เงินบาทแข็งโป๊ก! ทำสถิติแข็งค่าสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง

เงินบาทวันนี้ (25 ก.ย.) ทำสถิติแข็งค่าสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง แตะระดับ 32.60 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ



โดยค่าเงินบาทวันนี้ (25 ก.ย.) ทำสถิติแข็งค่า แตะระดับ 32.60 บาทต่อดอลลลาร์สหรัฐ แข็งค่ามากสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 65 หรือ ในรอบ 30 เดือน และคาดยังแข็งต่อเนื่อง



นางสาวพิมพ์พันธ์ เจริญขวัญ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน แบงก์ชาติ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปีเงินบาทแข็งค่าขึ้นมา 3.8% และแข็งค่าเร็วกว่าสกุลเงินอื่นในภูมิภาค สาเหตุจากการดอลลาร์อ่อนค่า หลังเฟดมีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก ประกอบกับการประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของจีน รวมถึงแรงกดดันจากเงินลงทุนต่างชาติที่เริ่มไหลกลับเข้ามาและราคาทองคำที่ปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดใหม่ที่ 2,670 ดอลลาร์สหรัฐ โดยแบงก์ชาติได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพร้อมเข้าดูแลเมื่อเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนมากผิดปกติ เพื่อลดผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของภาคเศรษฐกิจจริง



ขณะที่นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ค่าเงินบาทที่แข็งค่ามาอยู่ที่ 36.23 บาท กระทบกับความสามารถแข่งขันของผู้ส่งออกเมื่อเทียบกับคู่ค้า ทำผู้ส่งออกไทยเสียเปรียบ แต่คนที่ต้องมีการลงทุนในการซื้อเครื่องจักรจากต่างประเทศ ก็ถือว่าเป็นจังหวะที่ดี ซึ่งต้องมาดูข้อมูลในเชิงลึก



ทั้งนี้รัฐบาลได้ใช้มาตรการทางการคลังไปอย่างเต็มที่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ดูเหมือนจะสวนทางกับนโยบายการเงิน ซึ่งแบงก์ชาติต้องดูให้ดอกเบี้ยต่ำลงหรือไม่ ซึ่งหากลองถอดหมวกแล้วมานั่งคุยกัน ก็จะสามารถหาจุดร่วม ที่นโยบายการเงินและการคลังไปด้วยกันได้



ขณะที่วันนี้ (25 ก.ย.) ธนาคารพัฒนาเอเชีย หรือ ADB หั่นประมาณการเศรษฐกิจไทยปีนี้ เหลือร้อยละ 2.3 จากที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 2.6 และยังปรับลดประมาณการเศรษฐกิจปี 68 ลงจากร้อยละ 3 มาอยู่ที่ร้อยละ 2.7 ด้วย เนื่องจากการบริโภคภาคเอกชนชะลอลงจากภาวะการเงินที่ตึงตัวขณะเดียวกันการส่งออกฟื้นตัวได้ช้า เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาค และการลงทุนภาครัฐและเอกชนยังคงอยู่ในระดับต่ำ มีการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชน ที่เป็นแรงสนับสนุนหลักต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

https://youtu.be/XMWjuhxVfCU