เศรษฐกิจ
"ทรัมป์" เอฟเฟ็กต์! ตลาดหุ้นดำดิ่งทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่ดาวโจนส์ร่วงแรง
โดย panisa_p
4 เม.ย. 2568
109 views
"ทรัมป์" เอฟเฟ็กต์ ตลาดหุ้นดำดิ่งทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่ตลาดหุ้นของสหรัฐฯ โดยเฉพาะดัชนีดาวโจนส์ ลงไปเกือบ 1,500 จุด ซึ่งช่วงหลังๆ เราแทบจะไม่ค่อยเห็นดาวโจนส์ร่วงลงแรง ซึ่งเป็นผลจากมาตรการภาษีที่เกินคาดของทรัมป์ล้วนๆ นักวิเคราะห์บอก เหมือนทรัมป์ทำระเบิดใส่มือตัวเองหรือขว้างงูไม่พ้นคอ
โดยดัชนีดาวโจนส์ ร่วงลงไปถึง 1,486 จุด หรือ 3.5% ขณะที่ Nasdaq ลงไป 954 จุด หรือ 4.83% ด้านเงินดอลล่าร์อ่อนค่าลง 2% ซึ่งต้องบอกว่า เป็นผลมาจาก Reciprocal Tariffs ที่เกินคาดของท่านประธานาธิบดี Trump นั้นเอง ซึ่งนักวิเคราะห์บอกว่า ยังดีที่ยังไม่ค่อยมีใครบอกว่าจะตอบโต้ทันที ขอคิดดูก่อน แต่ก็ยังส่งผลถึงขนาดนี้ น่าติดตามว่า สงครามเศรษฐกิจ สงครามการค้ารอบนี้จะหมุนไปไกลแค่ไหน อเมริกาจะ Great Again ตามหวังของทรัมป์หรือไม่
ผลกระทบดังกล่าวสร้างสั่นสะเทือนมาถึงเอเชีย โดยตลาดหุ้นเอเชีย ทั้งเอเชียนิกเคอิของญี่ปุ่น , ดัชนี KOSPI ของเกาหลี ร่วงแรงลงในวันนี้ (4) ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ดิ่งลงอย่างหนักในวันพฤหัสบดี (3 เม.ย.) (ตลาดหุ้นจีนและตลาดหุ้นฮ่องกงปิดทำการวันนี้ เนื่องในเทศกาลเช็งเม้ง) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่า การประกาศใช้มาตรการภาษีศุลกากรครั้งใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะนำไปสู่การทำสงครามการค้า และทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกเผชิญภาวะถดถอย ทั้งนี้ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ร่วง ส่วนหนึ่งเป็นผลกระทบจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติถอดถอนประธานาธิบดียุน ซอกยอล ออกจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการ
ส่วนบ้านเราก็ลงหนัก ดัชนีดำดิ่งไม่หยุด ลงไปลึกกว่า 35 จุด นักลงทุนแห่เทขายเพื่อลดความเสี่ยงก่อนเข้าสู่วันหยุดยาวของไทย ท่ามกลางความกังวล ความไม่แน่นอนของสถานการณ์โลก ขณะที่นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังบอก หุ้นไทยร่วงตามตลาดโลก และย้ำให้มั่นใจ รัฐบาลมีมาตรการรับมือไว้แล้ว
นายพิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร กล่าวว่า ประเทศไทยถือว่าโดนแผ่นดินไหวถึง 2 ครั้งติดๆ กัน โดยแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเมื่อวันที่ 28 มีนาคม มองว่า ไม่ได้มีผลกระทบรุนแรงต่อประเทศ เพราะความเสียหายมีจำกัดแต่แรงสั่นสะเทือนจากมาตรการภาษีทรัมป์ เขย่าเศรษฐกิจแรง เปรียบกำลังเจอระเบิดเวลา คาดภาษีทรัมป์ฉุด GDP ไทยลดลง หรือ ติดลบ 1.1% จากเดิมที่คาดจะบวก 2.5%
โดยสิ่งที่ภาครัฐควรทำตอนนี้ คือ อย่าเพิ่งกระตุ้นเศรษฐกิจทันที ต้องกู้ระเบิดก่อน คือ ต่องเร่งเปิดเจรจาทั้งนอกและใน ถ้าเร่งแก้ได้เร็วก็จะทำให้ผลกระทบต่อไทยลดลงได้ นอกจากนี้ อาจต้องมองหาตลาดใหม่ พูดคุยกับประเทศที่โดนภาษีเหมือนกัน และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันควบคู่ไปด้วย
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/llXNTwZo8AM
แท็กที่เกี่ยวข้อง โดนัลด์ทรัมป์ ,ตลาดหุ้น