‘เจมส์ เรืองศักดิ์’ เล่านาทีระทึก เครื่องบินฝ่าพายุฝนที่ดูไบ เผยข่าวดีแพนิกหายแบบ 100%

‘เจมส์ เรืองศักดิ์’ เล่าเหตุการณ์เครื่องบินฝ่าพายุฝนขึ้นน่านฟ้าที่สนามบินดูไบกลับไทย พร้อมเผยข่าวดีทำให้รู้ตัวว่าหายแพนิคจากอุบัติเหตุเครื่องบินตกเมื่อปี 2541 แบบ 100% แล้ว

สถานการณ์น้ำท่วมที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นอกจากจะมีคนไทยอย่าง ‘หนิง ปณิตา’ ที่พาครอบครัวไปเที่ยวช่วงสงกรานต์จนกลายเป็นหนึ่งในผู้ประสบภัยแล้ว

ก็ยังมีครอบครัวของ เจมส์ เรืองศักดิ์ ที่ได้พาครอบครัวไปเที่ยวยุโรป ก็เกือบจะกลายเป็นผู้ประสบภัยอยู่ที่สนามบินดูไบด้วยเช่นกัน เนื่องจากขากลับจากทริปยุโรปเมื่อวันที่ 16 เมษายน ครอบครัวของ เจมส์ ต้องมาต่อเครื่องที่ดูไบ แต่ต้องเจอกับพายุฝนที่ตกลงมาหนักและไม่มีทีท่าว่าจะหยุด จนไฟท์บินต้องประกาศดีเลย์  และหลังจากได้ขึ้นมาบนเครื่องแล้ว กัปตันก็บอกว่ายังไม่สามารถนำเครื่องขึ้นบินได้ จนผ่านไปประมาณชั่วโมงกว่าๆ เครื่องถึงจะสามารถขึ้นบินได้ แต่ก็ต้องฝ่าน้ำท่วมรันเวย์บินขึ้นไป

ซึ่ง เจมส์ บอกว่า ลูก เมีย พ่อแม่ ชิลกันมาก หลับปุ๋ย ผิดกับตัวเองที่นอนไม่หลับ และบอกว่า “คงไม่ต้องอธิบายนะว่าทำไม” (เพราะเจมส์ เป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์เครื่องบินตกที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อปี 2541 ที่มีผู้เสียชีวิต 101 คน) แต่ เจมส์ ก็บอกว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้รู้ตัวว่า ตนเองได้หายจากอาการแพนิคจากอุบัติเหตุเครื่องบินแบบ 100% แล้ว โดย เจมส์ ได้โพสต์ภาพตนเองและครอบครัวบนเครื่องบิน พร้อมเขียนข้อความเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า

“หวุดหวิดติดที่สนามบินดูไบ!

ทีมเราบินกลับจากยุโรปมาต่อเครื่องที่นี่ วันที่16 เมย ฝนตกหนักมากที่สนามบินดูไบ ไฟลท์ประกาศดีเลย์ เนื่องจากทีมเราอยู่อาคารสนามบินจึงไม่รู้สึกอะไรมาก แต่ส่วนตัวผมสังเกต น้ำที่ไหลลงกระจกอาคารดูไม่มีวี่เเววจะหยุดสักที เเสดงว่าฝนเทหนัก

จังหวะเดินขึ้นเครื่องสังเกตตรงประตูขึ้นเครื่อง ฝนคงตกหนักมากจริงๆ ขอบของงวงช้างที่ให้คนเดิน น้ำไหลทะลักเปียกชุ่มฉ่ำกันบริเวณทางเดินเข้าเครื่องบิน พนักงานต้อนรับ ช่วยกันเช็ดน้ำกันอย่างทุลักทุเลเล็กน้อย

เมื่อเข้าไปนั่งในเครื่องเเล้ว ผ่านไปหลายนาทีเครื่องก็ยังไม่ออก กัปตันประกาศเสียงตามสายว่าฝนตกตกหนัก เครื่องบินบนฟ้าหลายลำยังต้องบินวนรอ ลำของเราจึงไม่สามารถนำเครื่องขึ้นได้ ลูกกับเมีย นอนกินขนมกันอย่างมีความสุขสบายใจเฉิบ ผมก็ไม่ได้อัพเดทอะไรให้ฟังมาก กลัวจะวิตกกัน

ผ่านไป ชม. กว่าๆ เครื่องถึงได้ออกบิน มองไปนอกหน้าต่างเห็นเลยว่า ลำที่ออกบินก่อนเรา เวลาเร่งเครื่องขึ้น มีน้ำบานตรงรันเวย์ ( ดูแล้วยังไม่มากครับ น่าจะยังอยู่ในมาตรฐานความปลอดภัยที่ทางสายการบินได้ประเมิณเเล้ว)

เครื่องขึ้นบนฟ้าได้ ลูกเมีย และคุณพ่อคุณแม่ชิวมากๆ นอนหลับกันปุ๋ย

แต่ผู้ไม่หลับคือนายเรืองศักดิ์ คงไม่ต้องอธิบายนะว่าทำไม…

ลำที่นั่งคือ Airbus A380-800 ลำยักษ์ใหญ่ 2ชั้น ลำใหญ่ขนาดนี้ยังรับรู้ได้ถึงความสะเทือนบนท้องฟ้า สัมผัสได้เลยว่าผ่านเมฆฝนที่ไม่ธรรมดาเเน่นอน และสั่นอยู่ค่อนข้างนาน เเรงบ้าง เบาบ้าง เป็นระยะ กินเวลาประมาณ 20-30นาที ให้ได้ตื่นเต้น (แต่ไม่รู้สึกอันตรายอะไรนะครับ ยังรู้สึกปลอดภัยดี) สักพักเมฆก็ค่อยๆ กลายเป็นฟ้าหลังฝน บินนิ่มไปจนถึงสุวรรณภูมิอย่างปลอดภัย

ลงเครื่องปั๊บ เห็นข่าวน้ำท่วมสนามบินดูไบ เห็นข่าวน้ำท่วมใหญ่ มีดาราติดเป็นผู้ประสบภัย เลยรู้สึกว่าทีมเราน่าจะเป็นไฟลท์ท้ายๆก่อนเกิดเหตุเลย หวุดหวิดจริงๆครับ ขอให้ทุกคนที่ประสบเหตุ จงมีแต่ความปลอดภัยนะครับ ดูไบเป็นที่ๆมีเทคโนโลยีทันสมัยมาก เชื่อว่าเรื่องแค่นึ้ เขาน่าจะเเก้เเป๊บเดียวจบ

หมายเหตุ เออ.. เพิ่งสังเกตตัวเอง นี่เราหายจากอาการแพนิคจากการเคยผ่านอุบัติเหตุเครื่องบิน เเบบ 100% แล้วหรือนี่ เยี่ยมมากเรืองศักดิ์”

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/r1Bo_bMDfC8