'บิ๊กตู่' เผยเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มดี เมื่อเทียบกับทุกประเทศในโลก จี้ทุกหน่วยงานหาทางแก้ปัญหาความยากจน

วานนี้ (2 ส.ค. 65) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการเรื่องเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรีได้ติดตามสถานการณ์และตัวเลขทางเศรษฐกิจของประเทศและต่างประเทศ ซึ่งปรากฎภาวะเงินเฟ้อในหลายประเทศทั่วโลก

จึงขอให้ทุกกระทรวงทุกหน่วยงานเร่งดำเนินการตามหน้าที่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในการแก้ปัญหาความยากจน ซึ่งรัฐบาลมีมาตรการเพื่อช่วยเหลือลดภาระค่าใช้จ่ายออกมาหลายมาตรการแล้ว

ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรียังฝากการบ้านไปยังทุกหน่วยงาน ให้ช่วยกันหาแนวทางส่งเสริม และสร้างรายได้ใหม่ๆ ควบคู่กันไปด้วย
-------------

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมตรีว่า ...

กระทรวงการคลัง รายงานสถานการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจไทย ...

• ในปี 66 คาดว่าจะเติบโตได้ 4.2% (จากปี 65 คาดว่าจะเติบโต 3.3%)
• ซึ่งเป็นผลมาจากการบริโภคภาคเอกชน และกำลังซื้อที่เพิ่มมากขึ้น
• รวมทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาไทยมากขึ้นภายหลังจากการเปิดประเทศ (ประเมินว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยในปี 66 จะเพิ่มขึ้นเป็น 19 ล้านคน ขณะที่ปีนี้อยู่ที่ราว 6 ล้านคน)

ยืนยันรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อปัญหาเศรษฐกิจระดับจุลภาคของประเทศ โดยเฉพาะค่าครองชีพประชาชน ซึ่งประชาชนยังมีรายได้น้อยอยู่ โดยรัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องค่าครองชีพประชาชนและธุรกิจบางกลุ่มที่เปราะบาง ตลอดจนผู้มีรายได้น้อยซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่รัฐบาลให้ความสำคัญโดยเร่งด่วนและการจะหามาตรการในการดูแลช่วยเหลือต่อไป 

นายกรัฐมนตรียังได้ติดตามผลการดำเนินงานนโยบายของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีที่ได้มีการสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการ ทั้งเรื่องนโยบายเร่งด่วน ....

• การลดอัตราภาษีน้ำมันดีเซล 5 บาทต่อลิตร เป็นเวลา 2 เดือน
• การจัดสรรที่ดินทำกินให้กับเกษตรกรมากกว่า 1 หมื่นราย
• การประกันภัยข้าวนาปี จำนวน 29 ล้านไ
• การส่งเสริมการลงทุนใน EEC ซึ่งขณะนี้มีผู้ขอรับการส่งเสริมการลงทุนแล้ว 183 โครงการ มูลค่าเกือบ 1 แสนล้านบาท
  

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้รับทราบการรายงานภาวะและแนวโน้มเศรษฐกิจไทยประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2565 ในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งสถานการณ์เศรษฐกิจมหาภาคของประเทศมีแนวโน้มทิศทางที่ดี เมื่อเทียบเคียงกับทุกประเทศในโลก 

พร้อมย้ำว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ 3.3 ในปี 2565 และร้อยละ 4.2  ในปี 2566 เกิดจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมทั้งการฟื้นตัวของการบริโภคภาคเอกชนและกำลังซื้อของกลุ่มรายได้สูง ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยมีโอกาสขยายตัวสูงกว่าที่ประเมินไว้จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติและการฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศดีกว่าที่คาดการณ์

สำหรับอัตราเงินเฟ้อคาดว่าปีนี้จะอยู่ที่ 6.2% ซึ่งเป็นภาวะที่หลายประเทศทั่วโลกยังเผชิญกับอัตราเงินเฟ้อสูง ส่งผลถึงราคาพลังงาน และส่งผ่านไปยังต้นทุนราคาสินค้าต่างๆ ในขณะที่คาดว่าปี 66 อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ระดับ 2.5%

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/a63bFMjIjtM