บันเทิง

‘แซม ยุรนันท์’ มั่นใจไม่ได้ทำอะไรผิด เผยไม่เคยรู้มีคนเดือดร้อนจากธุรกิจ ถ้าผิดจริงพร้อมเยียวยา

โดย chutikan_o

10 ต.ค. 2567

39 views

‘แซม ยุรนันท์’ มั่นใจไม่ได้ทำอะไรผิด เผยไม่เคยรู้มีคนเดือดร้อนจากธุรกิจ ลั่น! ถ้าบริษัทผิดจริง ไม่ขอเข้าข้างคนผิด พร้อมเยียวยา ช่วยเหลือผู้เสียหาย

ล่าสุด ‘แซม ยุรนันท์’ หนึ่งในคนบันเทิงที่โซเชียลเรียกร้องให้ออกมาชี้แจง ก็ได้ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนว่า ตนเองเพิ่งได้เข้ามาอยู่กับทางดิไอคอนไม่ถึงปี โดยจุดเริ่มต้นที่ได้รู้จักกับ ‘พอล วรัตน์พล’ เกิดจากการไปเรียนหลักสูตรด้านสินทรัพย์ของ The Nation เหมือนกัน ซึ่งตนเองเป็นประธานรุ่น และพอลก็อยู่ในกลุ่มเดียวกัน ทำกิจกรรมด้วยกันบ่อย ซึ่งในการเรียนหลักสูตรนี้ก็จะไปเยี่ยมเยียนธุรกิจของแต่ละคน และได้มีโอกาสไปเยี่ยมธุรกิจของดิไอคอนด้วย ก็เห็นว่าเป็นธุรกิจขายของออนไลน์ที่มีระบบชัดเจน เคยได้มีโอกาสไปงานของเขา ก็ได้เห็นคนที่ประสบความสำเร็จต่างๆ ก็เห็นว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจ ขณะที่พอลก็เคยไปเยี่ยมเยียนธุรกิจโรงพยาบาลของตนเองที่ทำมาเกือบ 20 ปีด้วยเช่นกัน เพราะตนเองเรียนจบด้าน Anti-Aging (เอนไทน์เอจจิ้ง) มา

หลังจากนั้นก็ได้มีโอกาสพูดคุยกันถึงเรื่องการผลิตสินค้า ที่ทางคุณพอลมีเป้าหมายอยากไปสู่ตลาดโลก ก็เลยอยากเอาองค์ความรู้ของตนเองมาช่วยพัฒนาสินค้า ให้มีมาตรฐานระดับสากล ตนเองก็เห็นว่ามันก็สามารถแมชท์กันได้ดี ก็เลยถามเขาไปว่า ตนเองจะสามารถทำงานแบบไหนได้บ้าง เขาก็บอกว่าให้ตนเองไปช่วยดูเรื่องสินค้า และเขาก็ให้ตำแหน่งเพื่อเป็นการให้เกียรติตนเอง ก็ได้อยู่ในตำแหน่ง ‘ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาและวิจัยผลิตภัณฑ์’ ซึ่งก็เป็นแค่การให้ตำแหน่ง แต่ไม่ได้ให้อำนาจในการตัดสินใจมาด้วย

โดยหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายคือการดูแลเรื่องสินค้า เหมือนแค่มีหน้าที่ให้คำปรึกษามากกว่า เพราะคนที่มีอำนาจตัดสินใจมีแค่คนคนเดียว ส่วนหน้าที่ประจำทุกวันอาทิตย์ที่ทำมาหลายเดือนแล้ว คือจะมีคลาสสินค้า ที่มีลักษณะเป็นการแนะนำสินค้าว่า สินค้าคืออะไร ใครควรใช้ ไม่ควรใช้ และในแต่เดือน ก็จะไปร่วมมอบรางวัลให้กับคนที่ขายดีของเดือนนั้น บรรยากาศที่เห็น ก็จะเห็นผู้คนที่ประสบความสำเร็จ ก็ทำให้รู้สึกภูมิใจ และมีความสุขกับเขาไปด้วย

แต่ก็เพิ่งมาเห็นข่าวเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ว่ามีคนที่เสียหายจากการทำธุรกิจนี้ด้วยเหรอ เพราะที่ผ่านมาเคยเห็นแต่คนที่ประสบความสำเร็จ พอเห็นข่าวก็ยอมรับว่าช็อก เพราะไม่เคยรู้ข้อมูลด้านนี้มาก่อน ตั้งแต่เข้ามาที่บริษัทก็ได้เห็นแต่เรื่องดีๆ ไม่เคยรู้ว่ามีคนที่ซื้อของไปจำนวนมากแล้วขายไม่ได้เลย บางคนถึงขนาดล้มละลาย  

บางคนถึงขนาดต้องฆ่าตัวตายเลยเหรอ ก็ยังคิดว่ามันเป็นเรื่องจริงเหรอ มันเป็นเรื่องคนละด้านกับที่ตัวเองรับรู้มาตลอด แต่ตนเองก็เข้าใจดีอยู่แล้วว่า จะให้ขายดีทุกคนคงเป็นไปไม่ได้ ก็มองว่าทางดิไอคอนก็ต้องเอาเรื่องนี้กลับไปศึกษาว่า คนที่ขายไม่ได้เขามีปัญหาอะไร ตนเองก็อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะคนที่ขายได้ก็มีปริมาณที่มากพอสมควร ก็คิดว่าเป็นเรื่องที่ต้องพูดคุยกัน และถือว่าเป็นเรื่องดีของทั้งสองฝ่ายที่จะได้หาแนวทางร่วมกันด้วย  

และมองว่าดรามาที่เกิดขึ้น อาจจะเป็นเพราะว่า มีคนที่เคยอยู่ในทีมแล้วออกไปอยู่ที่อื่น และเกิดความไม่ชอบใจ ก็เป็นได้ แต่พอมีปัญหาเกิดขึ้นแล้ว จะให้ตนเองปัดความรับผิดชอบไปเลยก็ไม่ได้ เพราะอาจจะมีคนที่ซื้อสินค้าไปเพราะเชื่อมั่นในตนเองด้วยก็ได้ แต่ก็ไม่รู้ว่าความรับผิดชอบของตนเองอยู่ที่ตรงไหน คิดว่าเรื่องผิดถูกเป็นอีกเรื่องนึง แต่ต้องเข้าไปช่วยเหลือ เยียวยา คนที่เดือดร้อนก่อน

ส่วนที่ตอนนี้คนมองว่าเป็นธุรกิจที่หลอกลวง แซมกล่าวว่า ตนเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าหลอกลวงยังไง จนคนสิ้นเหนือประดาตัว เพราะไม่เคยคุยกับผู้เสียหายโดยตรง

พร้อมชี้แจงว่า ก่อนที่จะไปทำงานกับที่ไหน ตนเองเป็นคนที่ระวังตัวมาก การที่จะรับเป็นพรีเซนเตอร์อะไรสักชิ้น ต้องคิดแล้วคิดอีกว่าตนเองเหมาะกับสินค้านั้นหรือเปล่า, ได้ใช้จริงไหม, สินค้าผ่าน อย. ไหม, ถูกต้องตามกฎหมายหรือเปล่า เหมือนตอนที่มาอยู่กับดิไอคอน ก็ได้ตรวจสอบก่อนว่าเป็นบริษัทอะไร ทำงานประเภทไหน จดทะเบียนถูกต้องหรือเปล่า มีใครจดทะเบียนบ้าง มีใครเป็นผู้ถือหุ้นบ้าง ทุนจดทะเบียนเท่าไหร่ เป็นแชร์ลูกโซ่หรือเปล่า ก็ค่อนข้างดูละเอียดมากพอสมควร เพราะอายุเยอะแล้ว ไม่อยากพลาดตอนแก่ และเหตุผลส่วนหนึ่งที่เข้ามาอยู่ที่นี่ เพราะตนเองเป็นคนโลว์เทคโนโลยี ก็อยากจะเข้ามาเรียนรู้ว่าออนไลน์คืออะไร

เท่าที่ร่วมงานกันมา ก็มั่นใจว่าสินค้าทุกตัวถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง ส่วนกรณีผลิตภัณฑ์เม็ดฟู่ที่เคยถูก อย.เตือนว่า เป็นสินค้าอันตราย แซมยืนยันว่าไม่ทราบเรื่องนี้ เพราะเข้ามารับตำแหน่งหลังจากที่ผลิตภัณฑ์นั้นออกมาแล้ว พร้อมประกาศเลยว่าถ้าบริษัททำผิดจริง ตนเองก็ไม่เข้าข้างคนผิด และที่ออกมาพูดก็เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ และเผื่อจะเป็นประโยชน์ให้กับใครได้

แซม กล่าวอีกว่า ได้มีโอกาสคุยกับคุณพอล ผู้ก่อตั้งดิไอคอนแล้ว เขาก็บอกว่าไม่ได้รู้เรื่องทั้งหมดเหมือนกัน ไม่ได้รู้เรื่องที่มีคนฆ่าตัวตาย และก็ได้ถามเขาไปว่า ทำอะไรผิดโดยที่ตนเองไม่รู้หรือเปล่า เขาก็ยืนยันว่าเขาไม่ได้ทำอะไรผิด เขาอยู่บนพื้นฐานของการทำงาน คือ สินค้าต้องดี, ราคาต้องเป็นธรรม, การตลาดต้องดี, รับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งตนเองก็ได้เสนอไอเดียในการช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนให้คุณพอลเอากลับไปพิจารณา เพราะตนเองไม่ได้มีอำนาจตัดสินใจ แต่เขาก็ยังไม่ได้ตอบกลับมาว่าจะมีวิธีเยียวยายังไง แต่ที่รู้สึกได้ว่า เขารู้สึกเศร้ามาก และไม่คิดว่าเรื่องจะแรงเบอร์นี้ เพราะเขาทำธุรกิจมาเพื่อให้โอกาสคน ก็มั่นใจว่าตนเองไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ได้ไปหลอกใคร ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียจากการปิดยอดของตัวแทน ได้แค่ผลตอบแทนในส่วนของตนเองเท่านั้น

พร้อมบอกว่าตนเองไม่ได้เป็นทั้งพรีเซนเตอร์ ไม่ได้เป็นหุ้นส่วนบริษัทแม้แต่หุ้นเดียว ทั้งบริษัทมีคนถือหุ้นแค่คนเดียว ตนเองไม่มีสิทธิ์ในการกำหนดทิศทางบริษัท ซึ่งรายได้ของตนเองก็มาจากยอดขายของสินค้าที่ตนเองมีหน้าที่ดูแลเท่านั้น ไม่ได้มีรายได้จากการปิดยอดดีลเลอร์ พร้อมยืนยันว่ารายได้ไม่ได้เยอะจนร่ำรวยขนาดนั้น เพราะก่อนที่จะมาอยู่กับดิไอคอน ตนเองมีรายได้เยอะกว่านี้อีก

ถามว่าได้มีโอกาสคุยกับ ‘มิน พิชญา’ หรือ ‘กันต์ กันตถาวร’ บ้างไหม? แซมกล่าวว่า เพิ่งได้คุยกับมิน เขาก็ตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น หนูโดนด่าไปถึงตระกูลแล้ว และแซมยังบอกทิ้งท้ายว่า ที่ออกมาพูด ก็เพราะไม่อยากตกเป็นจำเลยสังคม อยากออกมาพูดเพื่อให้ข้อมูลกับทุกคน แต่คงไม่สามารถพูดแทนบริษัทได้ เพราะตนเองก็ไม่ได้รู้ทุกเรื่อง และหากมีเจ้าหน้าที่เรียกไปให้ข้อมูลก็พร้อมให้ความร่วมมือ และต่อพูดกี่ครั้ง ข้อมูลก็จะเป็นแบบนี้ เพราะเรื่องมันเป็นแบบนี้ และขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานงานจากทางตำรวจแต่อย่างใด



แท็กที่เกี่ยวข้อง  แซม ยุรนันท์ ,ธุรกิจขายตรง

คุณอาจสนใจ

Related News