เศรษฐกิจ

‘คลัง’ ตัดสิทธิ ปชช.-ร้านค้าติดคดีทุจริตโครงการรัฐ ‘ปกรณ์วุฒิ’ ชี้ปรับเงื่อนไขเงินดิจิทัล ไม่เหมือนที่หาเสียง

โดย petchpawee_k

17 ก.ค. 2567

51 views

ปกรณ์วุฒิ ชี้ รัฐบาลปรับเงื่อนไขโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ไม่เป็นไปตามนโยบายที่หาเสียงไว้ ขอประชาชนจับตา ค่าเสียผลประโยชน์ประเทศ ยันฝ่ายค้านไม่มีแผนฟ้องศาล แค่เตรียมช่องทางที่เป็นไปได้ ไม่ขอรับคำเสียดสีนายกรัฐมนตรีวันตอบกระทู้ - ด้าน ‘คลัง’ ตัดสิทธิ์รับเงินดิจิทัลประชาชน ร้านค้า 2,000 ราย ติดคดีทุจริตโครงการรัฐ

วานนี้ 16 ก.ค. 67 ที่กรมศุลกากร นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะกรรมการโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้มีมติเห็นชอบ ว่า กลุ่มคน ทั้งประชาชนและร้านค้า ที่เคยประพฤติขัดข้อตกลงของโครงการรัฐในอดีต ไม่ว่าจะโครงการคนละครึ่ง โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เช่น การแลกเงินสด การสวมสิทธิ์ ใช้สิทธิ์ปลอม ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ถูกภาครัฐดำเนินคดีแล้วนั้น จะไม่ได้รับสิทธิ์ในโครงการดิจิทัล วอลเล็ต รวมทั้งโครงการของรัฐในอนาคต ซึ่งมีอยู่ประมาณ 2,000 ราย


นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า สำหรับ ไทม์ไลน์โครงการดิจิทัล วอลเล็ต ในเบื้องต้นรัฐบาลจะเปิดลงทะเบียนโครงการดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท ผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ในวันที่ 1 ส.ค. 2567 นี้ โดยมีระยะเวลาการเปิดลงทะเบียน 45 วัน ซึ่งในวันที่ 24 ก.ค.นี้ จะมีการแถลงรายละเอียดเรื่องกรอบระยะเวลาอย่างชัดเจน รวมทั้งจะชี้แจงรายละเอียดแบบร่าง สำหรับการลงทะเบียน วิธีการใช้แอปฯ และจะมีความชัดเจนเรื่องกลไกการตรวจสอบสิทธิ์ กรณีต้องการโต้แย้งสิทธิ์ หรืออุทธรณ์


นายจุลพันธ์ กล่าวอีกว่า สำหรับกลไกในการลงทะเบียนร่วมโครงการดิจิทัล วอลเล็ต รัฐบาลได้ทำระบบรองรับ ทั้งการลงทะเบียนผ่านแอปฯ ทางรัฐ สำหรับผู้ที่มีสมาร์ทโฟน คาดว่าส่วนใหญ่ประชาชนใช้ช่องทางนี้กว่า 40 ล้านคน และกรณีไม่มีสมาร์ทโฟน หรือสมาร์ทโฟนไม่รองรับระบบอินเตอร์เน็ตนั้น จะเป็นการลงทะเบียนผ่านบัตรประชาชน โดยมีเจ้าหน้าที่เตรียมดูแลในเรื่องดังกล่าว ส่วนร้านค้าก็ลงทะเบียนผ่านแอปฯ ทางรัฐเช่นเดียวกัน คาดว่าจะมีร้านค้าร่วมโครงการกว่า 2-3 ล้านแห่ง “กรณีผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟน หรือสมาร์ทโฟนไม่รองรับระบบอินเตอร์เน็ต สามารถใช้จ่ายได้ด้วยบัตรประชาชน แต่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะต้องยืนยันโลเคชันที่ใช้จ่ายได้”


กรณีผู้ที่ลงทะเบียนแล้วตรวจสอบสิทธิ์ พบว่าผลดังกล่าวไม่ตรงตามความเป็นจริง สามารถอุทธรณ์สิทธิ์ได้ โดยรัฐบาลมีช่องทางรองรับไว้ให้ประชาชน ทั้งนี้ ยืนยันว่า การดำเนินโครงการดิจิทัล วอลเล็ต มีระบบบล็อกเชนสามารถตรวจสอบการทุจริตในโครงการได้ เช่น การแลกเงินสด ซึ่งรัฐบาลมีกระบวนการดูแลเรื่องทุจริตและการคอร์รัปชัน

---------------------

ขณะเดียวกันวานนี้ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการประชุมวิปฝ่ายค้านว่า มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม 2567 ที่จะเข้าสภาผู้แทนราษฎร ในวันนี้ (17 ก.ค.) ซึ่งร่างดังกล่าวเสนอเข้ามาเพื่อจะนำไปใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตล้วนๆ ซึ่งเราได้มีการเชิญหน่วยงานต่างๆ มาสอบถามในรายละเอียดว่าแต่ละหน่วยงานมีความเห็นอย่างไร มีที่มาที่ไปอย่างไรบ้าง สำหรับคนอภิปรายของพรรคก้าวไกลมีรายชื่อออกมาแล้วประมาณ 10-11 คน ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์แจ้งมา 3 คน แต่คาดว่าจะมีเพิ่ม และพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นๆ ก็มีการร่วมอภิปรายด้วยเช่นกัน


โดยเนื้อหาการอภิปรายจะเกี่ยวข้องกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต แต่น่าจะมีหลายแง่มุม ทั้งข้อกฎหมาย การจัดสรรงบประมาณและความคุ้มค่า งบประมาณและข้อกังวลต่างๆเกี่ยวกับโครงการนี้ ซึ่งข้อกังวลจะมีความหลากหลาย ทั้งการใช้งบประมาณ ที่รัฐบาลพยายามเบ่ง งบที่ขาดดุลมากที่สุด ทำให้เสียโอกาสโครงการอื่นที่อาจจะไม่ สามารถทำได้ เพราะงบประมาณถูกใช้ไปเต็มกรอบวงเงินแล้ว ซึ่งเราได้มีการสอบถาม นายกรัฐมนตรีไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า งบกลางของ ปี 67 มีการเบิกใช้ไปค่อนข้างน้อย ซึ่งเราได้ตั้งข้อสันนิษฐานไปว่ารัฐบาลพยายามกั๊ก หรือบริหารจัดการ ไม่ยอมใช้งบกลางในเรื่องอื่นๆ เพื่อให้มีงบประมาณมาทำโครงการนี้ให้ได้ ถ้าเราเสียโอกาสในการแก้ปัญหาในโครงการอื่นๆ แล้ว วัดดวงกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ทำให้นโยบายเงินโอน แบบนี้สร้างตัวคูณ ทางการคลังน้อยมาก และคาดว่าล่าสุดรัฐบาลก็ทราบแล้ว ที่ออกมายอมรับว่าตัวคูณทางการคลัง จะถึง 0.5 ด้วยซ้ำ ซึ่งตนก็ไม่มั่นใจว่าจะคุ้มค่ากับการที่ยอมเดิมพันทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อทำโครงการนี้หรือไม่


ทั้งนี้ หลายคนอาจมองว่าเป็นการทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ แต่ตนอยากให้มองว่าเวลาพูดถึงนโยบายที่หาเสียงเลือกตั้ง โดยเฉพาะนโยบายที่ใช้งบประมาณอยากให้มองเป็น 3 ส่วน คืองบประมาณเอามาจากไหน เอาไปทำอะไร และผลจะเกิดขึ้นคืออะไร

“หากย้อนกลับไปตอนที่พรรคเพื่อไทยเลือกตั้ง บอกว่านโยบายนี้จะไม่กู้ ไม่เบ่งงบประมาณขนาดนี้ด้วยซ้ำ โดยบอกว่าจะมีการจัดเก็บภาษีที่เพิ่มขึ้น ลดงบประมาณที่ไม่ได้ใช้ ซึ่งที่มาของงบประมาณก็ถูกเปลี่ยนแปลงจนไม่เหลือเค้าเดิม เหลือแค่อย่างเดียว คือการแจกเงิน 10,000 บาท ไม่ถ้วนหน้าด้วยซ้ำ นโยบายก่อนเลือกตั้งหาเสียงไว้สวยหรู แต่ถ้ามองความจริงนโยบายที่หาเสียงไว้ กับนโยบายที่กำลังทำอยู่ตอนนี้ ไม่ใช่นโยบายที่พรรคเพื่อไทยได้หาเสียงไว้เลย เพราะเป็นคนละนโยบาย จึงอยากชวนประชาชนจับตา ถ้าทำโครงการนี้จริง ค่าเสียผลประโยชน์ของประเทศมีอะไรบ้าง ผลลัพธ์สุดท้าย ดีตามที่หาเสียงไว้ก่อนเลือกตั้งหรือไม่“  นายปกรณ์วุฒิ กล่าว

ส่วนกรณีที่เคยมีข่าวว่าฝ่ายค้านจะยื่นศาลปกครอง เกี่ยวกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต หากรัฐบาลทำโครงการนี้จริง นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ขอแก้ตัวว่าฝ่ายค้านไม่เคยบอกว่าจะไปยื่น ซึ่งนางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลได้เคยบอกไปแล้ว ว่ายังไม่เกิดความผิดขึ้น ยังไม่เกิดการบังคับใช้กฎหมาย และยังไม่มีความเสียหายเกิดขึ้นในแง่ของกฎหมาย ดังนั้นจึงต้องรอดูต่อ เราเพียงแค่พูดถึงช่องทางที่จะเป็นไปได้ แต่ไม่ได้มีท่าทีที่จะพร้อมเดินทางไปศาลแน่นอน ซึ่งเป็นการหาช่องทางเตรียมไว้พิจารณาเท่านั้น โดยเริ่มต้นวิธีการทางสภาน่าจะดีที่สุด ในการสื่อสารไปถึงประชาชน แม้เราจะเป็นเสียงข้างน้อยก็อาจจะสู้ไม่ได้ แต่เมื่อโหวตผ่านไปแล้วตั้งกรรมาธิการ คงต้องขอข้อมูลที่ครบถ้วน

ส่วนที่รัฐบาลมั่นใจว่ามีเสียงมากกว่า 314 เสียง นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่าจะ 300 หรือ 350 ก็ไม่ต่างกัน เรายังเป็นเสียงข้างน้อยเหมือนเดิม ไม่ได้มีปัญหาอะไรและทำงานเหมือนเดิม

ขณะที่กระทู้ถามสดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เกิดวาทกรรม “แรงค้านไร้อนาคต” นั้น จะมีการเตรียมรับมืออย่างไร นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนไม่ได้ใส่ใจขนาดนั้น นายกรัฐมนตรีบอกแล้วว่าไม่ได้หมายถึงอะไร และอาจไม่ได้หมายถึงฝ่ายค้านก็ได้

“เห็นนายกรัฐมนตรีชอบฮึ่มๆ ใส่หน่วยงานอื่น อย่างเช่นแบงค์ชาติบ่อยๆ อาจเป็นแบงค์ชาติก็ได้ ตนขอไม่รับคำเสียดสีนี้ไว้ และไม่ทราบว่านายกฯ เสียดสีใคร” นายปกรณ์วุฒิ กล่าว


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/aVXf6T5NdLc



คุณอาจสนใจ

Related News