เศรษฐกิจ
29 กลุ่มสินค้าไทย เสี่ยงถูก 'ทรัมป์' เก็บภาษีนำเข้า 'พิชัย' เตรียมเยือนสหรัฐฯ ขอให้ยกเว้นการขึ้นภาษี
โดย passamon_a
20 ม.ค. 2568
724 views
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ ว่า ภายหลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ วันที่ 20 ม.ค.นี้ คาดว่านายทรัมป์จะดำเนินมาตรการและนโยบายต่าง ๆ ที่จะทำให้สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะจีน เม็กซิโก แคนาดา รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากทั้ง 4 ประเทศ รวมถึงการปกป้องอุตสาหกรรมรถยนต์ และไม่สนับสนุนนโยบายสิ่งแวดล้อม ล้วนแต่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการค้าโลกรวมถึงไทย
ขณะเดียวกัน กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ประเมินว่า ผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯจะทำให้เศรษฐกิจโลกปี 68 เติบโตชะลอลงเหลือ 2.4% และทำให้การค้าโลกขยายตัวเพียง 0.6% โดยจีน เม็กซิโก แคนาดา เยอรมนี และญี่ปุ่น จะเป็น 5 ประเทศ ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดในปี 68-69 รวมทั้งเศรษฐกิจและการส่งออกไทยจะลดลงเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันไทยเกินดุลการค้าสหรัฐฯ อันดับที่ 12 ของโลก
โดยสินค้าไทยที่มีความเสี่ยงอาจถูกสหรัฐฯใช้มาตรการทางภาษี มี 29 กลุ่มสินค้า ซึ่งตั้งแต่ปี 61-66 สหรัฐฯขาดดุลการค้าไทยมาโดยตลอด เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ, เครื่องโทรศัพท์มือถือ, ไดโอด ทรานซิสเตอร์ และโซลาร์เซลล์, หม้อแปลงไฟฟ้า เครื่องเปลี่ยนไฟฟ้าชนิดอยู่คงที่, เครื่องปรับอากาศ, เครื่องส่งสัญญาณวิทยุ โทรทัศน์, วงจรรวมอิเล็กทรอนิกส์, เครื่องเพชรพลอยและรูปพรรณ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีรายการกลุ่มสินค้าอื่นที่อาจมีความเสี่ยงถูกเก็บภาษีเช่นกัน เช่น เครื่องจักรไฟฟ้า ตู้เย็นตู้แช่แข็ง เฟอร์นิเจอร์ผลิตภัณฑ์จากไม้ รวมถึงสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปบางรายการ
ขณะเดียวกันสหรัฐฯ ยังจับตาประเทศที่กลุ่มทุนจีนเข้าไปลงทุนตั้งฐานการผลิต เพราะต้องการเลี่ยงสงครามการค้า และมาตรการภาษีจากสหรัฐฯ โดย 10 ประเทศแรกที่จีนลงทุนมากสุดในปี 66 เช่น ซาอุดีอาระเบีย มาเลเซีย เวียดนามโมร็อกโก คาซัคสถาน อียิปต์ อินโดนีเซีย เซอร์เบีย เม็กซิโก ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม หลังทรัมป์รับตำแหน่งแล้ว นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ มีกำหนดเดินทางเยือนสหรัฐฯ เพื่อหารือกับผู้บริหารระดับสูงของสหรัฐฯ เพื่อขอให้ยกเว้นการขึ้นภาษีสินค้าจากไทย โดยจะชี้แจงว่า การเกินดุลการค้าของไทย มาจากการส่งออกสินค้าที่นักลงทุนสหรัฐฯเข้ามาลงทุนในไทย ไม่ใช่เป็นการส่งออกสินค้าที่ไทยผลิตได้เองทั้งหมด ดังนั้นหากขึ้นภาษีนำเข้าจากไทย เท่ากับขึ้นภาษีนำเข้าจากนักลงทุนสหรัฐฯในไทย
นอกจากความเสี่ยงจากการที่สหรัฐฯ จะใช้มาตรการทางการค้ากับไทยแล้ว ไทยและอาเซียน ยังเผชิญความเสี่ยงจากจีนเข้ามารุกขยายสินค้าในภูมิภาค เพื่อแก้ปัญหาส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯไม่ได้ โดยที่ผ่านมาพบว่าสินค้าจีนมีส่วนแบ่งตลาดในอาเซียนมากขึ้น ตั้งแต่เกิดสงครามการค้ากับสหรัฐฯเมื่อปี 61 สำหรับไทย โดยช่วงเกิดสงครามการค้า 5 ปีที่ผ่านมา จีนส่งออกมาไทยเพิ่มขึ้นจาก 42,974.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็น 75,929.8 ล้านเหรียญหรือเพิ่มขึ้น 76.7% โดยสินค้าที่จีนส่งออกมายังไทยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
อย่างไรก็ดี การส่งออกไทยยังมีโอกาสได้ประโยชน์จากรูปแบบการค้าโลกที่เปลี่ยนแปลงไป และการเปลี่ยนแปลงของขั้วอำนาจทางเศรษฐกิจ ซึ่งไทยสามารถใช้ประโยชน์จากความเป็นกลางได้ และไทยจะยังคงได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนต่างชาติ เพื่อเลี่ยงผลกระทบจากสงครามการค้า
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/mN3pdb0Jp70
แท็กที่เกี่ยวข้อง โดนัลด์ทรัมป์ ,สินค้าไทย ,ทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้า