‘หนุ่ม กะลา’ ประกาศเลิกมือที่สาม ขอดูแลภรรยาและลูกต่อไป ‘จูน’ สบายใจขึ้น เดินหน้าฟ้อง 10 ล้าน

กลายเป็นประเด็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ กับเรื่องราวความสัมพันธ์ของ ‘หนุ่ม กะลา’ นักร้องชื่อดัง ที่ถูกจับตาว่ามีมือที่ 3 ทั้งที่มีภรรยาและลูกแล้ว เมื่อวานนี้ (21 มิ.ย.) รายการโหนกระแส ได้เชิญ ‘จูน เพ็ญชุลี’ ภรรยา และโฟนอิน ‘หนุ่ม กะลา’ พูดคุยในรายการ

หนุ่ม กะลา บอกว่า ตอนนี้ก็อ่วม ยับเละ ที่ตัดสินใจไลฟ์ เพราะเป็นนักร้องที่สื่อสารกับแฟนเพลง วันที่เราทำพลาด จึงอยากรีบบอกแฟนเพลง ก่อนอยากไลฟ์สด ตอนนั้นเราไม่เป็นตัวของตัวเอง ทำให้ประเด็นตกไปมาก จนพอไลฟ์จบ ก็รู้สึกไม่ดี

หนุ่ม กะลา ย้ำว่า ยอมรับความผิดทั้งหมด และทุกกรณีในโลกโซเชียล ทั้งครอบครัวที่ถูกทัวร์ลงและบุคคลที่สาม โดยขอยอมรับผิดเอง เพราะจุดเริ่มต้นมาจากตัวเอง ไม่อยากกระทบคนที่ 3 ไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้น แต่เป็นญาติพี่น้องหรือคนรู้จัก

เมื่อถามว่า สาวมือที่ 3 เคยโพสต์แซะจูนด้วย หนุ่ม บอกว่า ความจริงก็คุยตลอด แต่บางสถานการณ์ที่คนทะเลาะกัน บางทีการโพสต์อาจทำให้อีกฝ่ายเข้าใจผิด แต่ไม่อยากพูดเรื่องนี้มาก เดี๋ยวถูกหาว่าไปปกป้อง

สิ่งที่พลาดในการไลฟ์วันนั้นคือ ผมไม่ได้ขอโทษจูน ต้องขอโทษจูนตรงนี้ และทำไม่ดีกับจูนมากๆ น้อมรับผิด ส่วนเรื่องการหย่า พยายามอธิบายเท่านั้น เพราะมันมีข่าวว่าผมยื้อไว้ ซึ่งผมกับจูนต้องคุยกันหลังบ้าน ไม่ว่าจะสถานภาพอะไร ผมยืนยันจะดูแลจูนและลูกต่อไป

อยากขอโทษ จูน ลูก ครอบครัว ทุกฝ่าย และแฟนเพลงที่ทำให้ไม่สบายใจ ซึ่งตอนนี้มีบางงานขอยกเลิก ต้องรออัปเดตอีกครั้ง แต่การขอเลื่อนคิวงานเป็นเรื่องปกติ พอทราบเรื่องนี้ครั้งแรกก็ดาวน์มากว่า เอาแล้ว เริ่มแล้ว

เมื่อหนุ่ม กรรชัย ถามว่า กับผู้หญิงคนนั้น จะทำอย่างไรต่อ หนุ่ม กะลา กล่าวว่า ตอนนี้คิดว่าจะจบความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนนั้น อยากพูดเหมือนกัน เพราะที่บอกว่าจะหย่า ไม่ได้จะไปเริ่มต้นกับคนนั้น ซึ่งต้องให้เวลาจูน เพราะกระทำกับเขาเยอะ และต้องให้เวลากับจูนและลูกให้ผ่านเรื่องนี้

ยืนยันชัดเจนจะจบกับผู้หญิงคนนี้ แม้พี่หนุ่มจะบอกว่าเขาติดหนึบคุณเหมือนกัน แต่หนุ่ม กะลา บอกว่า แต่ผมไม่สามารถตอบแทนเขาได้ว่าจะยอมจบหรือไม่ แต่ถ้าอีกฝ่ายไม่ยอม ก็ตอบแทนไม่ได้ เพราะเขาต้องเจอแรงกดดันจากคนทั้งประเทศเหมือนกัน พร้อมขอโทษจากใจอีกครั้ง เรายอมรับว่าสังคมอาจมีการพิพากษาบ้าง

ทางด้านจูน ภรรยา หนุ่ม กะลา เปิดใจว่า รู้เรื่องนี้มานานแล้ว ประมาณเดือน ธ.ค.63 แรกๆ ไม่ปักใจว่าเป็นคนนี้ โดยมีคนส่งมาบอกก่อนว่าหนุ่มคบกับคนนี้ แต่เราไม่มีหลักฐาน จึงเริ่มสืบมาเรื่อยๆ พอแน่ใจเป็นคนนี้จึงไปหาในเฟซบุ๊กผู้หญิง เราก็ย้อนดูในเฟซบุ๊กของเขาก็เห็นหลายอย่างเช่น แปรงสีฟัน เขาโพสต์ในห้องน้ำมีแปรงสีฟันคู่ มีของใช้ คือสามีใช้แปรงสีฟันแบบนี้ที่บ้าน เคยถามสามีด้วยว่า แปรงสีฟันยี่ห้อนี้ซื้อทีไหน เพราะเราไม่เคยเห็นในร้านสะดวกซื้อและร้านอื่นๆ

จากนั้นเห็นภาพน้ำหอมต่างๆ เราก็รู้สึกว่า เอ๊ะ ทำไมช่างเหมาะเจาะกับช่วงนี้ที่สามีเราใช้น้ำหอมยี่ห้อนี่ แต่เราก็ไม่ได้มั่นใจ อาจคิดไปเองคิดมาก แต่ก็จะมีรูปที่ผู้หญิงโพสต์แล้วติดมือสามีเรา เราจำมือสามีเราได้

แล้วมาถึงคลิปที่เคยจับลูกใส่โบว์ขนาดใหญ่ ก่อนมาเห็นคลิปที่สาวคนนั้นเต้นคัฟเวอร์เพลง “รักควรมีสองคน” และมีอุ้มเด็กใส่โบว์ใหญ่เช่นกัน โดยโพสต์ใกล้ๆ กัน ทำให้คิดดีไม่ได้ ใน MV จริงไม่มีอุ้มเด็กนี่ แล้วเด็กใส่ชุดลุกไม้คาดโบว์ ซึ่งมันตรงกับลูกสาว อันนี้โกรธมาก เหมือนเราเพิ่งโพสต์รูปลูกไป แล้วคลิปนี้ก็มาเลย เราก็โกรธมาก ถ้าแซะเราไม่เท่าไร

จากนั้นผู้หญิงคนนี้ยังโพสต์แซะเราตลอดให้เลิกมาส่องมายุ่ง พร้อมกับเห็นภาพสามีและสาวคนนั้นโพสต์เหมือนอยู่สถานที่เดียวกันด้วย โดยสาวคนนั้นโพสต์ภาพที่ถือแก้ว แต่เห็นมือ จำได้คือมือของหนุ่ม กะลา จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเรานิ่งมาตลอดและมั่นใจ

จูน บอกอีกว่า ที่พีคสุดคือ ทริปญี่ปุ่น ช่วงแรกได้ถามหนุ่มเหมือนกันว่าผู้หญิงคนนี้คือใคร ตอนแรกก็ไม่ยอมรับ แต่ต่อมาพอหนักๆ ก็ยอมรับ ซึ่งเราพยายามประคับประคอง แต่ฝ่ายหญิงยังโพสต์อยู่ เธอไม่เคยทักผู้หญิงคนนั้น แต่อีกฝ่ายเคยโพสต์ว่าใครอยากติดต่อให้โทรมาเบอร์นี้ได้ เลยก่อนจะลบไป ถามว่าทำไมเราไม่คิดติดต่อไป เพราะไม่ใช่เราไม่เคยเจอเรื่องนี้ เนื่องจากก่อนแต่งงานคนของเราก็ไม่ธรรมดา แต่อยากจัดการคนของเราก่อน ไม่ใช่โทรไปอาละวาดกับคนที่สาม อันนี้คือ วิสัยของเรา ก็ถามไปว่าจะเลือกใคร หนุ่มก็บอกว่าจะไปจัดการเอง

ส่วนประเด็นคลิปคอนเสิร์ตเมื่อปี 2565 ที่มีการมอบเงินปีกนกมามอบให้ หนุ่ม กะลา ซึ่งผู้หญิงคนนี้เคยเป็นแฟนคลับมาก่อน โดยคอนเสิร์ตนี้เราก็ไป และทราบว่าคนที่มอบคือใคร ไม่คิดว่าจะมีซีนขนาดนี้ ตอนนั้นคุณจูนอยู่ในงาน แล้วอุ้มลูกอยู่ เธอบอกว่า ต้องรู้สึกยังไง มันเจ็บอยู่คนเดียว ซึ่งเราก็คุยและทะเลาะกัน เคลียร์กัน โดยหนุ่มอ้างว่าเป็นซีน ไม่ได้สร้างอะไร เป็นแค่แฟนคลับคนหนึ่งที่มอบให้ก็ดูว้าว

ส่วนวันนี้ เรื่องทุกอย่างถูกเปิดเผย ก็รู้สึกสบายใจมาก โล่งมาก และคิดว่าจบเสียที ไม่ต้องกล้ำกลืนฝืนทน เรื่องนี้ เพราะที่ผ่านมา พูดกับใครไม่ได้

กรณีที่สามีขอโทษคุณจูน มองว่า ช่วงแรกๆ เขาก็ขอโทษ แต่การกระทำไม่ใช่ แต่การขอโทษครั้งนี้ ดูเขาสำนึก เขาทำผิด และได้รับบทเรียนของการกระทำแล้ว

ส่วนกรณีที่หนุ่ม ประกาศ เลิกกับหญิงบุคคลที่ 3 ก็เป็นเรื่องดี แต่จะให้คุณจูน กลับไปดีกันทันที ยังไม่ได้ ตอนนี้โฟกัสที่ลูก แต่ในอนาคต หากเขามีการพิสูจน์ตัวเองหรืออะไรก็ค่อยว่ากัน เป็นเรื่องอนาคต แต่ตอนนี้ก็แยกกันอยู่

ส่วนจะเชื่อที่หนุ่มบอกว่าจะเลิกกับบุคคลที่ 3 จริงหรือไม่ จูนไม่ขอตอบ เพราะไม่ใช่ตัวเขา แต่เขาทำอะไร เดี๋ยวนี้โลกโซเชียลไว ทุกอย่างพิสูจน์ได้

เมื่อถามถึงความรู้สึกกับหนุ่มกะลา คุณจูน บอกตรงๆ ว่า “ว่ายังรักหนุ่มกะลา อยู่กันมาครึ่งชีวิต” เป็นห่วงเขามากกว่า อยู่เพราะอยู่ด้วยกันมานาน ในใจหนุ่มตอนนี้ เขาคงแย่ แต่มันคงเร็วเกินไปที่จะกลับมาอยู่ด้วยกัน แยกกันอยู่แบบนี้ดีแล้ว สถานะก็เป็นพ่อและแม่ และอยากให้สังคมให้อภัยเขา เขาได้รับบทเรียนแล้ว ไม่ได้อยากให้สามีพังทลายล้ม แต่ก็อยู่ที่ตัวเขา หากเขาตั้งใจ ยอมรับผิดจริง ก็ขอให้สังคมให้อภัย เพราะมีผลกระทบต่อลูก

ส่วนการทำคลิปแซะ คุณจูนในลักษณะแสดงความเป็นเจ้าของ จากนี้ คุณจูน บอกว่า หากมีการทำคลิปแซะหรือทำอะไรให้เราไม่สบายใจก็คงต้องใช้กฎหมายดำเนินการทางกฎหมาย ส่วนการฟ้องหญิงสาวมือที่ 3 ยืนยันว่าฟ้องแน่นอน และเรียกค่าเสียหาย 10 ล้าน

ทนายพัฒน์ บอกว่า พยานหลักฐานชัดเจน และการกระทำของบหญิงบุคคลที่ 3 ทำต่อเนื่องมานาน ส่วนที่เรียกค่าเสียหาย 10 ล้านบาท ก็ไม่ได้เกินไป สมเหตุสมผล ซึ่งจุดประสงค์ของการฟ้องไม่ได้ต้องการเงิน แต่เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของคุณจูน

เมื่อถามว่าอยากฝากอะไรถึงสาวมือที่ 3 คุณจูนบอกว่า ที่ผ่านมา เขาพยายามจะคุยด้วยพยายามจะแสดงให้เรารู้มาตลอด และติดต่อมา แต่หลังจากนี้ ไม่ต้องติดต่อนะคะ เราไปเจอกันที่บัลลังก์

ก่อนทิ้งท้ายว่า อยากขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ และหากครอบครัวไหน ถูกสามีกระทำล้ำเส้นก็ให้ใช้กฎหมายดำเนินการ และอยากบอกหนุ่ม กะลา ว่า อะไรมันผ่านไปแล้ว ก็ช่างมัน เริ่มต้นกันใหม่ เรามีลูกที่ต้องดูแล และต่อไปนี้ ขอให้หนุ่มตั้งสติ คิดให้ดีก่อนจะทำ จะทำอะไร คิดให้มากๆ และเชื่อว่าจากนี้ คงไม่มีเรื่องอะไรแบบนี้แล้ว

ขณะที่โลกออนไลน์ก็ได้ขุดคลิปสาวคนสนิท หนุ่มกะลา และนำมาโพสต์ ในโลกออนไลน์จำนวนมาก เป็นคลิปที่สาวชื่อ จ๊ะโอ๋ ซึ่งกำลังเต้นอยู่ ริมทะเล ในชุดว่ายน้ำสุดเซ็กซี่สีดำ ซึ่งคนที่นำมารีโพสต์ได้ลงแคปชั่นไว้ว่า “ซีอีโอ๋ งามพริ้ง ที่กำลังเป็นข่าวมื้อที่ 3 กับพี่หนุ่มวงกะลา”

อีกคลิปเป็นสาวจ๊ะโอ๋ กำลังปีนต้นมะพร้าวและเต้นตามจังหวะเพลง ซึ่งเพลงที่นำมาโพสต์ลงไว้ เข้าใจว่า คนที่นำมารีโพสต์ น่าจะใส่เพลงใหม่เข้าไปเพราะเป็นเพลงเมียน้อยคอยรัก

และยังมีคลิปของคนโพสต์ที่ใช้ชื่อว่า งามพริ้ง Shop 1 มีลักษณะโพสต์ขายของโดยมีการเต้นประกอบเพลงแบบเซ็กซี่

ทีมข่าวเราก็ทำงานแข่งกับชาวเน็ต ล่าสุดไปเจอเพจเฟซบุ๊ก งามพริ้ง เจ้าของแบรนด์ ซึ่งในเพจก็จะเป็นสาวจ๊ะโอ๋โพสต์ขายผลิตภัณฑ์แบรนด์ของตัวเอง โพสต์คลิปล่าสุด โพสต์เมื่อ 3 วันที่แล้ว ในคลิปบอกว่า “เดือนนี้เป็นเดือนเกิดของตัวเองจึงจัดโปรโมชันพิเศษ แต่ชาวเน็ตที่เข้าไปคอมเมนต์ มีจำนวนน้อยมากที่ให้ความสนใจผลิตภัณฑ์ของเธอ ส่วนใหญ่คอมเมนต์แซะและตำหนิ จากประเด็นข่าวที่เกิดขึ้น เช่น ใช้แล้วจะเป็นแบบพี่ไหมคะ ถ้าเป็นไม่ใช้ค่ะเสียดายชาติเกิด, แบนเถอะค่ะไม่สนับสนุนคนแบบนี้ ซึ่งทีมข่าวพยายามติดต่อไปยังเพจ และเบอร์โทรศัพท์ ที่ขึ้นอยู่ในเพจดังกล่าวแต่ยังไม่มีใครรับสาย

ขณะที่ในติ๊กต๊อกของสาวจ๊ะโอ๋ มีคนเข้าไปเปิดวาร์ป และขุดคลิปเก่าๆ ที่เธอเคยโพสต์จำนวนมาก บางคลิปชาวเน็ตใช้คำว่า โชว์รวย อวดรวย เพราะสาวจ๊ะโอ๋ในชุดสไปเดอร์แมนสีดำ โพสต์คลิปอวดกระเป๋าแบรนด์เนม โดยตอนแรกเป็นกระเป๋าแบรนด์เนมที่โพสต์ขายอยู่ในมือถือ เธอบอกว่าใบนั้นก็อยากได้ ใบนี้ก็อยากได้ ก็เลยซื้อ

ก่อนที่จะโชว์สะพายกระเป๋าแบรนด์เนมหลายยี่ห้อ ทั้ง Hermes Constance 2 ใบ  ราคา 500,000 และ 600,000 บาท Chanel รุ่น Boy ราคา 200,000 บาท Chanel รุ่น Chanel Classic Flap Bag ราคา 300,000 บาท และยังมีนาฬิการาคา 2.3 ล้าน กระเป๋า Louis Vuitton ราคาหลายแสนอีก ก่อนจบที่สุดท้าย เธอเอาแบรนด์เนมมาแขวนไว้เต็มตัวไปหมด

นอกจากนี้ใน tiktok ก็มีคนไปรวบรวม ภาพเก่าๆ ของจ๊ะโอ๋มาโพสต์ลง เป็นภาพสาวจ๊ะโอ๋โพสต์ถือกองเงินก้อนใหญ่ และภาพซื้อรถเบนซ์ด้วยเงินสด 4.3 ล้าน สร้างบ้านหลังแรก และก็เป็นภาพที่เธอนั่งแพ็กขายของ ส่วนใน tiktok ที่ใช้ชื่อว่างามพริ้ง 78 มีการโพสต์คลิปสาวจ๊ะโอ๋พร้อมข้อความลักษณะแนะนำตัว มีชื่อ อายุ น้ำหนัก ส่วนสูง บอกรายได้เดือนละ 3 ล้านบาท ช้อปปิ้ง 1 ล้านบาท ให้แม่ 300,000 บาท สถานะโสด ทำงาน 5 ปีมีบ้าน 2 หลังรถ 5 คัน บ้านตากอากาศ 3 หลัง คอนโด 1 ห้อง นิสัยเอาแต่ใจ งอแงเก่ง ขี้อ้อน ชอบคนเอาใจ

ขณะที่ทีมข่าวติดต่อหญิงบุคคลที่ 3 นั้น  มีคนรับสายแต่ไม่ใช่เจ้าตัว บอกว่า ยังไม่ขอให้รายละเอียดและไม่สะดวกสัมภาษณ์ใดๆ ทั้งสิ้น