เลือกตั้งและการเมือง

'เพื่อไทย' แถลงข่าว 11 พรรคร่วมรัฐบาล ปัดตอบใครนั่งเก้าอี้ไหน 'ชลน่าน' ยันลาออกแน่ รอตั้ง รบ.เสร็จ

22 ส.ค. 2566

199 views

วานนี้ (21 ส.ค.) พรรคเพื่อไทย นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค / นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค และ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค นำพรรคการเมืองรวม 11 พรรค จำนวน 314 เสียง ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล ที่อาคารรัฐสภา


บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มี หัวหน้าพรรคเข้าร่วมพร้อมเพรียง อาทิ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย / นายวราวุธ ศิลปาอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา และ ที่น่าสนใจถือเป็นครั้งแรก ที่พรรคพลังประชารัฐ ได้เปิดตัวเข้าร่วมอย่างเป็นทางการ โดยมีนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรค / ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค และ นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ขณะเดียวกันพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็มี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค และนายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค เข้าร่วมหารือและมาร่วมนั่งแถลงข่าวด้วยเช่นกัน


โดย นพ.ชลน่าน ได้นำอ่านแถลงการณ์ ย้ำจุดยืนของพรรคร่วมรัฐบาล จะไม่มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ ไม่มีพรรคก้าวไกลเข้าร่วมรัฐบาล พร้อมได้มีมติร่วมกัน เสนอชื่อ “นายเศรษฐา ทวีสิน” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยต่อรัฐสภา เพื่อให้ความเห็นชอบเป็นนายกรัฐมนตรี ในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาวันนี้ (22 ส.ค.66)


นอกจากนี้ยังพูดถึง โควตารัฐมนตรี ซึ่งพรรคเพื่อไทย (141 ที่นั่ง) ทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการ 8 กระทรวง/ รัฐมนตรีช่วย และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีรวม 9 ตำแหน่ง

พรรคภูมิใจไทย (71 ที่นั่ง) ทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการ 4 กระทรวง และรัฐมนตรีช่วย 4 ตำแหน่ง

พรรคพลังประชารัฐ (40 ที่นั่ง) ทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการ 2 กระทรวง และรัฐมนตรีช่วย 2 ตำแหน่ง

พรรครวมไทยสร้างชาติ (36 ที่นั่ง) ทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการ 2 กระทรวง และรัฐมนตรีช่วย 2 ตำแหน่ง

พรรคชาติไทยพัฒนา (10 ที่นั่ง) ทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการ 1 กระทรวง

พรรคประชาชาติ (9 ที่นั่ง) ทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการ 1 กระทรวง

และพรรคอื่นๆอีกจำนวน 5 พรรค ได้แก่ พรรคชาติพัฒนากล้า 2 ที่นั่ง / พรรคเพื่อไทยรวมพลัง 2 ที่นั่ง / พรรคเสรีรวมไทย 1 ที่นั่ง / พรรคท้องที่ไทย 1 ที่นั่ง / พรรคพลังสังคมใหม่ 1 ที่นั่ง


โดยพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ได้เชิญหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรคหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายของแต่ละพรรคมาตกลงเรื่องการร่วมมือและแบ่งงานกันทำ โดย “ทุกพรรคบรรลุข้อตกลงร่วมกันจะนำนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่หาเสียงไว้เป็นนโยบายหลักในการบริหารประเทศ เช่น digital wallet , ที่ดินทำกิน, ขึ้นค่าแรงขึ้นต่ำ 600 บาทภายในปี 2570, เงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท, เกณฑ์ทหารโดยสมัครใจ, เพิ่มราคาพืชผลเกษตร, แก้ปัญหาความขัดแย้งและสร้างสันติภาพที่ยั่งยืนในจังหวัดชายแดนภาคใต้, กัญชาทางการแพทย์และสุขภาพ และจะแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ และยังคงไว้ในส่วนของหมวดที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์”



นายชลน่าน แถลงการณ์ในนามพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ว่า ขณะนี้ปัญหาเศรษฐกิจเป็นปัญหาสำคัญลำดับแรกที่ต้องเร่งแก้ไขเพราะประชาชนกำลังเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวเราไม่อาจจะทอดเวลาไปมากกว่านี้ หรือจำนนต่อสถานการณ์ขัดแย้งที่ประเทศและประชาชนตกอยู่ในวงล้อมที่เสียโอกาสไปทุกขณะ


“การตัดสินใจของพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้อยู่บนฐานความรับผิดชอบต่อประชาชนในสถานการณ์ที่ปัญหาทุกด้านส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่องรุนแรง แม้พรรคเพื่อไทยจะเผชิญกับวาทกรรมหรือคำกล่าวหาที่รุนแรงตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเรารับรู้ความขัดแย้งดังกล่าวด้วยใจที่เป็นธรรม และตั้งใจมุ่งสู่เป้าหมายที่จะก้าวข้ามความขัดแย้ง ดังนั้นเป้าหมายหลักในวาระนี้คือการเข้ามาร่วมรับผิดชอบในวาระประเทศและวาระของประชาชน”


นอกจากนี้เป้าหมาย คือ การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อย่างสร้างสรรค์ พรรคเพื่อไทยมั่นใจว่า “ภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย ถึงแม้จะมีอดีตพรรคการเมืองในรัฐบาลที่แล้วร่วมรัฐบาล แต่ทุกพรรคจะร่วมกันทำงานกับพรรคเพื่อไทยอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ดังเช่นที่ทุกพรรคการเมืองได้เคยร่วมงานกันมาตั้งแต่สมัยไทยรักไทย พลังประชาชน และเพื่อไทย” และพรรคร่วมรัฐบาลจะใช้โอกาสนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างความรักสามัคคีปรองดองของคนในชาติ และจะร่วมกันสร้างความเจริญก้าวหน้าให้กับประเทศชาติและประชาชนต่อไป

-------------

เมื่อวานนี้ (21 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศภายหลังแถลงการณ์จัดตั้งรัฐบาล 11 พรรค 314 เสียง ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถาม โดยเฉพาะเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะแก้ไขทั้งฉบับ หรือจะแก้เฉพาะบางมาตรา นพ.ชลน่าน กล่าวว่า แก้ไขเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยมี สรร. ซึ่งเป็นแนวทางที่เราได้แถลงไป ซึ่งมีความชัดเจนในแถลงการณ์ไว้ว่าจะไม่แตะหมวด 1 และหมวด 2


เมื่อถามว่าการแบ่งเก้าอี้รัฐมนตรี มีใครได้กระทรวงอะไรบ้าง นพ.ชลน่าน กล่าวว่า จากที่เราแถลงการณ์ได้ดำเนินการกำหนดสัดส่วนไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนรายละเอียดของตัวรัฐมนตรี พรรคการเมืองแต่ละพรรคจะต้องไปดำเนินการ ซึ่งเราได้คุยกัน เป็นที่ตกลงและยอมรับซึ่งกันและกัน แต่ไม่สามารถบอกตรงนี้ได้ เพราะจะต้องนำรายชื่อไปตรวจสอบคุณสมบัติ และต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ


เมื่อถามถึงท่าที สว. ที่จะโหวตนายกฯให้นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย มีความมั่นใจเพียงไร นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ขณะนี้เราได้ดำเนินการที่จะแสวงหาคะแนนหรือการตัดสินใจที่จะลงคะนนให้กับแคนดิเดตนายกฯของเราคือนายเศรษฐา ซึ่งคณะทำงานดำเนินการเรื่องนี้ แต่อยู่ในขั้นที่เรามั่นใจ พึงพอใจในจำนวนที่เราจะได้รับ วันนี้ (22 ส.ค.) ไม่มีปัญหาแน่นอน


เมื่อถามถึงกรณีพรรคร่วมรัฐบาลที่ก่อนหน้านี้เคยคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เชื่อมั่นว่าในครั้งนี้จะแก้ไขได้ทั้งฉบับหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นคำถามที่ลงลึกในรายละเอียด ซึ่งขณะนี้พรรคร่วมคุยกันในหลักการ ส่วน สสร.จะมาเท่าไหร่ ต้องลงในรายละเอียดอีกที แต่จะเป็นวาระแรกที่เราจะทำคู่ขนานกับการแก้ไขเศรษฐกิจ


เมื่อถามถึงข้อกังวลเกี่ยวกับการโหวตนายกฯ เนื่องจากนายเศรษฐาโดนกล่าวหา และมีการนำเสนอให้มาแสดงวิสัยทัศน์ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า การแสดงวิสัยทัศน์ของแคนดิเดตนายกฯ เรายึดถือรัฐธรรมนูญและข้อบังคับสภาเป็นหลัก โดยหน้าที่ของสมาชิกมีหน้าที่เลือกบุคคลที่ไม่มีคุณลักษณะต้องห้ามตามที่พรรคการเมืองเสนอไว้ ซึ่งในการพิจารณาคัดเลือกสมควรเป็นนายกฯของพรรคเพื่อไทย ได้ผ่านกลั่นกรองการพิจารณามาอย่างถี่ถ้วน


เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร ยังไม่มีการลาออก แต่มาจับมือกับพรรคลุงอยู่ จะเป็นปัญหาหรือไม่ และ นพ.ชลน่าน ต้องลาออกจากหัวหน้าพรรคหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งทางพรรคพลังประชารัฐคงจะตอบคำถามถึงความชัดเจน


เมื่อถามว่า มีแผนจะเปลี่ยนตัวแคนดิเดตนายกฯจากนายเศรษฐาหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่มีแผน เรามั่นใจว่าผ่าน

--------------
วานนี้ (21 ส.ค.) ภายหลังแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลและให้สัมภาษณ์ในวงสื่อมวลชน นพ.ชลน่าน ศรีแก้วหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระหว่างเดินออกจากวงแถลงข่าว ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า พรรคเพื่อไทยจะชี้แจงอย่างไรในการดึงพรรค 2 ลุงร่วมรัฐบาล


นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่ต้องชี้แจง เพราะในแถลงการณ์ก็ชัดอยู่แล้ว เรามีความจำเป็นที่ต้องเอาพรรคพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติมาร่วมรัฐบาล เหตุผลสำคัญที่สุดก็คือซีกเรา 312 เสียงเดิม โดยมีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้


เหตุผลที่เราต้องเอา 2 พรรคนี้มา เพื่อให้จัดตั้งรัฐบาลให้ได้ ถ้าไม่เอามาจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้แน่นอน และเหตุการณ์ที่จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ แน่นอน อะไรจะเกิดอะไรขึ้น เราไม่คาดการณ์ อาจจะเป็นผลร้ายต่อประเทศได้ ฉะนั้น เราจึงทำในสิ่งที่เราเห็น และมุ่งมั่นทำให้กับประเทศและพี่น้องประชาชน จึงต้องมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งให้ได้ โดยมีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพราะฉะนั้นขอให้ตัดประเด็นที่พรรคเพื่อไทยจะเป็นแนวร่วม ได้เลยเป็นนั่งร้านให้กับพรรคอื่น ตัดไปได้เลย


ส่วนคำถามที่ตนจะลาออกหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า “ผมตั้งใจที่จะประกาศความรับผิดชอบเรื่องนี้อยู่แล้ว ไม่ปฏิเสธว่าจะไม่ลาออกนะครับ ยินดีลาออกแน่นอน แต่ภารกิจการทำหน้าที่หัวหน้าพรรคมันเป็นกรรมการบริหารพรรคที่จัดตั้งรัฐบาลในส่วนพรรคเพื่อไทยให้สำเร็จ วันที่เสนอชื่อในส่วนคณะรัฐมนตรีหรือรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยเสร็จ ผมประกาศอย่างเป็นทางการทันที”


เมื่อถามว่าจะลาออกจากการเป็น สส. ด้วยหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตนประกาศอะไรไว้ ก็รับผิดชอบในสิ่งที่ประกาศไว้


เมื่อถามว่าจะรับตำแหน่งรัฐมนตรีหรือไม่ นพ.ชลน่านไม่ตอบคำถาม


ทั้งนี้ ระหว่างที่ นพ.ชลน่านเดินขึ้นลิฟต์ ได้มีนางสาวจุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ อดีตประธานสหภาพนิสิต นักเรียน นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) ซึ่งเป็นหลานนายเตียง ศิริขันธ์ เสรีไทย โดยตอนนี้เป็นผู้ช่วย สส.พรรคก้าวไกล ได้ตะโกนถามว่า “หมอชลน่าน ลาออกกี่โมง”

-------------


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/yPAqgNkixQo

คุณอาจสนใจ

Related News