เศรษฐกิจ

'ชัชชาติ' สั่งศึกษามติ ป.ป.ช.ชี้มูล คดีเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว 'สุริยะ' เชื่อไม่กระทบ 20 บาทตลอดสาย

โดย panwilai_c

13 ก.ย. 2566

37 views

หลังจากคณะกรรมการป.ป.ช. มีมติชี้มูล อดีตข้าราชการกรุงเทพมหานคร 12 คน นำโดยหม่อมราชวงศ์สุขุมพันธ์ บริพัตร อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพ กรณีว่าจ้างบริษัทเอกชนเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งเข้าข่ายเอื้อประโยชน์ให้เอกชนเพียงรายเดียว ทำให้วันนี่ ผู้ว่าฯกทม. สั่งศึกษารายละเอียดให้ชัดเจนอีกครั้ง



นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. เปิดเผยว่าได้สั่งให้ฝ่ายที่รับผิดชอบ ศึกษาเนื้อหา รายละเอียดอย่างรอบคอบแล้ว ในกรณีที่เมื่อวานนี้ องค์คณะไต่สวนชุดใหญ่ ป.ป.ช. หรือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุ

จริตแห่งชาติ ชี้มูลความผิด หม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร อดีตผู้ว่าฯกทม. พร้อมพวกรวม 12 คน ว่าจ้าง บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC เดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยาย 3 เส้นทาง จากเดิมจะสิ้นสุดอายุสัมปทานในปี 2572 แต่ กทม.ต่ออายุสัมปทานให้อีก 13 ปี คือไปจนถึงปี 2585 มูลค่า 1.9 แสนล้านบาท ซึ่งอาจจะผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิด เกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ เป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่ BTSC เพียงรายเดียว



โดยนายชัชชาติ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตรวสอบเบื้องต้นพบว่า 12 คนที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ไม่พบว่ามีผู้ใดยังทำงานที่ กทม. เพราะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดนานกว่า 10 ปีแล้ว



ส่วนประเด็นว่าในอนาคต จะมีผลต่อการตัดสินใจ ต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวหรือไม่นั้น นายชัชชาติระบุว่ากรรมาธิการวิสามัญ ของสภากทม.กำลังพิจารณา แต่ส่วนตัวนายชัชชาติ เข้าใจว่าป.ป.ช.ชี้มูลความผิด เฉพาะสัญญา 1 ไม่ได้พูดถึง ส่วนต่อขยาย 2 ดังนั้น กทม.ต้องกลับไปศึกษาให้รอบคอบ เพราะกระบวนการ ป.ป.ช.ยังไม่ได้ยุติ เป็นเพียงการชี้มูล ที่จะต้องสู้คดีในชั้นศาล



ขณะที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ตอบคำถามผู้สื่อข่าว กรณีถามว่า ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด อดีตผู้ว่าฯ" สุขุมพันธ์ บริพัตร " และ ผู้บริหารบีทีเอส คดีจ้างเดินรถไฟฟ้า "สายสีเขียว จะส่งผลต่อการพิจารณา นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายหรือไม่ โดยนายสุริยะ ระบุว่า หากผู้บริหารบีทีเอสถูกชี้มูล ก็จะมีผู้บริหารรักษาการแทน ที่สามารถส่งเจ้าหน้าที่กระทรวง พูดคุยหารือกันได้ และระบุว่าได้ให้ฝ่ายกฎหมายของกระทรวงศึกษารายละเอียดให้ชัด แต่ได้รับรายงานว่าไม่กระทบต่อนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายของรัฐบาล



สำหรับมติดังกล่าว เป็นการประชุมคณะไต่สวนชุดใหญ่ ป.ป.ช.เมื่อวานนี้ เพื่อพิจารณาว่าการกระทำของอดีตผู้ว่าฯกทม.และพวก เป็นการกระทำที่หลีกเลี่ยงและไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ หรือ พ.ร.บ.ฮั้ว หรือไม่ และอาจจะผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ เป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่ BTSC เพียงรายเดียวหรือไม่ ซึ่งเดิมมีผู้ถูกกล่าวหา 13 ราย แต่เสียชีวิตแล้ว 1 ราย จึงเหลือผู้ถูกกล่าวหา 12 ราย ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องในขณะนั้นคือ



1. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่า กทม.

2. นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯกทม.

3. นายประพันธ์พงศ์ เวชชาชีวะ ประธานกรรมการ บริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด

4. นายอมร กิจเขวงกุล กรรมการบริษัท กรุงเทพธนาคม

5. นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ปลัดกทม.

6. นางนินนาท ชลิตานนท์ รองปลัด กทม.

7. นายจุมพล สำเภาพล ผอ.สำนักการจราจรและขนส่ง

8.นายธนา วิชัยสาร ผอ.สำนักการจราจรและขนส่ง

9. นายคีรี กาญจนพาสน์ กรรมการบริษัท ระบบขนส่งมลชนกรุงเทพ จำกัด มหาชน

10. นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ จำกัด มหาชน

11.บริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด ผู้รับจ้างในโครงการ ตามสัญญาที่เกี่ยวข้องนี้ และ

12. บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ จำกัด ผู้ให้บริการในสัญญาที่เกี่ยวข้องนี้



การประชุมดังกล่าวองค์คณะไต่สวน ป.ป.ช. มีมติ 3 ต่อ 3 เสียง เห็นว่าผู้ถูกกล่าวหา มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 , 157 , 83 และ พ.ร.บ.ฮั้ว แม้จะเสียงเท่ากัน แต่ถือว่าเข้าข่ายความผิด ผู้ถูกกล่าวหายังมีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลได้ จากนี้ไป ป.ป.ช.จะส่งสำนวนการไต่สวนให้อัยการสูงสุด เพื่อพิจารณาคดีอาญาต่อไป ส่วนการลงโทษทางวินัยกับผู้กี่ยวข้อง จะต้องให้ผู้บังคับบัญชามีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนต่อไป

คุณอาจสนใจ