ไปต่อไม่ไหว! 'JD Central' โบกมือลาไทย ปิดบริการ 3 มี.ค.นี้

อีคอมเมิร์ซแข่งดุ ล่าสุด เจดี เซ็นทรัลไปต่อไม่ไหว โบกมือลาไทย ประกาศยุติให้บริการ ตั้งแต่ 3 มีนาคมนี้



บริษัท เซ็นทรัล เจดี คอมเมิร์ซ ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มออนไลน์ JD Central ประกาศปิดการให้บริการอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคมนี้เป็นต้นไป โดยในแถลงการณ์ของบริษัท ระบุว่า การสั่งซื้อสินค้าผ่านร้านค้าอย่างเป็นทางการของ JD Central จะปิดการสั่งซื้อตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ และการสั่งซื้อผ่านร้านค้าอื่น ๆ ในแพลตฟอร์ม JD Central จะปิดการสั่งซื้อตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2566 เวลา 23.59 น. เป็นต้นไป และศูนย์บริการหลังการขาย จะยังเปิดให้บริการจนถึงวันที่ 31 มีนาคม



เหตุผลของการปิดให้บริการ บริษัทฯ ระบุว่า เป็นไปตามนโยบายของ JD.com ที่มุ่งเน้นในการขยายและพัฒนาธุรกิจในตลาดต่างประเทศ โดยการสร้างเครือข่ายซัพพลายเชนข้ามพรมแดนผ่านการกระจายสินค้าและการขนส่งเป็นหลัก



สำหรับ เจดี เซ็นทรัล เปิดให้บริการในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อปี 2561โดยเป็นการร่วมทุนระหว่าง กลุ่มเซ็นทรัล ยักษ์ใหญ่วงการสรรพสินค้าของไทย และเจดี ดอทคอม (JD.com) บริษัทค้าปลีกออนไลน์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศจีน โดยชูจุดเด่นเป็นแพลตฟอร์มที่รวบรวมของแท้ 100% ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุผลประกอบการเมื่อปี 2564 มีรายได้รวม 7.4 พันล้านบาท ขาดทุน 1.9 พันล้านบาท และนับตั้งแต่เปิดบริการเมื่อปี 2561 บริษัทฯ ยังมีภาวะขาดทุนสะสมอย่างต่อเนื่อง



ขณะที่นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เพย์ โซลูชั่น วิเคราะห์ผลกระทบว่า แม้ JD CENTRAL จะมีส่วนแบ่งตลาดไม่สูงมาก แต่การออกจากตลาดครั้งนี้ จะทำให้เหลือผู้เล่นรายใหญ่เพียงแค่ 2 รายเท่านั้น ประกอบกับช่วงที่ผ่านมาการแข่งขันในตลาดอี-มาร์เก็ตเพลส เป็นไปอย่างดุเดือด จนทำให้ผู้ให้บริการประสบภาวะขาดทุน แต่ในปัจจุบันได้เริ่มกลับมาทำกำไรมากขึ้น ดังนั้นมองว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจะเข้ามาดูแลตลาดอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันการปรับขึ้นค่าบริการอย่างไม่เป็นธรรม และส่งผลกระทบต่อผู้ค้ารายย่อยในอนาคตให้มีทางเลือกน้อยลง

https://youtu.be/25UA6EMy-1k