เศรษฐกิจ

DSI ค้น 15 จุด อายัดหลักฐาน-ทรัพย์สินกว่า 100 ล้าน คดีหุ้น STARK พร้อมเปิดเบื้องหลังแผนตกแต่งบัญชี

โดย panwilai_c

7 ก.ค. 2566

637 views

วันนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ แถลงความคืบหน้าการติดตามคดี พิเศษที่ 57/2566 หรือคดีหุ้น STARK ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต.ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษกับดีเอสไอไว้ ให้ติดตามเอาผิดทั้งบุคคลและนิติบุคคล รวม 10 ราย



โดยล่าสุด ดีเอสไอ นำหมายค้นเข้าตรวจสอบและอายัดหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรม พร้อมอายัดทรัพย์สินรวมกว่า 100 ล้านบาท พร้อมกับออกหมายจับ 1 ราย ที่มีพฤติกรรม หลบหนีส่วนที่เหลือได้ออกหมายเรียกให้ไปพบพนักงานสอบสวนดีเอสไอแล้ว



กรมสอบสวนคดีพิเศษ เผยแพร่ภาพการนำหมายค้นเข้าตรวจค้นและเก็บหลักฐานผู้เกี่ยวข้องในกรณีหุ้นบริษัท STARK ที่ดำเนินการเมื่อวานนี้ โดยเจ้าหน้าที่ชุดที่เดินทาง ไปบริษัทสตาร์ค นำโดยรองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งระหว่างการนำหมายศาลเข้าไปตรวจค้น ได้มีการสอบถามข้อมูลที่เกี่ยวข้องในลักษณะคล้ายการประชุม และจากภาพที่เผยแพร่ ก็ปรากฎว่าพนักงานบริษัททำงานตามปกติ



ภาพชุดที่ 2 ที่ดีเอสไอเผยแพร่ เป็นการนำหมายค้นเข้าค้นบริษัทเอเชีย แปซิฟิก ดริลลิ่ง เอนจิเนียริ่ง จำกัด จากภาพชุดนี้ จะมีเห็นว่ามีเจ้าหน้าที่ จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ร่วมเก็บหลักฐานด้วย การตรวจสอบที่นี่ มีทั้งการสอบถามเจ้าหน้าที่ และเน้นไปที่เอกสารที่จะเป็นหลักฐาน เพราะบริษัทเอเชีย แปซิฟิก ดริลลิ่งฯ นี้ ไม่ใช่บริษัทลูกของบริษัท STARK ซึ่งคนในกลุ่มนี้เรียกว่า Non stark แต่มีนัยยะสำคัญตรงที่ มีเงินจากบริษัทนี้หมุนเวียน ลักษณะโอนไป และกลับ ไปยังกลุ่มบริษัทสตาร์ค และนัยยะสำคัญที่สองคือ ทั้งบริทเอเชีย แปซิฟิก ดริลลิ่ง กับสตาร์ค มีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นคนเดียวกัน



ภาพที่ชุดที่ 3 คือการเข้าค้นบริษัท เฟล์ท ดอร์ด และเอ็ม เอ็ม โลจิสติก ซึ่งเป็นธุรกิจหลักที่อยู่ในกลุ่มสตารค์ เจ้าหน้าที่ได้เรียกตรวจยึดเอกสารหลักฐานหลายรายกาทีนี่



ขณะที่ภาพชุดที่ 4 เป็นการนำหมายค้นเข้าไปตรวจค้นบ้านพักของนายชนิทร์ เย็นสุดใจ อดีตประธานกรรมการบริษัท ซึ่งเดิมทีดีเอสไอ ออกหมายเรียกให้เข้าพบ แต่ตอนนี้ พบว่านายชนินทร์ เดินทางออกนอกประเทศปลายทางที่สิงคโปร์ ทำให้ดีเอสไอ ออกหมายจับแล้วเพราะมีพฤติกรรมเชื่อได้ว่าหลบหนี



ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้อายัดรถยนต์ 4 คันของนายชนินทร์ ซึ่งเป็นการอายัดทางทะเบียน เนื่องจากตัวรถไม่อยู่ในที่ตรวจค้น จึงแจ้งให้ผู้ที่ครอบครอง นำไปแสดงต่อดีเอสไอ



ชุดที่ 5 เป็นการเข้าค้นบริษัทไทยเคเบิ้ล อินเตอร์เทค ที่จังหวัดสมุทรสารคร ซึ่งก็เป็นหนึ่งในบริษัทลูกในเครือของ STARK



และภาพชุดที่ 6 เป็นการเข้าค้นที่บริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ ที่เป็นส่วนงานผลิตสายไฟของกิจการนี้ และภาพชุดที่ 7 เป็นการเข้าค้นที่คอนโดมีเนียมของผู้เกี่ยวข้อง



รองโฆษกดีเอสไอ เปิดเผยวันนี้ว่าการเข้าค้นดังกล่าว ทำให้เจ้าหน้าที่ได้เอกสารหลักฐานมากขึ้น และจะเดินหน้าสืบสวนโดยเร็ว โดยขณะนี้ได้อายัดทรัพย์สินไปแล้ว 100 ล้านบาท และ ก.ล.ต. ก็ใช้อำนาจตามพรบ. อายัดทรัพย์ผู้ที่เกี่ยวข้องไว้ด้วยจำนวนหนึ่ง พร้อมระงับการเดินทางออกนอกประเทศของบุคคลที่เกี่ยวข้อง ที่ก.ล.ต.ร้องทุกข์ไว้ เป็นเวลา 15 วัน



ขณะเดียวกันดีเอสไอ ออกหมายเรียกทั้งบุคคลและนิติบุคคลอีก 9 ราย ตามที่ ก.ล.ต. แจ้งร้องทุกข์ไว้ ให้มาพบพนักงานสอบสวนดีเอสไอ โดยหลายคนตอบรับที่จะมาพบดีเอสไอ ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป



มีข้อมูลอีกว่า ดีเอสไอจะออกหมายเรียก นางสาวยสบวร อำมฤต ที่เป็นเลขานุการของนายชนินทร์ ให้มาพบพนักงานสอบสวนในสัปดาห์หน้า ในฐานะผู้ต้องหา ซึ่งเลขานุการคนดังกล่าว ถูกระบุว่ารู้ข้อมูลพฤติกรรม การสั่งการของชนินทร์ กรณีที่เกี่ยวข้องกับคำสั่งตกแต่งบัญชี Stark ด้วย

คุณอาจสนใจ