ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีมติขึ้นดอกเบี้ยตามคาดอีก 0.25% แตะ 5.0% ชี้ วงจรขึ้นดอกเบี้ยใกล้ยุติ

คณะกรรมการผู้กำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FMOC) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามคาดอีก 0.25% ทำให้อัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯพุ่งขึ้นไปแตะ 4.75-5.0% แล้ว

ซึ่งการปรับขึ้นครั้งนี้ มีขึ้นท่ามกลางความวิตกกังวลถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจและภาคการธนาคาร จนทำให้มีธนาคารในสหรัฐฯต้องล้มลงไปแล้วธนาคาร เช่น ซิลิคอนวัลเลย์ และซิกเนเจอร์แบงก์



อย่างไรตาม เจอโรม เพาเวลส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) กล่าวว่า ขณะนี้ใกล้ที่จะสิ้นสุดวงจรของการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในรอบนี้แล้ว แม้ว่าการต่อสู้กับปัญหาเงินเฟ้อจะยังไม่จบก็ตาม ทั้งนี้ นักวิเคราะห์มองว่า ระดับเงินเฟ้อที่เหมาะสมของเฟดนั้นอยู่ที่ 5.1%



เพาเวลส์ ย้ำว่า เป้าหมายของเฟดยังอยู่ที่การดึงอัตราเงินเฟ้อให้กลับมาที่ระดับเป้าหมายที่ 2.0% ซึ่งในปัจจุบัน อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯนั้นอยู่ที่ 6% ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งเพาเวลส์ กล่าวว่า หนทางข้างหน้าในการดึงเงินเฟ้อให้ลงมานั้นอาจยาวนาน และจะเป็นหนทางที่ขรุขระไม่น้อย  




ขณะที่ สถานการณ์ในภาคการธนาคารสหรัฐฯที่ปั่นป่วนไม่น้อย จากการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดนั้น เพาเวลส์ กล่าวว่า ขณะนี้ ระบบธนาคารของสหรัฐฯนั้นเริ่มนิ่ง และเริ่มฟื้นขึ้นแล้ว โดยความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาเป็นผลมาจากจากนโยบายการควบคุมเครดิตในภาคครัวเรือน และภาคธุรกิจในสหรัฐ