดกติกาเช่น แชร์ไม่ครบจำนวนแพลตฟอร์ม โอนเงินไม่ทันเวลาที่กำหนด ดังนั้น จึงไม่ได้เงินคืนทั้งกลุ่ม หากต้องการเงินคืน ก็ต้องทำต่อไปอีก

ระหว่างนี้ สมาชิกในกลุ่มคนอื่น จึงเริ่มมีการกดดัน ต่อว่าว่าเป็นเพราะตนทำผิดกติกา ทำให้คนทั้งกลุ่มไม่ได้เงิน และเริ่มมีการเล่าสตอรี่ต่างๆ เช่น ต้องการเงินไปรักษาลูกป่วย ต้องเอาโฉนดที่ดินไปจำนอง ทำให้ตนรู้สึกกดดัน ร้อนใจต้องโอนเงินไปเพิ่มอีก เพราะยังหวังจะได้เงินทั้งหมดคืน ซึ่งยอดเงินที่ต้องโอนไปสูงขึ้นเรื่อยๆ จนถึง 6 แสนบาท

จนสุดท้ายตนรู้สึกว่าไม่ใช่แล้วจึงหยุดโอน จนถึงตอนนี้ แอดมินก็ยังส่งข้อความมาอยู่ว่าให้โอนเงินเข้าไป ถามว่า “ไม่อยากได้เงินคืนหรอ” รวมแล้วตนเสียเงินไปกว่า 1.2 ล้านบาท ซึ่งตนใช้เวลาพูดคุยกับแอดมินและโอนเงินทั้งหมดไปตั้งแต่ช่วง 11 โมงจนถึงเที่ยงคืน โดยที่ไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่นเลย เพราะใจจดจ่ออยากจะได้เงินก้อนแรกๆ คืน จึงยอมโอนไปเพิ่ม

ทั้งนี้ พอตนเอะใจ จึงให้เพื่อนช่วยตรวจสอบบัญชีที่ให้โอนเงินไป พอรู้ว่าเป็นบัญชีม้า มีทั้งหมด 4 บัญชี ตนก็เลยหยุดทุกอย่างทันที แล้วนำหลักฐานเข้าแจ้งความกับตำรวจ ซึ่งก็คิดว่า คนอื่นๆ ที่อยู่ในแชท ก็เป็นขบวนการเดียวกันทั้งหมด น่าจะมีแค่ตนเองที่เป็นผู้เสียหายคนเดียว

โดยถ้าเป็นไปได้ ก็อยากได้เงินคืนอยู่แล้ว แต่ยอมรับว่าก็ทำใจ ว่าจะไม่ได้คืน เพราะมิจฉาชีพทำเป็นขบวนการที่แนบเนียนมาก เวลาที่เราเสพข่าวก่อนหน้านี้ จะรู้สึกว่า ทำไมคนอื่นถึงพลาด และก็ระวังมาตลอด แต่พอมาเจอกับตัวจึงเข้าใจเลยว่า มันแยบยลมาก เหมือนถูกสะกดจิตไปเลย มีการสร้างตัวละคร และจำกัดเวลา ให้เราไม่ทันได้คิดอย่างถี่ถ้วนก่อน

อยากให้เรื่องที่เกิดขึ้นกับตน เป็นอุทาหรณ์ว่าทุกวันนี้ มิจฉาชีพมีมาในทุกรูปแบบ และเศรษฐกิจแบบนี้หลายคนก็อยากมีงาน มีรายได้เสริม อยากให้ระวังโพสต์ที่มีการปั่นคอมเมนต์ ปั่นแชร์ผิดปกติ อะไรก็ตามที่ให้เราโอนเงินไปก่อน ให้เอะใจว่าไม่ใช่แล้ว ซึ่งครั้งนี้เป็นบทเรียนสำคัญมากในชีวิตตน แม้จะระวังมาตลอดก็เสียรู้ได้ อยากจะรีบดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไม่ให้มิจฉาชีพไปหลอกใครได้อีก


คุณอาจสนใจ

Related News