เวิลด์แบงก์ คาดราคาพลังงานลด 11% ปีหน้า ผลพวงเศรษฐกิจโลกชะลอตัว

ข่าวดีสำหรับราคาน้ำมัน เวิลด์แบงก์ คาดราคาพลังงานลด 11% ในปีหน้า จากผลพวงเศรษฐกิจโลกชะลอตัว



ธนาคารโลก (World Bank) เปิดเผยรายงานแนวโน้มตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ฉบับล่าสุด ระบุว่า ราคาพลังงานมีแนวโน้มลดลง 11% ในปี 2566 หลังจากที่พุ่งขึ้น 60% ในปีนี้ (2565) จากผลกระทบสงครามรัสเซีย-ยูเครน โดยธนาคารโลก คาดว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และมาตรการที่เข้มงวดในการควบคุมโรคโควิด-19 ในจีน อาจจะส่งผลให้ราคาพลังงานปรับตัวลงรุนแรงมากขึ้น



โดยคาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ โดยเฉลี่ยในปี 2566 จะอยู่ที่ 92 ดอลลาร์/บาร์เรล และจากนั้นจะลดลงสู่ระดับ 80 ดอลลาร์/บาร์เรล ในปี 2567 และยังคาดการณ์ด้วยว่า ราคาก๊าซธรรมชาติและถ่านหิน จะปรับตัวลงในปี 2566 จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ ยกเว้นในออสเตรเลียและในสหรัฐฯ จะพุ่งขึ้นสูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี ภายในปี 2567 และคาดว่าราคาก๊าซในยุโรปจะพุ่งขึ้นเกือบ 4 เท่า



ขณะที่นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ยืนยัน ตรึงค่าไฟ ต่อถึงต้นปีหน้า ให้อยู่ในระดับไม่เกิน 4.72 บาทต่อหน่วย เพื่อให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด ด้วยการใช้น้ำมันดีเซลในการผลิตไฟฟ้า แทนก๊าซธรรมชาติที่มีราคาสูง ซึ่งหากไม่ใช้ดีเซลผลิตไฟฟ้า ทดแทนก๊าซธรรมชาติ จะส่งผลให้ค่าไฟเพิ่มจาก 4.72 บาทต่อหน่วย พุ่งสูงแตะระดับ 7 บาทต่อหน่วย ซึ่งกระทรวงพลังงานจะทำทุกวิถีทางที่จะไม่ให้ราคาพุ่งขึ้นไปในระดับดังกล่าว

https://youtu.be/dnQkD0OWKv0