เศรษฐกิจ

หนี้เสียพุ่ง! เครดิตบูโรเผย ลูกหนี้จ่ายหนี้ตะกุกตะกัก 1.9 แสนใบ หลังปรับเกณฑ์ชำระขั้นต่ำเป็น 8%

โดย nicharee_m

8 พ.ค. 2567

710 views

ผู้จัดการใหญ่เครดิตบูโร เผยข้อมูล แค่ 3 เดือนแรก หลังการปรับการจ่ายชำระหนี้ขั้นต่ำของบัตรเครดิต เพิ่มเป็น 8% หนี้เสียโตก้าวกระโดด โดยหนี้ที่กำลังจะเสีย พบว่า มีจำนวนบัตรที่ชำระหนี้ได้แบบตะกุกตะกัก ติดๆ ขัดๆ มากถึง 1.9 แสนบัตร จำนวนเงิน 1.2 หมื่นล้านบาท เติบโตถึง 32.4%

นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือ เครดิตบูโร โพสผ่านเฟสบุ๊ก Surapol Opasatien เปิดเผยข้อมูลไตรมาสที่ 1/67 เกี่ยวกับสินเชื่อบัตรเครดิต จากฐานข้อมูลสถิติที่ไม่มีตัวตนของเครดิตบูโร พบว่า

1. ตั้งแต่ต้นปี 2567 การจ่ายชำระหนี้ขั้นต่ำของบัตรเครดิตจะต้องเริ่มต้นที่ 8% จากเดิมที่ผ่อนผันในช่วงการระบาด covid-19 ที่กำหนดไว้ 5%

2. มีคำถามมาตลอดว่าถ้ากติกาใหม่ออกมาจะทำให้หนี้เสียหรือ NPLs กระโดดมั้ย จะทำให้หนี้กำลังจะเสียหรือ SM กระโดดมั้ย

3. ตัวเลข ณ มีนาคม 2567 ยอดหนี้บัตรเครดิตทั้งหมด 24 ล้านใบ เป็นเงิน 5.5 แสนล้านบาท เติบโต 3.2%yoy ถ้าเทียบจากสิ้นปี 2566 หดตัว 5.1%qoq อันนี้ก็พอทราบไม่มีอะไรแปลกใจ

4. ตัวเลขบัญชีสินเชื่อบัตรเครดิตที่เป็น NPLs ค้างเกิน 90 วัน มีจำนวนประมาณ 1 ล้านบัตรเศษ คิดเป็นยอดเงิน 6.4 หมื่นล้านบาท เติบโต 14.6%yoy อันนี้เริ่มไม่สบายใจแล้วครับ

5. พอมาดูยอดหนี้ที่เป็น SM หรือ หนี้ที่กำลังจะเสีย พบว่า มีจำนวนบัตรที่ชำระหนี้ได้แบบตะกุกตะกัก ติดๆ ขัดๆ มากถึง 1.9 แสนบัตรครับ จำนวนเงิน 1.2 หมื่นล้านบาท เติบโตถึง 32.4%yoy มาถึงตรงนี้เริ่มตาโตแล้วครับว่า แค่สามเดือนแรกของการปรับเพิ่มยอดชำระขั้นต่ำ ทำไมมันเกิดการกะโดดใน SM ตามต่อไปดูว่าแล้วมันโตจากปลายปี 2566 เท่าใดก็พบว่าเติบโตถึง 20.6 qoq ถ้าเป็นอย่างนี้ก็ต้องบอกว่าเป็นอะไรที่ต้องระวังว่ามันจะไหลเพิ่ม ไหลแรงกว่าเดิมหรือไม่

นอกจากปัญหาค่าครองชีพแล้ว รายได้ไม่ฟื้นตัว เปราะบางจนนุ่มนิ่ม มันสะท้อนแล้วว่าชำระหนี้สินเชื่อนี้ได้ลำบากมากขึ้น และเมื่อเข้าไปดูในรายละเอียด พบว่า บัตรเครดิตที่เป็น SM จำนวนเกือบสองแสนใบนั้น เป็นบัตรที่เปิดมานไม่เกิน 2 ปี มีจำนวน 3.6 หมื่นบัตร อยู่ในมือคน Gen Y จำนวน 2.3 หมื่นบัตร เปิดมามากกว่า 2 ปี แต่ไม่เกิน 4 ปี มีจำนวน 3.9 หมื่นบัตร อยู่ในมือ Gen Y 2.7 หมื่นบัตร Gen X 9.2 พันบัตร เปิดมามากกว่า 4 ปี แต่ไม่เกิน 6 ปีมี 4.5 หมื่นบัตร อยู่ในมือคน Gen Y 3 หมื่นบัตร Gen X 1.2 หมื่นบัตร

คำถามตัวโตๆ คือ หนี้ SM จะไหลต่อเป็น NPLs อีกเท่าใด การกำหนดให้ชำระหนี้ขั้นต่ำเพิ่มขึ้นจาก 5% เป็น 8% และ 10% ตามลำดับ มันช่วยแก้ปัญหาหนี้ได้จริงๆ ตามเป้าประสงค์มาตรการหรือไม่ ความจริงคนเรามีบัตรเครดิตได้หลายใบ การเพิ่มอีก 3% ของยอดหนี้ในแต่ละใบ คนไม่เคยเป็นหนี้อาจนึกไม่ออกว่าจะหมุนหาจากไหนไปจ่ายได้ และประการสุดท้ายค่าใช้จ่ายทั้งหลายมันเริ่มเพิ่มอย่างชัดเจนเช่น ไข่ไก่ ผักบางชนิด น้ำมันก็เริ่มขยับ เป็นต้น

การท่องตำราแก้ปัญหากับการท่องยุทธจักรแบบเดินเผชิญสืบ มันใช้ใจที่ต่างกัน ตัวอย่างเรื่องนี้คือหนังชีวิตจริง แต่ถ้ามองเป็นหนังอานิเมะ มันก็อาจผิดเพี้ยน ต้องกลับมาดูกันเพราะแค่ 3 เดือน กลิ่นมันแรงแบบโตขึ้น 32.4%yoy 20.6%qoq มันไม่ธรรมดานะครับ

ตั้งโจทย์ผิด แต่ตอบโจทย์ที่ผิดได้ถูก ผลลัพธ์ผลผลิตมันจะผิดเพี้ยนไปหรือไม่ วันนี้ฝนตกแล้ว ฝนหลังฝุ่นที่ร้อนระอุย่อมสวยงามเสมอ

คุณอาจสนใจ