ดรามาเดือด! แห่แบนยันค่าย หลังประกาศไม่ปลด ‘ลูกหนัง’ ออกจากวง H1-KEY

ค่าย GLG ออกแถลงการณ์ไม่ปลด ‘ลูกหนัง ศีตลา’ ออกจากวงเกิร์ลกรุ๊ป ส่งผลให้ #แบนSITALA ติดเทรนด์อันดับ 1 ทวิตเตอร์อีกครั้ง

เรื่องของ ลูกหนัง ศิตลา ลูกสาวฝาแฝดของนักแสดงและผู้กำกับผู้ล่วงลับ ตั้ว ศรัณยู กลายประเด็นร้อนข้ามประเทศอีกครั้ง โดยเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ค่ายเพลง GLG ของเกาหลีใต้ ได้เปิดตัวสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปกลุ่มใหม่ ใช้ชื่อวงว่า H1-KEY ประกอบไปด้วยเมมเบอร์ 4 คน โดยหนึ่งในนั้นมี ลูกหนัง ศีตลา ซึ่งเป็นสมาชิกคนไทยคนเดียวของวง และมีกำหนดเดบิวท์ในปีหน้า

ปรากฏว่าหลังจากต้นสังกัดปล่อยภาพเปิดตัว ลูกหนัง ศีตลา ออกมาก็เกิดเป็นประเด็นดราม่าในประเทศไทยทันที มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักและประกาศจะไม่สนับสนุน ลุกหนัง โดยมีการโยงไปถึงเรื่องในอดีตที่ ตั้ว ศรัณยู เป็นแกนนำ กปปส. มีส่วนทำให้เกิดการรัฐประหาร และยังได้มีการแชร์ภาพถ่ายในอดีตของลูกหนัง ที่เคยไปร่วมการชุมนุมด้วย ส่งผลให้แฮชแทก #แบนลูกหนัง และแฮชแท็ก #SITALA ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ต่อเนื่องหลายวัน ขณะที่สื่อเกาหลีหลายสื่อก็ได้นำเสนอข่าวว่าในลักษณะ คนไทยรู้สึกไม่พอใจ ที่ลูกสาวของผู้ที่สนับสนุนเผด็จการกำลังจะได้เดบิวต์เป็นไอดอลเกาหลี

ล่าสุดเมื่อวานนี้กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาอีกครั้ง หลังค่ายเพลง GLG ต้นสังกัดของ ลูกหนัง ได้ออกแถลงการณ์ว่า ทางค่ายตัดสินใจที่จะไม่เปลี่ยนแปลงสมาชิกของวง และได้พิจารณาแล้วว่า ศีตลา ไม่ควรต้องมารับผิดชอบกับสิ่งที่พ่อของเธอได้กระทำในอดีต โดยแถลงการณ์ดังกล่าวได้มีการเผยแพร่เป็นภาษาเกาหลีและภาษาอังกฤษ แปลได้ความว่า

“สวัสดี, นี่คือ GLG (Grandline Group) บริษัทต้นสังกัดของวง H1-KEY

พวกเรา GLG อยากจะส่งคำขอโทษอย่างสุดซึ้งต่อทุกๆ คนที่ได้รับความเจ็บปวดจากเหตุการณ์นี้ เราหวังอย่างยิ่งว่าจะเกิดสันติภาพและความสุขในประเทศไทย

พวกเราระมัดระวังเกี่ยวกับการตอบสนองกับประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นกับหนึ่งในสมาชิกวง H1-KEY ของเรา ศีตลา รวมไปถึงบิดาที่เสียชีวิตไปแล้วของเธอ ขณะที่เราต้องพิจารณาถึงประวัติศาสตร์ การเมือง เศรษฐกิจ และบริบททางสังคมและแบ๊คกราวน์ของประเทศไทย เพื่อที่จะเข้าใจถึงประเด็นและสถานการณ์ ตั้งแต่แรกเริ่มที่เราได้รับรู้ถึงความกังวลและเป็นห่วงจากพลเมืองชาวไทย เราได้พิจารณาเรื่องดังกล่าวที่เกี่ยวข้องกับศีตลา และการกระทำของบิดาของเธออย่างถี่ถ้วน วิธีการเลี้ยงดูเธอขึ้นมาในฐานะเยาวชน และจนกระทั่งในเวลานี้ที่เธอเริ่มต้นวัยผู้ใหญ่ เราได้ไปสู่บทสรุปว่าเราไม่สามารถที่จะนำ ศีตลา มารับผิดชอบกับสิ่งที่พ่อของเธอตัดสินใจและกระทำในอดีตได้ และนั่นเป็นสิ่งที่นอกเหนือความรับผิดชอบของเธอ

ด้วยหลักการนี้ เราได้ตัดสินใจที่จะไม่เปลี่ยนแปลงสมาชิกของวง เราต้องการที่จะเน้นย้ำว่า การตัดสินใจกล่าวถึงพ่อของเธอ ในฐานะแบบอย่างของศีตลานั้น หมายความถึง บทบาทในฐานะหัวหน้าครอบครัว นักแสดงและผู้กำกับ ไม่เกี่ยวข้องกับแนวคิดทางการเมืองและการกระทำของพ่อ

ศีตลา ในเวลานี้เธอรู้สึกเสียใจและเจ็บปวดเกี่ยวกับเสียงเรียกร้องที่ขยายวงขึ้นในประเทศบ้านเกิด เรื่องนี้ทำให้เราได้เรียนรู้และเข้าใจความเป็นจริงในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น


สำหรับศีตลา ที่เรารู้จักเป็นคนสุภาพและทำงานหนัก เธอภูมิใจในประเทศไทยที่เป็นประเทศบ้านเกิด ให้คุณค่าอย่างแท้จริงและรักวัฒนธรรม มรดกทางประวัติศาสตร์และผู้คนในประเทศไทย เธอบอกเสมอว่าหนึ่งในเป้าหมายและความฝันของเธอ คือการนำความภาคภูมิใจและส่งต่อความอบอุ่นที่เธอได้รับจากคนไทย

ศีตลา ทำงานหนักในต่างประเทศอย่างโดดเดี่ยวเพื่อเติมเต็มความฝันนี้ เราขอร้องอย่างจริงใจให้ทุกคนช่วยให้กำลังใจและสนับสนุนศีตลา และปฏิบัติกับเธอด้วยความอบอุ่นและใจดี เพื่อให้เธอได้มีโอกาสที่จะส่งคืนความรักและแรงสนับสนุนไปยังประเทศไทยสุดความสามารถของเธอ

เรา GLG อยากที่จะใช้เวลานี้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะให้ความใส่ใจกับความรักและความเป็นห่วงจากแฟนๆของเราทั้งในเกาหลีและในต่างประเทศ

และอีกครั้ง เราขออธิษฐานให้เกิดสันติภาพและความสุขในประเทศไทย

ด้วยความเคารพ

GLG(Grandline Group)”

ซึ่งหลังทางต้นสังกัดของลูกหนัง ออกแถลงการณ์ดังกล่าวออกมา ก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ร้อนขึ้นมาอีกครั้ง และส่งผลให้แฮชแท็ก #แบนSITALA กลับมาขึ้นเทรนด์อันดับ 1 ทวิตเตอร์อีกครั้ง ซึ่งนอกจากชาวเน็ตจะประกาศไม่สนับสนุน ลูกหนัง และยังประกาศจะไม่ขอสนับสนุนวงและค่ายเพลงอีกด้วย จนทำให้เกิดแฮชแท็ก #BANH1KEY และ #แบนGLG พ่วงติดเทรนด์ทวิตด้วยเช่นกัน

ชมผ่าน YouTube ได้ที่นี่ : https://youtu.be/8F9XEBGnbqI