อาชญากรรม

'บิ๊กจ๋อ' เปิดเบื้องหลังล่า 'จ่าเอ็ม' สารภาพรับงานใช้หนี้ผู้มีพระคุณ สังหารอดีต สส.กัมพูชา

โดย passamon_a

5 ชั่วโมงที่แล้ว

60 views

กรณี นายเอกลักษณ์ หรือ เอ็ม กองเรือ อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุยิง นายลิม กิมยา อายุ 73 ปี อดีต สส.ฝ่ายค้านของกัมพูชา เสียชีวิตบริเวณเกาะกลางถนน ตรงข้ามวัดบวรนิเวศ ก่อนจับกุมได้ที่พระตะบอง กัมพูชา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปคุมตัวกลับมาประเทศไทย เมื่อช่วงสาย วันที่ 11 ม.ค.68


โดยภายหลังจากที่ควบคุมตัวนายเอกลักษณ์ หรือ จ่าเอ็ม มาสอบปากคำที่ สน.ชนะสงคราม พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำในเบื้องต้นเป็นเวลานานกว่า 3 ชั่วโมง ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ซึ่งประเด็นหลักที่ผู้ต้องหายังคงกังวลคือเกรงว่าญาติพี่น้องจะรู้เรื่องจากเหตุการณ์นี้ แต่ได้มีการให้พบทนายความและพูดคุยจนกระทั่งนายเอ็มเริ่มผ่อนคลายมากขึ้นจนสามารถให้การกับพนักงานสอบสวนได้บ้างแล้ว


พล.ต.ต.อัฏธพร กล่าวว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ตอนแรกมีความกังวล เครียด ว่าญาติพี่น้องรู้หรือไม่ ช่วงแรกแจ้งว่าเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย แต่เมื่อมาถึง สน.ก็ผ่อนคลาย ได้พบกับทนายความและเขาก็เดินมาประสงค์สมัครใจให้การเอง ก็ให้เขาเล่า เปิดใจให้เขาผ่อนคลาย เป็นประโยชน์กับรูปคดี ค่อนข้างตรงกับกล้องวงจรปิด และพยานหลักฐานที่มี บางประเด็นบอกไม่รู้ เช่นไม่รู้ชื่อจริง รู้แต่ชื่อเล่น และอนุญาตให้เราเข้าถึงข้อมูลทางโทรศัพท์ อธิบายข้อความแชตต่าง ๆ คืออะไร


ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่จ่าเอ็มกังวลเรื่องความปลอดภัย กลัวอะไร พล.ต.ต.อัฏธพร กล่าวว่า เขาไม่รู้ใครเป็นใคร เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ใส่เครื่องแบบ จนได้เจอกับทนายความสักระยะ และให้ของว่าง ให้น้ำทาน เขาไม่กลัว กังวลเพราะไม่รู้ว่าการที่เขาถูกสอบสวน ถูกถามหลายครั้ง ก็ไม่สบายใจ ทนายที่มา ก็เป็นทนายจากกรมคุ้มครองสิทธิ ก็คุยจนให้ความไว้วางใจ


“ให้การเป็นประโยชน์ แต่อยู่ในสำนวน ทำให้การสอบสวนเราง่ายขึ้น เบื้องต้นเขาบอกว่า เขารับงานมาจากบุคคลที่เคยช่วยที่เคยช่วยเขา ผู้มีพระคุณของเขา ไม่ได้รับค่าจ้างตอบแทนใด ๆ ทำเพื่อที่จะเห็นว่ายามเขาเดือดร้อน ถูกออกจากราชการ ก็มีคนนี้สนับสนุน ให้เงินให้ทอง โทรไปปรึกษาก็ได้ทุกครั้ง เมื่อผู้มีพระคุณขอร้องมา ก็ตัดสินใจอยู่สักระยะ จึงรับปาก กะว่าจะทำใช้หนี้บุญคุณ”


เมื่อถามว่า ผู้มีพระคุณเป็นพลเรือน ข้าราชการ หรืออดีตราชการ พล.ต.ต.อัฏธพร กล่าวว่า เป็นพลเรือน ตอนนี้ผู้ต้องหา อดนอน เบื้องต้นสับสนตัวเอง เวลาก็จำไม่ได้ เราใช้ความอดทน และพยายามให้เขาผ่อนคลาย ประเด็นเรื่องการสอบสวน มีความกระจ่างระดับหนึ่ง คงไม่ได้ทั้งหมด เพราะเขาก็เดินทางมา 8-10 ชั่วโมง หลายทอด และกังวล ขนาดว่า คนใกล้ชิดเขาจะมาขอพบ ยังไม่ประสงค์


เขาได้แจ้งว่า 1.ไม่ประสงค์พบใครเลย อยากอยู่คนเดียว เราถามว่าอยากได้นักจิตวิทยาไหม การสอบสวนเราต้องใช้ศิลปะพอสมควร ให้เขาพัก เมื่อให้การเป็นประโยชน์ค่อยสอบปากคำ ผู้ต้องหาให้ความร่วมมืออย่างดี แต่เขาเรียบเรียงเนื้อหาไม่ถูก บางครั้งก็จำผิด ๆ ถูก ๆ เป็นอาการของคนเครียดและพักผ่อนน้อย การทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เขาแจ้งว่าไม่ประสงค์จะทำแผน เนื่องจากไม่อยากพบเจอใคร แต่จะให้คนมาสมบทบาทเป็นตัวเองในการทำแผน ซึ่งยินดีจะเปิดวิดีโอและพูดอธิบาย ก็ให้เขาเรียบเรียง เขาขอพัก สอบได้ไม่นานก็ขอสูบบุหรี่ ขณะนี้ให้พักอยู่


ถามถึงผู้มีพระคุณ ได้พูดคุยกันเมื่อไหร่ ถึงตัดสินใจไปเอาปืนมา พล.ต.ต.อัฏธพร กล่าวว่า ใช้เวลาไม่นาน ประมาณ 24 ชั่วโมง จากคำให้การ ก็สอดคล้องกับข้อมูลในโทรศัพท์และแชตไลน์ ครั้งแรกที่ร้องขอ เขายังไม่รับปาก มีการโทรมาเร้าหรือ ปรากฏข้อมูลในโทรศัพท์ว่ามีจริง ไลน์มา จนเขาตัดสินใจว่าทำครั้งเดียว ใช้หนี้บุญคุณกัน


ถามว่าผู้มีพระคุณ เป็นคนไทยหรือไม่ พล.ต.ต.อัฏธพร ระบุว่า อยู่ในสำนวน ตอบไม่ได้ ส่วนในเรื่องคดีต้องพิสูจน์ต่อไป


พล.ต.ต.อัฏธพร กล่าวว่า จากนี้เราต้องนำคำให้การผู้ต้องหาไปวิเคราะห์ แต่ส่วนหนึ่งตรงกับวัตถุพยาน เราจะเก็บข้อมูลจากโทรศัพท์มาวิเคราะห์ เราไม่เชื่อ แต่เขาประสงค์จะให้การ ข้อมูลที่ได้ก็เป็นเพียงคำให้การผู้ต้องหา ต้องนำไปพิสูจน์อีก


“เขาพูด ๆ และก็หยุดคิด พอถามต่อก็อ้างว่าไม่พร้อม สำหรับข้อมูลของเหยื่อนั้น มีการพิมพ์ไลน์มาบอก เป็นภาษาไทย แต่งตัวอย่างไร พิมพ์ไลน์มาบอก เป็นระยะ ว่าเป้าหมายเป็นแบบนี้ มาอย่างนี้ ออกเดินทางแล้ว ถึงนี่ ๆ”


ถามว่า รู้จักกับชาวกัมพูชาได้อย่างไรนั้น พล.ต.ต.อัฏธพร กล่าวว่า ยังให้การไม่ถึง ให้การไปแล้วพัก บางประเด็นเขาสะดวกใจก็ให้การ บางประเด็นเขาก็ขอไปสูบบุหรี่ พอจะถามแล้วถ้าเขายังไม่เต็มใจ ก็จะขอสูบบุหรี่ก่อน แต่เป็นสิทธิผู้ต้องหาที่จะให้การอย่างไรก็ได้ เจ้าหน้าที่ต้องใช้เทคนิคในการสอบสวนพอสมควร แต่ละประเด็นที่เราอยากสอบ เราก็ไม่ได้ทั้งหมดที่อยากได้เช่นเดียวกัน ต้องไปวิเคราะห์ในมือถือ อย่างอื่นต่อ รวมทั้งเส้นทางการเงิน บางเรื่องก็สอดคล้อง บางเรื่องก็ยังไม่ตรง อาจจะจำไม่ได้ หรือเจตนาให้การไม่ตรง


ผู้สื่อข่าวถามถึงเส้นเงิน พล.ต.ต.อัฏธพร กล่าวว่า เขาให้การมาหมดแล้ว บางอย่างตรงกัน ว่าโอนกี่ครั้ง บางอย่างก็ไม่ตรง


ถามถึงการเดินทางไปกัมพูชา พล.ต.ต.อัฏธพร กล่าวว่า เขาบอกไม่เคยเดินทางไป ให้ข้อมูลว่า จะมีไลน์มาบอกให้ไปตรงนั้น ก็ไปตรงนั้น เป็นไลน์ของคนที่เขาไม่รู้จัก


ทั้งนี้ มีรายงานว่า ครั้งแรกนายเอ็มได้ปฏิเสธ ก่อนจะถูกผู้มีพระคุณพยายามโทรตื๊อจนทำให้นายเอ็มตอบตกลงรับงานในราคา 60,000 บาท และจ่ายมัดจำมาก้อนแรก 30,000 บาท นายเอ็มจึงเอาเงินจำนวนนี้ ไปไถ่ปืนที่จำนำไว้ในราคา 2,000 บาท


โดยพนักงานสอบสวนจะนำตัวนายเอ็มไปขออำนาจศาลอาญา ฝากขังในวันจันทร์ที่ 13 ม.ค.


ต่อมาในเวลา 19.40 น. ทางด้านของ พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ ก็ได้เดินลงมาพร้อมกับแม่ของนายเอ็ม ซึ่งก็ได้มีการเปิดเผยว่า ขณะนี้ก็ยังไม่ได้เจอหน้านายเอ็ม แต่ทางผู้กำกับก็ได้ให้ต่อสายพูดคุยทางโทรศัพท์แทน ซึ่งเบื้องต้นนายเอ็มก็ยอมรับว่ายังไม่อยากเจอหน้าใครจริง ๆ เนื่องจากยังไม่พร้อม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผู้เป็นแม่ก็รู้สึกเบาใจแล้วที่รู้ว่าลูกชายปลอดภัยดี เพราะสิ่งเดียวที่เป็นห่วงก็คือความปลอดภัย


ทีมข่าวพยายามสอบถามถึงผู้มีพระคุณของนายเอ็ม ที่เป็นคนสั่งการให้ก่อเหตุสังหารนายลิมคือใคร แต่ผู้เป็นแม่ก็ยืนยันว่าไม่รู้ และก็ไม่ได้ถามลูกชาย เพราะแม่ห่วงแต่ความรู้สึกกับความปลอดภัยของลูกชายเท่านั้น


ขณะที่ พ.ต.ท.สันธนะ ได้บอกอีกว่า ตนมาเพื่อทำทุกอย่างให้ถูกต้องก็เท่านั้น เนื่องจากการได้พบหน้าผู้ต้องหาเป็นสิทธิ์ของครอบครัว และอีกอย่างตนก็มองว่าแม่เขาก็ไม่ได้มีเจตนาแอบแฝงอะไรนอกเหนือจากการพบหน้าลูกชายก็เท่านั้น โดยผู้เป็นแม่ก็ไม่ได้มีเงินทองอะไรที่จะไปประกันตัวลูกชาย ทุกอย่างจึงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมาย สำหรับเรื่องทนายความนั้นก็ไม่สามารถเปลี่ยนคนได้แล้ว เนื่องจากตอนนี้เข้าสู่ขั้นตอนการสอบปากคำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หากจะเปลี่ยนตัวทนายก็คงต้องรอในชั้นศาลเท่านั้น


ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้มีการสอบถามนายสันธนะนอกรอบ ว่าทำไมนายสันธนะถึงโผล่เข้ามาเกี่ยวข้องกับนายเอ็ม มีความเกี่ยวโยงอะไรกับคำว่าผู้มีพระคุณหรือไม่ นายสันธนะ ยืนยันว่าตนไม่ใช่ผู้มีพระคุณของนายเอ็มอย่างแน่นอน เพราะไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว แต่ที่ตนมาในวันนี้ก็มีจุดประสงค์ให้ผู้เป็นแม่ได้พบหน้าลูกชายก็เท่านั้น


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/be00GSF128w

คุณอาจสนใจ

Related News