เศรษฐกิจ

ครั้งแรกในรอบ 10 ปี! ยอดเงินฝากคนไทย โตติดลบ พบ 80% มีเงินฝากในบัญชีต่ำกว่า 50,000 บาท

โดย petchpawee_k

3 พ.ย. 2566

94 views

สถาบันคุ้มครองเงินฝาก เผย สถิติรอบปี 2566 ผู้มีเงินฝากส่วนใหญ่มากกว่า 80% มีเงินฝากเฉลี่ยในบัญชีต่ำกว่า 5000 บาท และจำนวนเงินฝากที่ได้รับความคุ้มครองหดตัว ติดลบครั้งแรกในรอบ 10 ปี


เมื่อวานนี้ (2 พ.ย.66)  นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก หรือ สคฝ. เปิดเผยว่า สถิติเงินฝากที่ได้รับความคุ้มครอง ณ เดือน สิงหาคม 2566 พบว่ามีจำนวนเงินฝากที่ได้รับความคุ้มครอง 15.96 ล้านล้านบาท ลดลงจากสิ้นปี 2565 จำนวน 212,688 ล้านบาท หรือหดตัว 1.32% ซึ่งนับเป็นการติดลบครั้งแรกในรอบ 10 ปี


เนื่องจากปัจจัยด้านสภาวะเศรษฐกิจ ค่าครองชีพที่สูงขึ้น ประกอบกับมีผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ช่วยเพิ่มทางเลือกให้กับนักลงทุนที่แสวงหาผลตอบแทนสูง อย่างทองคำ หุ้นกู้ และอัตราดอกเบี้ย เช่นจะพบว่า บางรายเลือกที่จะถอนเงินบาทไปเปิดบัญชีเพื่อฝากเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐ กินดอกเบี้ย 5% ซึ่งสูงกว่าดอกเบี้ยธนาคารพาณิชย์ของไทยซึ่งอยู่ที่ 2% โดยยอมรับความเสี่ยงในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน เป็นต้น


ทั้งนี้คาดว่าสถิติเงินฝากที่ได้รับความคุ้มครองจะมีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่อง สอดคล้องกับภาพรวมสินเชื่อที่ยังเติบโตในกรอบต่ำ ขณะที่จำนวนผู้ฝากที่ได้รับการคุ้มครองมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 93.46 ล้านราย เพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 3.05 ล้านราย หรือขยายตัว 3.37%


ที่น่าสังเกตคือ พบว่า คนที่มีเงินฝากในบัญชีน้อยกว่า 50,000 บาท มีมากถึง 81 ล้านราย หรือมากกว่า 80% ของจำนวนผู้มีเงินฝากทั้งหมด และกลุ่มนี้มีจำนวนรายเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว โดยพบว่าเฉลี่ยส่วนใหญ่ประชาชนมีเงินฝากในบัญชีไม่เกิน 5,000 บาทต่อราย โดยเม็ดเงินของกลุ่มที่มีเงินในบัญชีไม่เกิน 5,000 บาท ในปี 2565 อยู่ที่ 360,000 ล้านบาท และในปีหกหกลดลงมาเหลือ 348,000 ล้านบาท


นอกจากนี้ เมื่อดูสถิติเงินฝากตั้งแต่ปี 2562 ถึงสิงหาคม 2566 พบว่า ถึงแม้จำนวนผู้ฝากที่มีเงินฝากไม่เกิน 50,000 บาท จะเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่องทุกปี โดยในเดือนสิงหาคม 2566 มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 4.45% แต่จำนวนเงินฝากกลับเริ่มหดตัว ตั้งแต่ปี 2565  โดยติดลบ 0.63 เปอร์เซนต์ และในเดือนสิงหาคม 2566 ติดลบ 3.61% โดยเชื่อว่าเป็นจุดต่ำสุดแล้ว หลังจากนี้น่าจะทยอยติดลบน้อยลงและกลับเป็นบวกได้ใน 1-2 ปี    


ในขณะที่ผู้ที่มีเงินฝากมากกว่า 50,000 บาทแต่ไม่เกิน 1 ล้านบาท ปรับตัวลดลงทั้งจำนวนเงินฝากและจำนวนผู้ฝากตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา เป็นผลจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น ส่งผลกระทบกับผู้ฝากที่มีเงินฝากไม่มากนัก จึงต้องนำเงินออกมาใช้จ่าย สุขภาวะทางการเงินอ่อนแอ หรือแม้แต่ในกลุ่มผู้ฝากรายใหญ่ก็เริ่มมีตัวเลขเงินฝากลดลงในปีนี้ ซึ่งเกิดจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก แรงกดดันจากภาวะสงคราม ราคาพลังงานปรับตัวสูง และการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางต่างๆของโลก ต่างกำหนดนโยบายการเงินที่เข้มงวดเพื่อรักษาระดับอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับสูง ส่งผลโดยตรงต่อการบริโภคและการลงทุน


ในปีหน้ายังต้องจับตาปัญหาสงคราม ซึ่งยอมรับว่ามีทั้งผลกระทบด้านลบและเพิ่มโอกาสให้ไทยในการส่งสินค้าไปยังกลุ่มประเทศสงคราม ภาวะฟองสบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ และภาวะหนี้เสีย ของสหรัฐอเมริกาที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย ในขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนจะยังคงผันผวน ส่วนปัจจัยบวกที่เชื่อว่าจะทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยดีขึ้นในปีหน้า คือภาคการท่องเที่ยว การลงทุนภาคเอกชนที่รัฐบาลชักชวนเข้ามามากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อสถานการณ์เงินฝากของประชาชน



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/DSJ1aonApLQ

คุณอาจสนใจ