บันเทิง
'เบนซ์-มิค' แถลงหลัง อย.ตรวจพบสารไซบูทรามีน ในผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก ยันเป็นพรีเซนเตอร์ไม่ใช่เจ้าของ
โดย paweena_c
7 มิ.ย. 2567
308 views
“เบนซ์ พรชิตา - มิค บรมวุฒิ” ชี้แจงหลัง อย.ตรวจพบสารไซบูทรามีน ในผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก ยันเป็นแค่พรีเซนเตอร์ ไม่ใช่เจ้าของ
กรณีที่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ตรวจพบสารอันตราย ไซบูทรามีน (Sibutramine) ที่ส่งผลกระทบต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด ทำให้เกิดผลเสียร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิต จัดเป็นวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทในประเภท 1 ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข อยู่ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (ITCHA) ที่มีนักแสดงสาว ‘เบนซ์ พรชิตา’ เป็นพรีเซ็นเตอร์ ทาง อย. จึงประกาศเตือนให้ประชาชนระมัดระวังในการซื้อหรือบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดังกล่าว ทั้งนี้ อย. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อยู่ระหว่างดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำผิด
ซึ่งต่อมาทางแบรนด์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดังกล่าว ก็ได้ร่อนจดหมายชี้แจงว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ อย. ตรวจเจอไซบูทรามีนนั้นเป็นของปลอม และต่อมาก็รายงานเพิ่มว่า ทางพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ.ทำเรื่องสอบถามไปยังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) โดยทาง อย.ชี้ว่า ข้อความดังกล่าวเข้าข่ายโฆษณาเกินจริง ปคบ. จึงได้ออกหมายเรียก เบนซ์-มิค รับทราบข้อหาโฆษณาอาหารเสริมเกินจริง ในวันที่ 17 มิถุนายน นี้ด้วย
ล่าสุดเมื่อวานนี้ ‘เบนซ์ พรชิตา’ พรีเซ็นเตอร์แบรนด์ดังกล่าว พร้อมกับสามี ‘มิค บรมวุฒิ’ ก็ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวพร้อมกับ ‘ทนายเจมส์ นิติธร แก้วโต’ ถึงประเด็นร้อนที่เกิดขึ้น ชี้แจงว่าผลิตภัณฑ์ที่ อย. นำไปตรวจสอบเป็นของปลอม ยืนยันว่าตั้งแต่การผลิตล็อตที่ 1 ถึงปัจจุบันไม่ได้มีสารไซบูทรามีน ในสินค้า ตัวที่ อย. ตรวจ คือล็อตกล่องเดือนมกราคมที่หมดไปแล้ว แต่มีคนเอากล่องไปก็อป เลขเลยเป็นเลขล็อตแรก ซึ่งความเป็นจริงสินค้าไม่น่าเหลือมาถึงเดือนมีนาคม เพราะขายดีมาก ถ้าเป็นของแท้ ด้านบนจะมีเลขรันกันไป ด้านล่างมีโค้ดที่ให้รู้ว่าสินค้าปล่อยให้ตัวแทนคนไหน ของปลอม สังเกตง่ายๆ คือไม่มีลายเซ็นเบนซ์บนกล่อง ซึ่งตอนที่ไปแจ้งความเมื่อเดือนเมษายน หลังจากทางบริษัทเจอว่ามีของปลอม ก็รีบผลิตกล่องใหม่ที่มีลายเซ็นต์ของเบนซ์ ตัวแทนทุกคนที่มีกล่องแรกพอรู้ว่ามีของปลอม ทางบริษัทก็บอกให้ส่งกลับให้หมด และเปลี่ยนกล่องใหม่ส่งกลับไปให้
‘เบนซ์ - มิค’ บอกว่าตนเองอยู่ตรงนี้มาไม่เคยทำอะไรเสียหายอยู่แล้ว ซึ่งก่อนที่ ‘เบนซ์’ จะเซ็นสัญญาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ก็ได้ทดลองทานเอง 2 เดือน จนเห็นผล ก่อนที่จะเซ็นสัญญา หลังจากนั้น ‘มิค’ ก็เริ่มกินตาม ซึ่งบริษัทก็ยืนยันว่าสินค้าผ่าน อย. เรียบร้อยแล้ว และตนเองก็เป็นแค่พรีเซ็นเตอร์ไม่ได้เป็นเจ้าของ
‘มิค’ บอกว่า สินค้าตัวนี้ขายมา 7 ปีแล้ว เบนซ์เป็นพรีเซ็นเตอร์คนที่ 3 ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย แต่ก็ต้องขอบคุณ อย. และพี่อัจฉริยะ เพราะอย่างน้อยก็ทำให้ได้รู้ว่ามันมีของปลอมอยู่ในตลาดจริงๆ ส่วนเรื่องที่ถูก ปคบ. ออกหมายเรียก เบนซ์-มิค ให้ไปรับทราบข้อหาโฆษณาอาหารเสริมเกินจริงนั้น ‘มิค’ ก็บอกว่า ยังไม่มีจดหมายมาถึงบ้าน แต่ถ้ามีหมายเรียกมาก็พร้อมไป ยินดีให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่
ซึ่งรายละเอียดในการแถลงข่าวทั้งหมดมีดังนี้
ทนายเจมส์ : “ในส่วนนี้ขอชี้แจงก่อนว่า ในส่วนที่ อย. ออกมาประกาศ ถ้าดูจากภาพกล่องจะมี 2 ส่วน ภาพแรกจะมีกล่องที่มีลายเซ็นของคุณเบนซ์อยู่ อันนั้นไม่ใช่กล่องผลิตภัณฑ์ เป็นภาพกราฟฟิก ไม่รู้ว่าทางเพจ อย. เอามาจากไหน เป็นกล่องกราฟฟิกที่เพิ่งออกเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่กล่องที่เชื่อว่ากล่องที่ อย. ตรวจเจอคืออีกกล่องหนึ่ง อีกภาพนึง เป็นภาพกล่องจริงๆ ที่มีด้านหลัง เป็นล็อตผลิต 10 มกราคมที่ผ่านมา อย่างที่ทราบกันดีเพจของบริษัท ตัวบริษัท หรือแม้แต่คุณเบนซ์เอง ก็เตือนตัวแทนและผู้บริโภคมาโดยตลอดว่า “มีของปลอมนะ” ลงทุนซื้อของปลอมมาเปรียบเทียบให้ดูด้วยซ้ำว่า ของจริงเป็นยังไง ของปลอมเป็นยังไง
แต่พอ อย. เอาภาพ 2 ภาพ มาเปรียบเทียบ ภาพนึงคือของจริง อีกภาพนึงคือของปลอม เรายื่นยันว่าตั้งแต่การผลิตล็อตที่ 1 ถึงปัจจุบันนี้ “ไม่ได้มีสารไซบูทรามีน” ในสินค้าจริง แต่สินค้าปลอมไม่รู้ว่ามีหรือไม่มี เพราะไม่ได้ไปเห็นของเขา แต่ อย. ออกมาบอกขนาดนั้นก็น่าจะมี สาเหตุที่ต้องเอามาใช้ เพราะของปลอมต้องการให้มีผลลัพธ์ใกล้เคียงกับของจริง แต่ต้นทุนการผลิตต่างกันเยอะ ราคาที่ขาย 690 บาท/กล่อง ตามตลาดออนไลน์ของอยู่ที่ร้อยกว่าบาท”
มั่นใจว่าที่ อย. เอาไปตรวจคือของปลอม?
ทนายเจมส์ : “ถูกครับ คือว่า “พี่อัจฉริยะ” มาให้ข้อมูลก็ต้องขอบคุณ และขอบคุณ อย. ด้วย ที่ช่วยออกมาชี้แจงเรื่องนี้ เพราะปัจจุบันร้านของปลอมปิดไปเกือบหมดแล้ว สินค้าที่พี่อัจเอาไปไม่รู้ว่าซื้อมาช่วงเดือนไหน แต่เชื่อเป็นล็อต 10 มกราคม ที่เขาบอกว่าโอนเงินเข้าบริษัท คือสลิปต์โอนเข้าบริษัทจริง แต่บริษัทอะไร ไม่ใช่บริษัททางนี้ และแม้จะไม่ใช่บริษัท แต่ก็สามารถโอนได้ถ้าเป็นตัวแทนจริงๆ ณ วันนี้เพจมี 2 แบบ 1.เพจมิจฉาชีพ โอนเงินไม่ได้ของ 2. โอนเงินไปแล้วได้ของมา สังเกตง่ายๆ ราคาจะถูกกว่าราคาขายปกติ แล้วสินค้าจะกรีดเลขนัมเบอร์ กรีดด้านบนและด้านล่างออก เพราะมันคือเลขล็อตการผลิต ซื้อไปกล่องเดียวแล้วก็อปปี้ หมื่นกล่องจะมีเลขรันเดียวกันหมด ถ้าของแท้ไม่ใช่แบบนั้น ของแท้ ด้านบนจะมีเลขรันกันไป ด้านล่างมีโค้ดที่ให้รู้ว่าสินค้าปล่อยให้ตัวแทนคนไหน สายไหน ของปลอม สังเกตง่ายๆ ไม่มีลายเซ็นเบนซ์บนกล่อง ผมถึงบอกว่าภาพแรกที่ อย. เอาไปขึ้นมีลายเซ็น นั่นคือภาพกราฟฟิก ไม่ใช่ตัวกล่องจริงๆ ไม่รู้ว่าไปเอามาจากไหน พอรู้มีสินค้าปลอมในตลาดก็รีบประกาศและแจ้งความ แต่ไม่ได้บอกสื่อ เพราะไม่ได้ต้องการจับตัวยิบย่อย ทำเงียบๆ ต้องการจับตัวใหญ่ที่ผลิตสินค้า วันนี้หลักฐานการแจ้งความมาด้วย แล้วรายการที่ไปออกมามีเอาของจริงไปตรวจ ผลออกมาเดือนเมษายน “ไม่พบไซบูทรามีน” มีเอกสารมาเช่นกัน
โดนหมายเรียก?
มิค : “เราเพิ่งมาจากบ้าน ยังไม่มีจดหมายมาถึงบ้าน กลายเป็นว่าข่าวมาก่อนที่ตัวเองจะรู้ ยังไม่ได้รับการประสานมา ถ้ามีหมายเรียกมาก็พร้อมไป ยินดีให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่”
ทนายเจมส์ : “ต้องดูว่าหมายเรียกไปในฐานะพยาน หรือผู้ต้องหาในคดีอาญา ถ้าเรียกไปเป็นพยาน พร้อมให้ข้อมูลอยู่แล้ว เพราะยอากจับคนที่ปลอมของอยู่ที่ไหน ตอนที่รู้ว่ามีของปลอมไปแจ้งความมา 2 ครั้ง เมื่อเดือนเมษายนและพฤษภาคม ไม่แน่ใจว่ามีการล่อซื้อมา 2 ครั้งหรือเปล่า”
มิค : “มิคขอเสริมนิดนึง ตอนแรกกล่องจะไม่มีลายเซ็นเบนซ์ ที่ไปแจ้งความเดือนเมษายนทางบริษัทเจอแล้วว่ามีของปลอม แล้วก็รีบผลิตกล่องใหม่ที่มีลายเซ็น ตัวแทนทุกคนที่มีกล่องแรกพอรู้ว่ามีของปลอม ทางบริษัทก็บอกให้ส่งกลับให้หมด และเปลี่ยนกล่องใหม่ส่งกลับไปให้ ผมกับเบนซ์เน้นกับทางบริษัทว่าห้ามทำอะไรผิดนะ เราอยู่ตรงนี้มานานไม่เคยมีข่าวเสียหาย บริษัทเลยรีบแจ้งว่าแจ้งความและเปลี่ยนกล่อง ล็อตแรกผลิตประมาณหมื่นกว่ากล่อง (ล็อตมกราคม) ช่วงนั้นถ้ากลับไปดูข่าว หรือจะมีรีวิวรอของนานจัง ได้ผลตอบรับดีเกินคาด ผลิตไม่ทัน
เหตุผลที่ทำแผงเป็นตัว S เพื่อให้ปลอมยาก จากนั้น 1-2 เดือน ยอดขายก็ค่อยๆ ลดลง บริษัทเริ่มสงสัยว่าทำไมยอดขายเริ่มลง แต่ทุกคนบอกกินเยอะขึ้น ช่วงมีนาคมถึงได้เริ่มสืบว่ามีของปลอมมาปนในตลาดหรือเปล่า บริษัทก็เลยมาให้มีลายเซ็นเบนซ์บนกล่อง เพื่อให้พูดได้เต็มปากว่า ต่อไปนี้กล่องที่มีลายเซ็นเท่านั้นถึงจะเป็นของแท้ ช่วงเดือนเมษายน ตัวที่ อย. ตรวจ คือล็อตกล่องมกราคมที่หมด แต่มีคนเอากล่องไปก็อป เลขเลยเป็นเลขล็อตแรก ซึ่งของไม่น่าเหลือมาถึงเดือนมีนาคม ตัวแทนยังบอกเลยว่าทำไมเอาของไปติดตระกร้าติ๊กต็อกเราก่อน แต่ตัวแทนไม่มีของขาย เราก็ผลิตเรื่อย ๆ เพราะวันนึงผลิตได้ไม่เยอะเท่าไหร่ ด้วยความยากของตัวฟรอย
ตอนที่ “อัจริยะ” ไปยื่นครั้งแรก?
มิค : “ตอนนั้นยังไม่มีเอกสารมาทางเรา ผ่านไปสักพักก็มีเอกสารมาทางเรา ที่ว่าพูดเกินจริง เราให้บริษัทไปจัดการ เหมือนที่เราเน้นย้ำเสมอว่า “เราเป็นพรีเซ็นเตอร์ ไม่ใช่เจ้าของ” พอมีเอกสารมาให้ชี้แจง ทางบริษัทก็ไปชี้แจงว่าเพจเฟซบุ๊กนั้นๆ ที่ให้ลบเพราะเกินจริงเป็นตัวแทน เราไม่มีเพจของเรา ในโซเชียลคือเพจตัวแทนทั้งหมด บริษัทก็เข้าไปจัดการ ทางบริษัทไม่มีเพจตัวเอง เพราะบริษัทไม่ได้ขายของ เราถึงพูดเสมอว่าถ้าอยากได้ของจริงให้ขอดูข้อมูลจากบัตรตัวแทนก่อน เพราะถ้าเป็นตัวแทนปลอมจะไม่ขึ้นข้อมูลของบริษัท แต่ก็มีตัวแทนไปปล่อยต่อก็มี มีเป็นร้อย ๆ เพจที่เขียนว่าเป็นเพจหลัก จริง ๆ ไม่มี ส่วนสินค้าก่อนที่จะผลิตออกมาอีก บริษัทก็บอกว่าผ่าน อย. เรียบร้อยแล้ว เอาเอกสารมาโชว์หมดเลย
ทุกคนรู้ว่าเราสองคนอยู่ตรงนี้มาไม่เคยทำอะไรที่เสียหายอยู่แล้ว และจะระวังมาก ซึ่งก่อนเป็นพรีเซ็นเตอร์ เจ้าของติดต่อเบนซ์มา ซึ่งเบนซ์เสนอเองว่าจะทำให้ลดได้ 10 กิโล ซึ่งทำได้ เราเน้นย้ำเสมอว่าเบนซ์เลือกอาหารนะ ถึงไม่มีเวลาออกกำลังกาย แต่เลี้ยงลูกทั้งวันก็เหมือนออกกำลังกายอยู่แล้ว ก็ทำได้ใน 2 เดือน ถึงเซ็นสัญญาพรีเซ็นเตอร์ มีการลดลองจนเห็นผลก่อนมาบอกต่อ แล้วมิคถึงกินตาม ซึ่งจริงๆ สินค้าตัวนี้ขายมา 7 ปีแล้ว เบนซ์เป็นพรีเซ็นเตอร์คนที่ 3 ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย แต่พอเปลี่ยนมาเป็นเบนซ์ ผมว่ามันว้าวตรงที่คนเห็นเบนซ์ในรายการสดตลอดเวลา หุ่นเปลี่ยนไปจากสมัยก่อน อยู่ดีๆ วันนึงเปิดตัวมาว้าวตรงนั้น”
ทนายเจมส์ : “ผมขอให้ความรู้นิดนึงนะครับ ทำไมโรงงานถึงใช้สารไซบูทรามีน อาจจะเป็นที่ต้องการลดต้นทุนการผลิต ซึ่งมันผิดกฎหมาย ถ้าสินค้านี้มีสารไซบูทรามีนจริงๆ โรงงานโดนจับตั้งแต่แรกแล้ว เพราะ อย. ต้องตรวจสอบโรงงานทุกเดือนอยู่แล้ว สินค้าที่ผลิตโรงงานจะเก็บตัวอย่างไว้ ถ้าโรงงานโดนจับ เบนซ์-มิค ไม่เหลือครับ แต่ ณ วันนี้โรงงานไม่ได้ใส่ ผลิตภัณฑ์ที่ขายอยู่ก็ไม่มีหรอกครับ แต่ที่มีเพราะของปลอม พยายามทำสินค้าเทียบเคียงกับของจริง แต่ต้นทุนไม่ได้ เลยต้องเลือกสารตัวนี้”
“เบนซ์” พอเกิดเรื่อง กระทบชื่อเสียง?
เบนซ์ : “จริงๆ ไม่อยากพูดอะไรเลย เราทำหน้าที่เป็นพรีเซ็นเตอร์แค่นั้นเลยค่ะ หน้าที่ของเรา กิน เห็นผล บอกต่อ ส่วนที่เหลือไม่รู้เลย หนูก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงเหมือนกัน เราก็อยู่ตรงนี้มานาน เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับหลายๆ สินค้า ไม่เคยมีปัญหา อันนี้เบนซ์สงสารคนกินของปลอม ไม่รู้ว่านอกสารนี้แล้วใส่อะไรให้กิน ถ้าเป็นเบนซ์จะไม่สบายใจนะ มันคือชีวิตคนอื่น พอพูดก็รู้สึกแย่ การที่ทำให้คนเชื่อใจเราที่จะซื้อของมันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าเกิดมันเป็นแบบนี้ มันกลายเป็นว่าสิ่งที่เราขายออกไป หรือที่เราเป็นพรีเซ็นเตอร์ มันเป็นของที่หลอกคนอื่น ไม่สบายใจ ถ้าคนกินเป็นอะไรเราไม่โอเค คือผลกระทบของเบนซ์มีแน่นอน อย่างน้อยคนที่เชื่อใจเรา ส่วนรายละเอียดของสินค้า หรือเพจอื่นๆ เบนซ์ไม่รู้เรื่อง อาจจะต้องให้ทางบริษัทพูด แต่ในส่วนของเรารู้สึกเสียใจ แต่ก็ต้องขอบคุณ อย. และพี่อัจฉริยะ เพราะอย่างน้อยได้รู้ว่ามันมีของปลอมอยู่ในตลาดจริงๆ”
มิค : “อย่างเรื่องกล่อง บริษัทรู้ว่ามีของปลอมก็เอาลายเซ็นมาใส่ เราก็เริ่มบอกทุกคนว่าระวังนะมีของปลอม ถ่ายคลิปเทแคปซูลให้ดูเลยว่า “ของจริงผงสีขาว” ส่วน “ของปลอมผงสีน้ำตาล” ถ้าจำไม่ผิดผงที่ อย. เขียนมาจะเป็นผงสีน้ำตาล เราอยากจะพูดขอบคุณ อย. และพี่อัจริยะ ทำให้ทุกคนจะระวังมากขึ้นต่อจากนี้”
เรื่องความคืบหน้าตัวการที่ทำปลอม?
ทนายเจมส์ : “มีความคืบหน้าครับ แต่ยังไม่สามารถแจ้งได้ เพราะถ้าบอกไปคนร้ายก็หนีหมดสิครับ”
มิค : “วันนี้เท่าที่คุยกับพี่เจมส์ เพจที่ขายของปลอมปิดไปเป็นร้อย ๆ เพจเลยวันนี้ เพราะเขารู้ว่าเรารู้แล้วว่ามีของปลอม เราไม่เคยนิ่งนอนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น รอบแรกคือการเติมลายเซ็น รอบหลังคือเปลี่ยนกล่อง เปลี่ยนชื่อเลย เป็นชื่อ อิชช่า ทริปเปิ้ลเอส แทน จะเป็น XXX 3 ตัว ไม่ใช่ XS เหมือนที่ทุกคนเห็นแล้ว เพิ่มสารสกัดเข้าไป แต่ตอนนี้ตัวที่มีลายเซ็นก็ไม่มีแล้วนะครับ เพราะบริษัทเรียกกลับหมดแล้ว เพราะมีตัวใหม่คือ ทริปเปิ้ลเอส เพื่อให้หนีจากความปลอมของที่คนพยายามจะก๊อป แต่สรรพคุณของตัวลายเซ็นยังดีอยู่ แต่เรียกกลับหมด เพื่อทำทุกวิถีทางเพื่อให้เขาปลอมยากขึ้น แล้วค่อยกลับมาขาย ดังนั้นตอนนี้กล่องที่มีลายเซ็นที่ยังขายอยู่ก็ปลอมแล้ว เพราะเขาเรียกกลับหมด ให้ตัวแทนทุกคนเปลี่ยนเป็นตัวใหม่แล้ว“
เบนซ์ : ”ตอนนี้ทางบริษัทฯ เขาเป็นห่วงมากๆ เลยสำหรับคนที่ซื้อไปแล้วโดนของปลอม จะบอกว่าตอนนี้ทุกกล่องที่ออกไปจากบริษัทกลับมาแล้วนะ ถ้าคุณยังเจอกล่องแบบนี้ หรือว่า อิชช่า เอ็กซ์เอส ในตลาด แปลว่านั่นคือของปลอมทั้งหมด“
มิค : ”ซึ่งต่อจากนี้บริษัทฯ ก็จะมีมาตรการที่จะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เพื่อให้ปลอมไม่ทัน เราก็จะหาวิธีทำให้มันปลอมยากขึ้นเรื่อย ๆ ครับ“
สินค้าที่เรียกกลับคืนมาล็อตแรกกี่กล่อง?
มิค : “เป็นหมื่นๆ กล่องครับ ก็ต้องขอบคุณเจ้าของเขาที่เข้าใจความเป็นเราสองคนที่ขอไม่เสี่ยงเลย เขาก็บอกว่าถ้าคุณมิคคุณเบนซ์ตัดสินใจอย่างนั้นก็ดึงกลับเดี๋ยวนี้เลย ค่าใช้จ่ายผมออกเอง”
ในส่วนของลูกค้าที่ซื้อไปแล้วล่ะ?
เบนซ์ : “ซื้อไปแล้วไม่มีปัญหาค่ะ”
มิค : “ไม่มีปัญหาสิ เพราะถ้าเขาซื้อจากเพจหลัก เพราะเวลาที่เขาซื้อจากติ๊กต็อกมิคกับเบนซ์ นั่นคือบริษัทเป็นคนส่งให้“
เบนซ์ : “แต่ถ้าคิดว่าปลอม แกะดูเลยค่ะ ถ้าเป็นสีน้ำตาลก็อย่าไปกินนะ”
ทนายเจมส์ : “บางครั้งก็จะมีบางคนที่อาศัยช่วงที่ของไม่มีจะแอบสอดแทรกบ้าง ซึ่งเรามีมาตรการที่จะจัดการกับตัวแทนเหล่านี้อยู่ ไม่ต้องห่วงเลยครับ ใครถ้าไปซื้อจากตัวแทนคนไหนแล้วสงสัยว่าปลอม แจ้งมาที่บริษัทฯ ครับ เราจะเชือดให้ดูเลย”
มิค : “เวลาไลฟ์สดเราจะบอกเสมอว่าช่วยกรุณาซื้อกับติ๊กต็อกมิคกับเบนซ์ หรือเมื่อคุณไปซื้อจากตัวแทน ช่วยขอดูบัตรตัวแทน แล้วสแกนคิวอาร์โค้ดเหมือนที่เราบอก มันจะไปขึ้นที่ฐาน ข้อมูลของบริษัทฯ ของถูกมันไม่มีในโลกจริงๆ มีหลายคนที่คุยกับเราในไลฟ์บอกว่าเจอแม่ค้ามาขาย 200 เชื่อเถอะครับไม่ใช่ของจริง เราบอกว่าทิ้งเลยครับ”
งงมั้ยทำไมต้องเป็นเรา?
มิค : “งงมากครับ (หัวเราะ) เหตุผลที่วันนี้ไม่ค่อยให้เบนซ์พูด เพราะผมรู้ว่าถ้าพูดเยอะเขาร้องไห้แล้ว เพราะตอนนี้อยู่บ้านเรียกว่าสภาพจิตค่อนข้างแย่ เงียบจนลูกไม่ค่อยสนุกเวลาอยู่ใกล้แม่แล้วนะ ผมก็เลยบอกว่าวันนี้มิคพูดให้เองแล้วกัน คือผมสงสัยตั้งแต่แรก ตั้งแต่เบนซ์โดนเรื่องตัดกระเพาะเอย ไปคลินิกเอย กลายเป็นเราโดน 4 รอบ แต่ในตลาดก็มีตั้งหลายแบรนด์ (ยิ้ม) ก็มีสงสัยบ้างครับ เขาคงเห็นว่าเบนซ์แตกต่างจริงๆ มั้ง เพราะคนอื่นอาจจะหุ่นดีอยู่แล้วหรือเปล่ามิคไม่ทราบ แต่ก็สงสัย”
ในพาร์ทของมิค-เบนซ์จะดำเนินการทางกฎหมายมั้ยที่ว่าเราไปเข้าคลินิค?
มิค : “ไม่ครับ เราไม่ชอบทะเลาะกับใคร (หัวเราะ)”
ทนายเจมส์ : “ต้องบอกว่าต้องขอบคุณพี่เขาซะด้วยซ้ำ เพราะเขาคือตัวแทนประชาชนที่สงสัย และเราก็คลายสงสัยให้ด้วย ในทางกลับกันยิ่งทำให้สินค้าขายดีขึ้นด้วยซ้ำ”
คิดว่ามีบริษัทคู่แข่งทำปลอมขึ้นมาบ้างมั้ย?
มิค : “ไม่เคยคิดถึงขั้นนั้นเลยครับ แต่นี่เป็นข้อมูลครั้งแรก ก็อาจจะต้องมานั่งคิดบ้าง (หัวเราะ) ก็เป็นไปได้ครับ”
ใครเป็นเจ้าของที่แท้จริงกันแน่?
มิค : “เราไม่ใช่เจ้าของจริงๆ ผมว่าถ้าถึงจุด ๆ นึงเดี๋ยวเจ้าของเขาน่าจะออกมาพูดนะครับ แต่ตอนนี้เรามีระดับพี่เจมส์มาแล้ว (ยิ้ม) พี่เจมส์ก็เป็นกระบอกเสียงให้ แต่เราก็ยังยืนยันว่าเราไม่ใช่เจ้าของ และมิคของให้เครดิตเจ้าของคือเขาทำตามที่เราขอทุกครั้งจริงๆ เขาเป็นห่วงเราที่จะไม่ให้เราเสียชื่อ“
ไม่ถอดใจกับการเป็นพรีเซ็นเตอร์ใช่ไหม?
เบนซ์ : “สงสารเจ้าของ (ยิ้ม) แค่รู้สึกว่าทำไมเหมือนเขาโดนแกล้ง ก็เข้าใจว่าถ้ามันขายดีก็อาจจะมีคนไม่ชอบ แต่เราก็ไม่ได้โทษว่าใครทำ แค่รู้สึกว่าบางทีก็สงสารเขา ทำไมเขาโดนอยู่ยี่ห้อเดียวเลย ทำไมยี่ห้ออื่นเขาไม่โดน (หัวเราะ) เอาจริงๆ บริษัทฯ เขาไม่เกี่ยวนะ”
ถ้าบริษัทไม่ออกมาชี้แจงเอง เบนซ์ก็จะโดนกล่าวหาเรื่อยๆ เพราะเขียนว่า by เบนซ์ พรชิตา?
เบนซ์ : “ส่วนใหญ่ในทุกเพจที่ขายจะเขียนว่า อิชช่า by เบนซ์ หมดเลยเยอะมาก”
มิค : “แล้วเรื่องที่บอกว่าเบนซ์ลง 15 โล เบนซ์ไม่เคยพูดนะครับ เบนซ์พูดเสมอว่า 2 เดือนเบนซ์ทำได้ 10 กิโล ผ่านมาอีก 3 เดือนถึงลงรวมทั้งหมด 5 เดือน 13 กิโล แต่เป็นเพจของตัวแทนที่ไปทำกราฟฟิกขึ้นเองว่า 2 เดือน 15 โล ซึ่งไม่ใช่”
ทนายเจมส์ : “อันนี้อย.ก็จัดการแล้ว ต้องไปหาว่าใครคือผู้ควบคุมเพจที่แท้จริง”
หลังจากนี้มั่นใจในพยานหลักฐานที่จะไปยื่นกับอย. ไหม?
ทนายเจมส์ : “อันนี้บริษัทฯ ชี้แจงไปแล้วครับ แต่ที่จะมีหนังสือไปน่าจะเป็นตำรวจปคบ. (กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค) ที่ไปให้ข้อมูล ซึ่งผมยังไม่เห็นหมาย ก็เลยไม่รู้ว่าเขาเรียกไปในฐานะพยานหรือผู้ต้องหา ซึ่งมันต่างกันอยู่ คือเรื่องการโฆษณาเกินจริง อันนี้อย.เขามีหนังสือมาแล้วให้เราชี้แจง เราก็ชี้แจงไปแล้วว่าเราไม่ใช่ผู้ควบคุมเพจ เราไปปิดไปลบเราไปทำอะไรไม่ได้ อย.ก็จะมีหนังสือมาฉบับที่ 2 ว่าให้ไปเสียค่าปรับแค่นั้นเองถ้าเป็นของเรานะ แต่ถ้าเกิดไม่ใช่ของเรา อย.ก็ต้องไปหาว่าตัวจริงคือใคร อีกอย่างคือเรื่องที่มีไซบูทรามีนผสมอยู่ อันนี้ใครเป็นคนขาย คนนั้นต้องรับผิดชอบครับ แต่บริษัทฯ เราไม่ได้ขายไง ที่บอกว่ามีหลักฐานการโอนเข้าบริษัทฯ ลองดูก่อนว่าชื่อบริษัทฯ อะไร เป็นบริษัทฯ ผู้จัดจำหน่ายหรือเปล่า บริษัทฯ ในกล่องจะมีอยู่ 2 อย่างคือ บริษัทฯ ผู้ผลิตกับบริษัทฯ ผู้จัดจำหน่าย คนที่รับเงินไม่ใช่บริษัทฯ เรา แต่เป็นบริษัทฯ ไหนก็ไม่รู้“
เพราะทางบริษัทฯ เองก็ไม่ได้ระบุว่าบริษัทฯ ไหน เลยเป็นการโยนภาระมาที่เบนซ์หรือเปล่า?
เบนซ์ : “ไม่รู้จะตอบยังไงเลย แต่ทุกคนก็เข้าใจว่าเป็นของหนู”
ทนายเจมส์วันนี้มาในฐานะทนายของบริษัทฯ หรือทนายของมิค-เบนซ์?
ทนายเจมส์ : “ของบริษัทฯ ผู้จัดจำหน่ายครับ”
กลายเป็นว่าตอนนี้เป็นมิค-เบนซ์ที่ออกมาชี้แจงแทนเจ้าของบริษัทฯ ตกลงแล้ว 2 คนเป็นในขั้นตอนไหน?
เบนซ์ : “พรีเซ็นเตอร์ค่ะ”
มิค : “พรีเซ็นเตอร์ล้วน ๆ ไม่มีหุ้น ไม่มีอะไรทั้งสิ้นครับ”
เบนซ์ : “สัญญาพรีเซ็นเตอร์มีหมดค่ะ”
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ เหมือนจะสั่งให้หยุดการขายทุกแพลตฟอร์ม?
เบนซ์ : “อันนี้เราไม่รู้ค่ะ เราเป็นพรีเซ็นเตอร์ เราไม่รู้”
ทนายเจมส์ : “อาจจะต้องชี้แจงครับ ว่ามันมีสินค้าปลอมอยู่ และเราไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาส่งตรวจแล้วไปเจอนั้นเป็นสินค้าจริงหรือสินค้าปลอม ณ วันนี้ถึงบอกว่าเรามีหลักฐานยืนยันอยู่ ว่าที่เราเอาไปขายในรายการ แล้วรายการแอบเอาไปตรวจ มันไม่มี เขาถึงกล้าให้ขายในรายการเขา”
เมื่อเช้า อัจฉริยะ ออกมาบอกว่าจะดำเนินการแจ้งความเอาผิดทั้งเครือข่าย?
ทนายเจมส์ : “มันเป็นแพตเทิร์นครับ คือเวลาผลิตสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ เขาต้องไปจับโรงงานก่อน เพื่อที่จะยึดสินค้า ยึดสารเคมีต่างๆ ที่ผิดกฎหมายเอามาตรวจสอบ โรงงานก็จะโดนเบอร์หนึ่ง คนที่สองที่โดนคือผู้จัดจำหน่าย อาจจะถึงตัวแทนด้วยหรือเปล่าไม่รู้ มันเป็นแพตเทิร์นอยู่แล้วครับ ถ้าผิดก็ต้องผิดตั้งแต่ต้นทางครับ สมมติโรงงานผลิตมาถูกต้องทุกอย่าง เบนซ์กับมิคจะเอาสารที่ไม่ถูกต้องไปใส่ตอนไหน”
เบนซ์ : “ในมุมของเบนซ์นะ เบนซ์เป็นพรีเซ็นเตอร์ เบนซ์ไม่มีวันรู้เลยว่าเขาใส่อะไรในนี้บ้าง และเบนซ์ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเขาใส่หรือไม่ใส่ ไม่รู้เลย ไม่ได้ไปยืนเฝ้า และไม่รู้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง เราเป็นแค่ผู้บอกต่อเฉยๆ ถ้าถามว่าเขาใส่มั้ย เขาทำอะไร ผลิตกี่ล็อต ขายกี่กล่อง ในหน้าที่ของพรีเซ็นเตอร์คือไม่รู้เรื่องเลย อาจจะต้องถามเจ้าของเขาจริงๆ”
ตอนนี้ยืนยันว่าไม่มีผลิตภัณฑ์จำหน่ายแล้วใช่ไหม?
เบนซ์ : “อันเก่าเอากลับมาหมดแล้ว ถ้าเป็นตัว เอ็กซ์เอส ของจริงที่เอาไปจากบริษัทฯ ทางบริษัทฯ เขาจะส่งไปให้เฉพาะตัวแทนที่เขาขายเท่านั้น และเรียกกลับมาหมดแล้ว แต่ถ้ายังเจอตัวนี้อยู่ในตลาด คือปลอมทั้งหมดนะคะ อันนี้คือไม่ขายแล้วสำหรับตอนนี้นะ ไม่มีแน่นอนค่ะ”