บันเทิง

เดือด! ‘เขาทราย’ ตามล่าแท็กซี่ ทิ้งลูก-เมีย ลงกลางทาง ล่าสุดขนส่งฯ สั่งลงโทษคนขับแล้ว

โดย chutikan_o

16 มี.ค. 2566

68 views

เป็นประเด็นเดือดของ ‘เขาทราย แกแลคซี่’ แชมป์มวยโลกรุ่นแบนตั้มเวต ที่เมื่อวานนี้ (15 มี.ค.) โพสต์ตามหาแท็กซี่ที่ทิ้งภรรยาและลูกสาว 2 คน ลงกลางทาง



โพสต์ดังกล่าว ระบุว่า “ด่วนครับ ตามหารถแท็กซี่สีเขียวเหลือง ทะเบียน มช 7913 กทม รับภรรยาและลูกผม จาก รพ.พญาไท 2 เวลาประมาณ 19.30 น. ให้คนขับติดต่อกลับมาที่ผมด่วนนะครับ #taxi #taxiสีเขียวเหลือง ผมได้ร้องเรียนไปที่ 1584 และปลายสายเจ้าหน้าได้รับเรื่องแล้วครับ ต่อไปรอเจ้าหน้าที่ดำเนินตามกระบวนการครับ”



ทีมข่าวได้คุยกับ ‘เขาทราย’ และ ‘พี่หนึ่ง วรรณภา’ ภรรยา โดยเขาทรายเล่าว่า เหตุเกิดเมื่อวันอังคารที่ 14 มี.ค. 66 ซึ่งภรรยาพาลูกสาว 2 คน ไปหาหมอฟัน ที่ รพ.พญาไท 2 พอหาหมอเสร็จประมาณ 18.30 น. เจ้าหน้าที่เวรเปล รพ. เรียกแท็กซี่ให้ภรรยาและลูกสาวจึงขึ้นรถไป โดยแจ้งแท็กซี่ว่าให้ไปส่งที่พัก ซอยด้านหลังโพไซดอน โดยซอยด้านหลังจะทะลุไปซอยอินทามระ 47 แต่เมื่อรถออกไปประมาณ 300-400 เมตร แท็กซี่หันมาบอกว่าถ้าไปนอกเหนือซอยรัชดา 17 จะไม่ไปส่ง ขอให้ลงไปเลย ภรรยาก็ขอร้องให้แท็กซี่ ส่งที่ซอยรัชดา 17 หน้าโพไซดอนเลย เพราะมีเด็กๆ มาด้วย รวมทั้งถามว่า รับโอนเงินไหม แท็กซี่บอกว่าไม่รับโอนเงินทั้งนั้น แล้วให้ลงไปเลย



ภรรยาเขาทราย กล่าวว่า ไม่ได้มีเหตุทะเลาะอะไร แต่ไม่รู้ว่าเขามีปัญหาอะไรก่อนหน้าหรือไม่ นาทีนั้นพยายามพูดให้ดีที่สุด บอกแท็กซี่ว่า เรามีเด็กมาด้วย 2 คนให้ลงตรงนี้เลยเหรอ แท็กซี่ก็สวนกลับมาว่า มีลูก 3-4 คนเหมือนกัน จึงต้องยอมลงจากแท็กซี่ แล้วรีบจับมือลูกๆ ไว้ เพราะลูกยังเล็ก กลัวจะเดินลงถนน ซึ่งตอนนั้นมีรถมาเรื่อยๆ



เขาทราย กล่าวอีกว่า ทีแรกภรรยามาเล่าว่าถูกแท็กซี่ไล่ลงรถ ก็ยังเฉยๆ เพราะเห็นแบบนี้บ่อย แต่พอ ‘น้องโอลีฟ’ ลูกสาวคนเล็ก อายุ 6 ขวบ ซึ่งไปด้วยในวันนั้น มาเล่าอีกที โอลีฟบอกว่า ทำไมเขาใจร้ายจังพ่อ ทำไมเขาใจร้ายจัง โอ้โห ผมนี่ขึ้นเลย ทำกับบุคคลสำคัญของเราได้อย่างไร เดือดมาก ก็เลยตัดสินใจโพสต์ตามหาตัว ร้องเรียนไปที่ขนส่ง เพื่อนๆ ในค่ายมวยก็โกรธมาก ถามว่าจะให้จัดไปเลยไหม แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นนักมวย เราไม่ได้อยากไปทำร้ายอะไรเขา แค่อยากให้เขามาอธิบายและขอโทษ รวมทั้งอยากให้ลงโทษตามกฎหมาย ยิ่งเขามีลูกของตัวเอง เขาก็ต้องยิ่งรู้นะว่าพวกเรารู้สึกยังไง



ล่าสุด กรมการขนส่งทางบก โดยกองตรวจการขนส่งทางบก ได้ติดตามตัวผู้ขับรถคันดังกล่าวมาสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว โดยคนขับรถได้ให้การว่า กรณีดังกล่าวเกิดจากการสื่อสารที่ไม่เข้าใจระหว่างเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลผู้เรียกรถ โดยแจ้งว่า ให้ไปส่งผู้โดยสารที่ซอยอินทามระ 17 แต่จริงๆ แล้วผู้โดยสารต้องการให้ไปส่งที่ซอยอินทามระ 47 ซึ่งเขามีธุระส่วนตัว จึงไม่สามารถไปส่งได้ แต่ทั้งนี้ ขอยอมรับว่าไม่ได้ไปส่งผู้โดยสารถึงที่หมายจริง



กรมการขนส่งทางบก พิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำนี้เป็นความผิดฐานไม่ส่งผู้โดยสาร ณ สถานที่ตามที่ตกลงกันไว้ ตาม พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 57 เบญจ ประกอบมาตรา 66/2 จึงได้ลงโทษเปรียบเทียบปรับในอัตราสูงสุด จำนวนเงิน 1,000 บาท พร้อมสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับรถเป็นเวลา 30 วัน



และให้เข้ารับการอบรมเกี่ยวกับกฎระเบียบและการบริการที่ดีเป็นเวลา 4 ชั่วโมง และบันทึกประวัติการกระทำความผิดไว้ในระบบกรมการขนส่งทางบก หากมีการกระทำผิดซ้ำจะดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาตขับรถต่อไป

คุณอาจสนใจ