'พิพัฒน์' ขอกลับไปคิดสูตรค่าแรงขั้นต่ำใหม่ คาดนำกลับเข้า ครม.อีกใน 2 สัปดาห์

วานนี้ (12 ธ.ค. 66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์หลังประชุม ครม.ว่า นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้เสนอต่อที่ประชุม ครม. และ นายพิพัฒน์ได้สรุปตัวเอง พร้อมตั้งข้อสังเกต และจะกลับไปพิจารณาเรื่องของสูตรในการคิดค่าแรงใหม่

เมื่อถามว่า ค่าแรงจะปรับขึ้นได้มากกว่านี้ใช่หรือไม่

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ใช่ครับ ตั้งข้อสังเกตไปแล้ว แต่ก็ตั้งให้เกียรติคณะกรรมการไตรภาคี ส่วนจะทันปีใหม่หรือไม่นั้นคาดว่า 1-2 สัปดาห์นี้ หรือประมาณวันที่ 25 ธันวาคมนี้ จะนำกลับมาเข้า ครม.อีกครั้ง

เมื่อถามว่า ตัวเลขที่นายกรัฐมนตรีหวังไว้ควรจะเป็นเท่าไหร่

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ก็ไม่ใช่ตัวเลขปัจจุบัน แต่ก็ต้องฟังเขาก่อน เพราะมีกฎหมายหลายอย่าง แต่ที่ผมต้องการไม่ใช่จำนวนนี้”

เมื่อถามว่า จะได้ 400 บาท เท่ากันอยู่ทั่วไปประเทศหรือไม่

นายกรัฐมนตรี นิ่งไม่ตอบคำถามดังกล่าว ก่อนจะบอกว่าขอคำถามต่อไป

------------
ด้าน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน บอกว่า ต้องเสนอมติของไตรภาคีเข้า ครม. ภายในปีนี้ แต่เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์มากขึ้น โดยจะขอเอาไปพิจารณาใหม่ แต่ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการที่นำตัวเลขของปี 2563-2564 มาร่วมพิจารณาด้วย เลยจะเสนอไปยังคณะกรรมการค่าจ้างไปพิจารณาอีกครั้ง

------------

วันที่ 12 ธันวาคม นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) ค่าจ้าง เปิดเผย ว่า นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้นำมติคณะกรรมการไตรภาคีหรือบอร์ดค่าจ้าง แจ้งต่อที่ประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.) และให้นำกลับมาพิจารณาใหม่

โดยจะมีการปรับสูตรการคำนวณอัตราค่าจ้างใหม่ เนื่องจากในปี 2563-2564 ซึ่งถูกนำมาคำนวณการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในรอบ 5 ปี เป็นช่วงที่สถานการณ์ช่วงโควิด -19 ระบาด การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศจึงมีน้อย จุดนี้กลายเป็นตัวถ่วงในการพิจารณาตามสูตรค่าจ้าง จึงต้องปรับสูตรใหม่ แต่ไม่ต้องกลับไปพิจารณาเป็นรายจังหวัดเหมือนเดิม ไม่ต้องกลับไปนับหนึ่งใหม่ บอร์ดค่าจ้างชุดใหญ่สามารถพิจารณาได้เลย ดังนั้น การพิจารณารอบนี้จะไม่ช้า และสามารถนำเข้า ครม.ได้ภายในเดือนนี้ โดยจะเรียกประชุมบอร์ดค่าจ้างเพื่อพิจารณาเรื่องนี้ในสัปดาห์หน้า แต่ยังไม่กำหนดวันที่แน่นอน

----------------

นายวีรสุข แก้วบุญปัน คณะกรรมการค่าจ้างฝ่ายลูกจ้าง กล่าวถึงการทบทวนอัตราค่าจ้างใหม่ ว่า หลักการปฏิบัติในการขึ้นอัตราค่าจ้างตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันไม่เคยมีรัฐบาลไหนที่ทำแบบนี้

ทุกครั้งที่บอร์ดค่าจ้างมีมติออกไป ก็ต้องอนุมัติไปตามนั้น เว้นเสียแต่ว่าปีไหนเศรษฐกิจดีขึ้น ก็อาจจะมีการปรับค่าจ้างปีละ 2 ครั้ง

แต่ครั้งนี้ มติบอร์ดค่าจ้างถูกตีกลับเอามาทบทวนใหม่ ต้องถามว่ากฎหมายรองรับหรือไม่ ประเด็นที่จะพิจารณาใหม่ หรือจะไม่พิจารณาไม่ใช่เรื่องสำคัญ

จุดสำคัญอยู่ที่ว่ารัฐบาลมีอำนาจแทรกแซงแบบนี้หรือไม่ ซึ่งก็ต้องถามไปที่คณะกรรมการกฤษฎีกา ถ้ากฎหมายบอกว่าทำได้ก็จบไป ทำต่อไปได้เลย เพราะลูกจ้างชอบอยู่แล้ว แต่ถ้ากฎหมายไม่รองรับ ก็ไม่มีใครกล้าทำผิด รัฐบาลต้องอย่าลืมว่ามีกฎหมายมาตรา 157 ค้ำคออยู่ 

นายวีรสุข กล่าวอีกว่า เรื่องพิจารณาอัตราค่าจ้างใหม่ อาจจะยุ่งแน่หากคณะกรรมการค่าจ้างประชุมร่วมกันแล้วมีมติเห็นชอบอัตราค่าจ้างเดิม ไม่ทบทวนใหม่แล้วส่งกลับเข้า ครม. อีกครั้ง เพราะกรรมการค่าจ้างก็ต้องดูด้วยว่า กฎหมายเปิดทางให้ทำได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องยึดตามมติของบอร์ดค่าจ้าง เพราะกฎหมายคุ้มครองแรงงานกำหนดไว้แล้วว่า เป็นอำนาจของบอร์ดในการกำหนดอัตราค่าจ้างและเสนอ ครม.เพื่อรับทราบเท่านั้น ไม่ใช่เสนอเพื่อพิจารณาว่าจะรับหรือไม่รับ

ซึ่งในเรื่องนี้ ทางกระทรวงแรงงานก็มีฝ่ายกฎหมายดูแลอยู่แล้ว รวมทั้งบอร์ดฝ่ายนายจ้าง หรือลูกจ้าง ก็มีฝ่ายกฎหมายเป็นที่ปรึกษาทั้งนั้น อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้คงต้องรอปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานบอร์ดค่าจ้างเรียกประชุม จึงจะทราบแนวทางที่ชัดเจน

----------------

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/ScDrjgsnwOI