เศรษฐกิจ

'สภาพัฒน์' แนะพรรคการเมืองหาเสียง 'เพิ่มเงินสวัสดิการ' ต้องดูว่าทำได้หรือไม่ อย่าลืมเรื่องหารายได้เข้ารัฐ

โดย nattachat_c

3 มี.ค. 2566

82 views

วานนี้ (2 มี.ค. 66) นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ กล่าวถึงเรื่องการหาเสียงของพรรคการเมือง ว่า 


ในส่วนที่พรรคการเมืองจะเพิ่มเงินในสวัสดิการมากขึ้นนั้น ก็เป็นเรื่องของพรรคการเมือง ซึ่งต้องดูความเป็นไปได้ ว่าสามารถทำได้จริงหรือไหม


พี่น้องประชาชนต้องใช้วิจารณญาณ เกี่ยวนโยบายหาเสียงของพรรคการเมือง ว่าจะเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน รวมทั้งมีผลต่อตนเองอย่างไร และมีผลกระทบกับประเทศมากน้อยแค่ไหน ส่วนบัตรสวัสดิการ ก็เป็นโครงการที่ช่วยเรื่องค่าใช้จ่าย ซึ่งก็ช่วยลดภาระต้นทุนค่าใช้จ่ายไปได้บ้าง แต่ไม่ได้ช่วยในแง่การสร้างอาชีพ ที่จะเป็นผลดีในระยะยาว ดังนั้น ก็ควรจะต้องปรับไปดูแลในรายบุคคลเรื่องอาชีพด้วย ไม่เช่นนั้น คนเหล่านี้ก็จะใช้เวลานานกว่าหลุดออกจากระบบได้


ขณะที่ เรื่องนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ปัจจุบันแรงงานในระบบที่ได้ค่าแรงขั้นต่ำนั้นมีเพียง 2 ล้านคนเท่านั้น ที่เหลือเป็นแรงงานต่างชาติ เพราะฉะนั้น การปรับขึ้นค่าแรงนั้น ควรจะเป็นในลักษณะปรับขึ้นตามทักษะมากกว่า แบบนี้ภาคธุรกิจจะรับมือได้


แต่ถ้าขยับตัวค่าแรงขั้นต่ำทั้งระบบ แบบเพิ่มเท่าตัว โดยไม่ดูที่ความสามารถทักษะแรงงานเลย แบบนี้ ก็จะเป็นภาระที่ภาคธุรกิจรับไม่ไหว เพราะต่อไปก็ต้องขยับค่าแรงเริ่มต้นของคนจบปริญญาตรี และจะย้อนกลับมากระทบภาครัฐด้วย


สื่อสารให้ประชาชนเห็นถึงความสำคัญของการจ่ายภาษี เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเห็นถึงความสำคัญมากขึ้น นอกจากนี้ อาจมีการเก็บภาษีอื่นๆ เพื่อรองรับภาระของรัฐ ในแง่ของสวัสดิการที่จะเพิ่มขึ้น  


เรื่องภาษี เช่น ช่วงแรกที่มีโครงการคนละครึ่ง ร้านค้ารายเล็กเข้าร่วมโครงการจำนวนมาก แต่พอมีคนจุดประเด็นเรื่องจะเสียภาษีหากมีรายได้เพิ่ม ร้านค้าก็ยกเลิกเข้าร่วมโครงการ แสดงให้เห็นว่าคนไทยมีความเชื่อผิดๆ ว่าเรื่องภาษีเป็นภูมิแพ้ ซึ่งต้องมีการให้ความรู้ที่ถูกต้องว่า การเสียภาษีคือหน้าที่ ที่คนไทยที่มีรายได้ถึงเกณฑ์ควรทำ


และถ้ากลัวเสียภาษีแล้วนำไปใช้แบบไม่โปร่งใส ประชาชนสามารถช่วยกันมอนิเตอร์ให้การใช้จ่ายงบประมาณคุ้มค่ากับภาษีที่จ่ายไปได้ ทุกวันนี้มีพูดแต่เรื่องว่ารัฐต้องช่วยอะไรบ้าง แต่ไม่ได้พูดเรื่องรายได้ที่จะเข้ารัฐเลย

------------

เมื่อวันที่ 2 มีนาคม นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า สำนักงานเลขาคณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้ส่งคืนร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราภาษีธุรกิจเฉพาะและกำหนดกิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ ฉบับที่… พ.ศ…หรือการจัดเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะจากการขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ (ภาษีขายหุ้น) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) มายังกระทรวงการคลัง เนื่องจากสภาพตลาดทุนไทย ได้ส่งหนังสือคัดค้านการจัดเก็บภาษีหุ้น อาจทำให้ต้องเลื่อนการประกาศบังคับใช้ภาษีขายหุ้นออกไปก่อน


นอกจากประเด็นการทำหนังสือคัดค้านของสภาธุรกิจตลาดทุนไทย หรือ เฟทโก้ แล้ว ยังมีประเด็นการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เนื่องจากเป็นช่วงใกล้ยุบสภา ทำให้รัฐบาล ไม่กล้าตัดสินใจที่จะเสนอร่างกฎหมายเพื่อจัดเก็บภาษีขายหุ้น เนื่องจากมีความกังวลว่าจะกระทบต่อฐานเสียง เพราะเป็นช่วงใกล้เลือกตั้ง

------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/xEEl2GQyRjg

คุณอาจสนใจ

Related News