อาหารตามสั่งขยับขึ้น 5 บาท รับแก๊สหุงต้มขึ้นราคา เป็นถังละ 333 บาท เริ่ม 1 เม.ย.65

จากการที่คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ได้เห็นชอบตรึงราคาก๊าซ LPG ไว้ที่ 318 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2563 เป็นต้นมา

กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้จ่ายเงินชดเชยก๊าซ LPG รวมแล้วเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 22,614 ล้านบาท ส่งผลให้ปัจจุบันฐานะกองทุนน้ำมันฯ ในส่วนของบัญชีก๊าซ LPG ติดลบสูงถึง 28,093 ล้านบาท ซึ่งหากปัจจุบันไม่มีการอุดหนุนราคาก๊าซ LPG จะอยู่ที่ 463 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม จึงมีมติเห็นชอบให้ทยอยปรับขึ้นราคา LPG 3 ครั้ง

โดยปรับขึ้นเดือนละ 1 บาทต่อกิโลกรัม ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 ทำให้ราคาขายปลีก จะปรับเป็น 333 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม

ขณะที่วานนี้ ( 31 มี.ค.) ร้านอาหารตามสั่งร้านนี้ ซึ่งอยู่ข้างๆ ช่อง 3 ประกาศปรับราคาอาหารทุกเมนู ขึ้นเมนูละ 5 บาท ตั้งแต่วันนี้ (1 เม.ย.) เป็นต้นไป เนื่องจากแก๊สหุงต้ม ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในต้นทุนหลักในการประกอบอาหาร ปรับราคาขึ้น 15 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ยังไม่รวมค่าขนส่ง ที่บวกเพิ่มตามระยะทาง ซึ่งเป็นการซ้ำเติมปัญหาต้นทุน ที่ยังสูงทุกตัว โดยเฉพาะเนื้อหมู ที่ราคากลับมาอยู่ในช่วงขาขึ้นอีกครั้ง

จากผลกระทบราคาอาหารสัตว์ที่สูงขึ้น ขณะที่ไข่ไก่ ราคาขายปลีกวันนี้ เพิ่มขึ้นแผงละ 5 บาท ส่วนน้ำมันปาล์มก็ยังสูง วันนี้ราคาพุ่งทะลุ 69 บาทต่อขวด 1 ลิตร แซงหน้าน้ำมันถั่วเหลือง ที่ปกติจะแพงกว่าน้ำมันปาล์มไปเป็นที่เรียบร้อย

ส่วนราคาผักก็เริ่มสูงขึ้น เช่น ผักชี วันนี้ปรับขึ้นราคา 10 บาท จาก 70-80 บาท เป็น 80-90 บาทต่อกิโลกรัม โดยสาเหตุที่ทำให้ผักราคาสูงขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด สลับกับมีพายุฝนในพื้นที่แหล่งเพาะปลูก ส่งผลให้ผลผลิตบางส่วนเสียหาย และออกสู่ตลาดน้อยลง ส่วนมะนาว ไม่ต้องพูดถึง ล่าสุดราคากระสอบละ 500 บาทแล้ว และจะเพิ่มสูงขึ้น อีกในเดือนเมษายนนี้

แม้แต่กล่องโฟม สำหรับใส่อาหาร ก็ปรับขึ้น ทำให้แบกรับภาระต้นทุนต่อไปอีกไม่ไหว ซึ่งก็ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคทันที โดยเฉพาะกลุ่มหาเช้ากินค่ำ ที่ช่วงนี้ รายได้ลดลง หรือ แม้แต่กลุ่มมนุษย์เงินเดือน ที่เงินเดือนไม่ขึ้น บางรายโดนลดเงินเดือนลงด้วย แต่ค่าใช้จ่ายสูงขึ้นสวนทาง โดยพ่อค้า-แม่ค้า มองว่า หากรัฐบาลควบคุมราคาแก๊สและน้ำมันปาล์มได้ ก็จะช่วยบรรเทาความเดือร้อนของประชาชนได้มาก

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/k8topDLoaRs