'ศิริกัญญา' ฟันธง! ปชช.ไม่ได้เงินดิจิทัล - 'เศรษฐา' ไม่คุยกฤษฎีกาหวั่นคนมองล็อบบี้ ย้ำดิจิทัลวอลเล็ตจำเป็น

'ศิริกัญญา' ฟันธง ประชาชนไม่ได้เงินดิจิทัล เชื่อรัฐบาลยืมมือ-หาผู้ร้าย เพื่อหาทางลง ด้าน นายกฯ'ย้ำดิจิทัลวอลเล็ตจำเป็น เหตุประเทศวิกฤต แจงไม่คุยกฤษฎีกาหวั่นคนมองล็อบบี้


วานนี้ (14 พ.ย.) รายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ โดยคุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา ได้เชิญ คุณศิริกัญญา ตันสกุล สส.และ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล มาสัมภาษณ์

โดยคุณศิริกัญญา เปิดใจว่า ตนหมกมุ่น และ ติดตามเรื่องเงินดิจิทัลวอลเล็ต และติดใจเรื่อง “แหล่งที่มาของเงิน” ซึ่งเป็นจุดอ่อน จุดตายที่สุดที่เเห็น ซึ่งที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่ามาทางตันแล้ว ไม่มีทางออกทางอื่น การที่ รัฐบาลเลือกทาง ใช้ พรบ.เงินกู้ ซึ่งตนมองว่า เป็นฆ่าตัวตายทางการเมืองชัดๆ และขัดกฎหมายด้วย

คุณศิริกัญญายังตั้งคำถามว่า ที่รัฐบาลอ้างว่า ที่ประชุมเห็นตรงกันว่าต้องใช้ พรบ.เงินกู้ สรุปแล้วในห้องปิดตายนั้นคุยอะไรกันอยู่ จึงเรียกร้องให้เอามติที่ประชุมมาเปิดเผย อดคิดไม่ได้ว่าที่เสนอแนวนี้ เพราะ เพื่อยืมมือ หาผู้ร้ายในเรื่องนี้ นั่นก็คือ นักร้องหรือองค์กรอิสระ ที่จะต้องไปดำเนินการแน่นอน พอปัดตก รัฐบาลก็ลอยตัว บอกว่า อยากทำมาก คิดดีแล้ว แต่ทำไม่ได้ เพราะว่ามีผู้ร้ายเข้ามาขัดขวางกระบวนการ โดยส่วนตัวตนเชื่อว่า เรื่อง พรบ.เงินกู้จะถูกปัดตก ตั้งแต่ขั้นยื่นกฤษฎีกาตีความ 

คุณสรยุทธ ได้ถามว่ารัฐบาลชี้แจงว่า ขณะนี้ประเทศวิกฤต เป็นเหมือนคนป่วยแล้ว ศักยภาพเราไม่มี จีดีพีต่ำต่อเนื่อง 10 ปี จีดีพี 1.8 -1.9 จำเป็นต้องกระตุ้นขนานใหญ่ คุณศิริฯ มองว่าประเทศไทยวิกฤตหรือไม่

คุณศิริกัญญา กล่าวว่า ไม่เข้าใจว่าเป็นวิกฤตอย่างไร ต้องเอาตัวเลขมากางดู ว่าตัวเลขไหนวิกฤต รายได้ครัวเรือน ค่าจีดีพี ฯลฯ ตนขอมาตั้งแต่ตอนหาเสียงช่วงดีเบต

---------------------------------------------

ขณะที่วานนี้ (14 พ.ย.) เวลา 17.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น ซานฟรานซิสโกช้ากว่าไทย 15 ชั่วโมง) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีนี้ว่า ไม่เถียงกับใคร ทุกคนมีความประสงค์ดีกับประเทศชาติทั้งนั้นอย่างที่นายกรัฐมนตรีแถลง ว่าเป็นเรื่องจำเป็น เป็นเรื่องวิกฤตก็แค่นั้น ซึ่งประชาชนก็จะเป็นคนตัดสิน

 เมื่อถามว่า คณะกรรมการกฤษฎีกามีการรายงานความเห็นเพิ่มเติมมาหรือไม่ เนื่องจากมีข่าวว่าคณะกรรมการกฤษฎีกาจะเตือนเรื่องนี้เป็นพิเศษ นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่ได้คุย ซึ่งเห็นว่าคณะกรรมาการกฤษฎีกา จะไม่มีคำว่าอาจจะเตือน แต่จะมีแค่คำว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ก็ขอให้รอฟังความเห็นจากกฤษฎีกา แต่รัฐบาลยืนยันว่าเรื่องนี้จำเป็นและเร่งด่วน

เมื่อถามว่าได้มีการปรึกษาเรื่องนี้กับนายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้รับแต่งตั้งเป็น คณะกรรมการกฤษฎีกาหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่มีการหารือ ซึ่งต้องระมัดระวังในการที่จะคุุยเรื่องนี้ เพราะไม่อยากให้เป็นการล็อบบี้หรือไปพูดคุย และการที่นายกรัฐมนตรีได้พูดคุยกับสาธารณชนในเรื่องนี้ก็ได้อธิบายไปแล้วว่ามีความจำเป็นเร่งด่วน โดยยกกรณี จีดีพีของไทยเติบโตเท่าไหร่เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งข้อมูลนั้นอย่างชัดเจนที่สุดแล้ว


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/CSnCn3NEL78