ภาคธุรกิจผนึกกำลัง จี้รัฐทบทวนขึ้นค่าไฟ ทำต้นทุนสินค้ายิ่งแพง

ประเด็นการปรับขึ้นค่าไฟยังไม่จบ ล่าสุด ภาคธุรกิจผนึกกำลังครั้งใหญ่ ตั้งโต๊ะจี้รัฐทบทวน วอนอย่าซ้ำเติมผู้ประกอบการ



โดยวันนี้ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน ผนึกกำลังสมาคมผู้ค้าปลีกไทย สมาคมโรงแรมไทย และตัวแทนภาคธุรกิจ ตั้งโต๊ะร่วมกันชี้แจงผลกระทบจากการปรับขึ้นค่า Ft และข้อเสนอต่อรัฐบาล



โดยนายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ย้ำว่า การปรับขึ้นค่าไฟในอัตราที่สูงมากถึงสองงวดติดต่อกัน ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อภาระค่าครองชีพของประชาชน และต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ ที่ยังอยู่ในช่วงฟื้นตัว และบั่นทอนขีดความสามารถในการแข่งขันประเทศ



-ขณะที่นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี กล่าวว่า เรากำลังประสบวิกฤติซ้อนวิกฤติ และยังหากปรับขึ้นค่าไฟฟ้าอีก จะทำให้ต้นทุนการผลิตกระโดดสูงขึ้นทันที โดยในระยะสั้น ราคาสินค้าและบริการต้องปรับสูงขึ้นตาม 9-12% ส่งผลให้ค่าครองชีพประชาชนและเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ผู้ประกอบการบางรายอาจต้องปิดกิจการ ส่วนระยะยาวไทยจะไม่สามารถดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศได้ เพราะต้นทุนค่าไฟฟ้าสูงกว่าประเทศอื่นๆ เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย กว่า 50-120%



ในมุมมองของผู้ค้าปลีก นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย สะท้อนว่า ค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าของภาคค้าปลีกและบริการ คิดเป็นสัดส่วน 20% -50% หากต้องปรับเพิ่มอีก จะมีผลให้ค่าไฟฟ้าสูงขึ้นอีกกว่า 20% ซึ่งจะส่งผลกระทบหนักต่อผู้ประกอบการ SMEs จำนวน 2.4 ล้านราย และการจ้างงานกว่า 13 ล้านคน โดยขอให้รัฐทบทวนใน 3 ประเด็น คือ ตรึงราคาค่าไฟฟ้าสำหรับผู้ประกอบการเหมือนกับที่ตรึงราคาน้ำมันครั้งที่ผ่านมา ขอให้ลดหย่อนภาษีได้ 3 เท่า สำหรับค่าใช้จ่ายเพื่อการประหยัดพลังงาน และขอให้ทบทวนโครงสร้างการคิดค่า FT ให้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย



ด้านนางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าวว่า ค่าไฟเป็นต้นทุนค่าใช้จ่ายที่สูงที่สุด ซึ่งปกติไม่เกิน 5% แต่ปัจจุบันปรับสูงถึง 6-8% ของรายได้ จึงอยากให้ภาครัฐช่วยเหลือธุรกิจโรงแรมที่กำลังฟื้นตัว เช่น ไม่ปรับขึ้นราคาไฟฟ้า เพื่อให้ภาคการท่องเที่ยวและบริการเป็นเครื่องมือขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อย่างเต็มที่ เป็นต้น

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/KIIml8AW2s4