บันเทิง

ข่าวดี 'อาต้อย เศรษฐา' ได้กลับมากักตัวที่บ้านต่ออีก 10 วัน ลูกสาวไม่ประมาท ใส่ชุด PPE รอรับ

โดย thichaphat_d

5 พ.ค. 2564

645 views

ข่าวน่ายินดีกับ 'อาต้อย เศรษฐา' ล่าสุดเมื่อวานนี้ (4 พ.ค.64) อาต้อยได้กลับบ้านแล้ว หลังเข้ารับการรักษาอาการติดเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา (รวมเวลารักษาตัว 17 วัน)


ซึ่งตอนนั้นหลายคนเป็นห่วงอาการของอาต้อย เนื่องจากกำลังป่วยเป็นมะเร็งปอด และก่อนจะทราบผลว่าติดเชื้อโควิด 19 ก็เพิ่งจะไปให้คีโมมา จึงทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายต่ำ ส่งผลให้เชื้อโควิดลงไปที่ปอด แต่โชคดีที่คุณหมอได้ให้พลาสมา ตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับการรักษา จึงทำให้อาการดีขึ้น และเชื้อโควิดก็ไม่มีผลต่อเชื้อมะเร็งในร่างกาย จนตอนนี้อาการเป็นปกติ คุณหมอจึงอนุญาตให้กลับมากักตัวต่อที่บ้านได้ แต่ยังต้องกักตัวที่บ้านต่ออีก 10 กว่าวัน เนื่องจากร่างกายยังคงมีเชื้ออยู่


ขณะที่อีฟ , ต้น (สามีของอีฟ) และน้องมีบุญ (ลูกชายของอีฟ) ที่ติดเชื้อไปก่อนหน้านี้ ก็ได้กลับมากักตัวต่อที่บ้านแล้วทุกคน มีแค่อาเปี๊ยก อรัญญา และแม่บ้าน ที่ไม่ติดเชื้อ


ซึ่งอีฟ พุทธธิดา ลูกสาวของอาต้อยได้โพสต์คลิปนาทีที่ อาต้อยกลับมาถึงบ้านโดยมีรถของโรงพยาบาลมาส่งซึ่ง อาต้อยก็ได้ยิ้มพร้อมโบกมือทักทายเพื่อนบ้าน โดยอีฟได้เขียนข้อความบอกด้วยว่า


“พ่อกลับบ้านแล้วค่ะ…. เป็นคนของประชาชน กลับมาต้องโบกมือทัก คณะหน้าปากซอยนิดนึง คุณพ่อไม่มีอาการอะไรแล้วค่ะ ไม่มีไข้ ไม่มีไอ แต่ปอดยังคงมีร่องรอยที่ต้องใช้เวลาในการรักษา คุณพ่อยังมีเชื้ออยู่ค่ะ แต่สามารถกลับมากักตัวและดูแลต่อที่บ้านได้ค่ะ


คนอื่นๆ ตอนนี้ต้องเว้นระยะห่วง ใส่หน้ากาก และถุงมือ แต่ที่เห็นอีฟใส่ชุดป้องกันเยอะหน่อย เพราะอีฟต้องพาขึ้นพ่อขึ้นห้องและไปช่วยจัดข้าวของ อีฟมีภูมิแล้วแต่ก็ต้องไม่ประมาท เพราะอีฟ ต้องกลับลงมาอยู่กับลูก และคนอื่นๆในบ้าน พ่อจะต้องกักตัวแยกจากที่บ้านเพราะคุณแม่ และแม่บ้านที่บ้านไม่มีเชื้อ จึงต้องทำการกักตัวพ่อและกักบริเวณให้อยู่แค่ในห้องนอน และออกมาเดินรับแดดได้ตรงระเบียง


สิ่งสำคัญคือสภาพจิตใจของพ่อด้วยค่ะ พ่ออยากกลับบ้านและร้องหาหลานทุกวัน เลยต้องให้กลับบ้าน สภาวะจิตใจมีความสำคัญในการสร้างภูมิด้วยนะคะ ถ้าเครียดภูมิก็จะตก และเพราะไม่ได้ต้องดูแลแค่เรื่องโควิด ยังต้องดูแลเรื่องโรคมะเร็งปอดของพ่อด้วย


คุณหมออนุญาตให้กลับเพราะที่บ้านเราสามารถมีการจัดการได้ ถ้ามีผู้ป่วยติดเชื้อเพียงคนเดียว และเพื่อเป็นการเพิ่มเตียงให้กับผู้ป่วยอื่นๆ ที่มีอาการหนักและจำเป็นด้วยค่ะ อีฟก็ยังต้องเอาใจใส่รายละเอียดต่อไปเพราะทุกคนสำคัญพ่อเรา แม่เรา ลูกเรา สามีเรา อีฟมีทุกคนแค่คนละ 1 คนไม่มีอะไรทดแทนได้ จึงต้องเอาใจใส่อย่างที่สุดค่ะ


อีฟต้องขอกราบขอบพระคุณ คุณหมอและพยาบาลวอร์ด 11 และ 15 ที่รพ. ปิยะเวท ที่ดูแลคุณพ่อ และต้นเป็นอย่างดีจนทุกคนได้กลับบ้านในวันนี้นะคะ"




รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/TPTTi077IU0

คุณอาจสนใจ

Related News