หลวงพ่อขอบิณฑบาตแก๊งคอลฯ โทรมาอ้างเป็นจนท.ที่ดิน หวังหลอกซ้ำ หลังสูญไปแล้ว 1.5 แสน

ช่วงเย็น วันที่ 20 ต.ค.66 นายอธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจกล้าที่จะก้าว เข้าพบ พระเอกฉลวย จันชัง อายุ 59 ปี เจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในอำเภอบางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังได้รับการขอความช่วยเหลือจากทางวัด


โดยหลวงพ่อเล่าว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 20 ต.ค.66 มีมิจฉาชีพโทรศัพท์มา อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากสำนักงานที่ดิน โทรมาสอบถามรายละเอียด และจะช่วยประสานงานเรื่องการโอนโฉนดที่ดินจากชื่อพระเอกฉลวย ให้เป็นโฉนดที่ดินของวัดตามที่ได้ยื่นเรื่องไว้กับทางสำนักงานที่ดิน สาขาบางบัวทอง


แต่พระเอกฉลวยจำเสียงของมิจฉาชีพรายนี้ได้ ว่าเป็นคนคนเดียวกับกับที่เคยโทรมาหลอกให้ทำรายการ จนถูกดูดเงินไปเกือบ 1.5 แสนบาท โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา จึงเกรงว่าทางวัดจะถูกหลอกดูดเงินในบัญชีไปอีก จึงร้องขอความช่วยเหลือ ให้ช่วยประสานงานกับสำนักงานที่ดิน สาขาบางบัวทอง เพื่อเร่งรัดการดำเนินการ


พระเอกฉลวย เปิดเผยว่า หลังจากเหตุการณ์ที่ถูกมิจฉาชีพหลอกให้กดลิ้งก์ดูดเงินไปเกือบ 1.5 แสนบาท ตนได้แจ้งความไว้ที่ สภ.บางบัวทอง จากนั้นได้มีการโอนเรื่องไปที่ สอท. แต่จนถึงตอนนี้คดีก็ไม่ได้คืบหน้าอะไร ส่วนสำนักงานที่ดินนั้น ทางหัวหน้าสำนักงานที่ดินบางบัวทองได้เดินทางมาพบอาตมาที่วัด และให้โทรคุยกับรองอธิบดีกรมที่ดิน ซึ่งได้มีการอธิบายว่าไม่ใช่หน่วยงานของกรมที่ดินที่โทรมาหลอก และจะเร่งรัดเรื่องการโอนที่ดินให้ เรื่องผ่านมา 3-4 เดือน


จนกระทั่งมิจาฉาชีพโทรมาอีก ซึ่งอาตมาจำเสียงได้ และพฤติกรรมการหลอกลวงก็เหมือนครั้งก่อน อาตมาไม่ได้กลัวจะซ้ำรอยเพราะรู้กลโกงแล้ว แต่ที่พูดเพราะอยากให้หน่วยงานเกี่ยวข้อง อย่างเช่น ตำรวจจะอยากรู้ไหมว่าเป็นใคร หรือตำรวจจะตั้งรับมิจฉาชีพเฉย ๆ จะทำงานเชิงรุกบ้างไหม อาตมาจึงได้โทรไปหาตำรวจไซเบอร์ที่รับเรื่องนี้ แต่ได้รับคำตอบว่าเขางานเยอะมาก ไม่มีความสามารถพอที่จะตามได้ อาตมาเลยคิดว่าเวรกรรมของคนไทย เพราะต่อไปข้างหน้าคดีแบบนี้จะมีจำนวนมาก แทนที่ตำรวจไซเบอร์จะตามหาคนร้ายที่ทำแบบนี้หรือหาวิธีป้องกัน แต่ไม่ทำ


พระเอกฉลวย กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องกรมที่ดินนั้น ก็ถูกมองว่าข้อมูลหลุดออกไปได้อย่างไร คนร้ายรู้รายละเอียดทั้งหมด เลขที่บ้าน เลขที่โฉนด และรู้ได้อย่างไรว่าอาตมาทำเรื่องค้างไว้กับสำนักงานที่ดิน มันทำให้อาตมากลับมาคิดว่า อาจเป็นไปได้ที่ข้อมูลหลุดจากสำนักงานที่ดิน เรื่องแบบนี้น่าจะต้องบูรณาการร่วมกันทั้งตำรวจ กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ว่าจะทำอย่างไรไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ หรือไม่ทางสำนักงานที่ดินน่าจะทำเรื่องให้กับทางวัดให้แล้วเสร็จ เพราะเรื่องก็นานแล้วก็ไม่เห็นมีอะไรคืบหน้า หัวหน้าสำนักงานที่ดินมาพบอาตมาก็ไม่ได้บอกว่าติดปัญหาอะไร บอกแต่ว่าจะเร่งรัดให้ อาตมาก็ไม่รู้เร่งรัดขนาดไหน จะ 4 เดือนแล้วยังไม่เรียบร้อย


พระเอกฉลวย กล่าวเพิ่มว่า ตอนนี้สิ่งที่อาตมากังวลใจมากคือ ทุกวันนี้ไม่อยากรับโทรศัพท์ เบอร์แปลกก็ไม่อยากรับ อาตมาไม่อยากใช้โทรศัพท์แต่ก็มีเหตุจำเป็นที่ต้องใช้ มีการติดต่อจากญาติโยมที่จะมาปฏิบัติธรรม มาสอบถามเรื่องทำบุญ จะไม่รับ ญาติโยมที่จะมาวัดก็ติดต่อไม่ได้ ถ้าการโอนที่ดินจบอาตมาก็ไม่ต้องกังวล แต่นี่มันนานมาก เอกสารก็ครบแล้ว อำเภอก็มาตรวจสอบแล้ว แต่ก็ยังไม่จบ ยังไม่ดำเนินการโอนให้ จนมาเข้าทางแก๊งคอลเซ็นเตอร์


เรื่องของอาตมาไม่ได้เกิดจากความโลภ มันเป็นเรื่องที่ต้องติดต่อดำเนินการ อาตมาอยากบิณฑบาตแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่าโทรมากวนกันนักเลย เงินที่เอาไปเป็นเงินทำบุญของชาวบ้าน มันจะเป็นบาปเป็นกรรม กับคนทั่วไปถ้าถูกหลอกเขาก็เสียใจเป็นทุกข์ กว่าเขาจะเก็บเงินมาได้ ขอบิณฑบาตเถอะหากินที่สุจริตดีกว่า แล้วก็ฝากบิณฑบาตไปถึงตำรวจ ที่ดิน ให้ช่วยทำหน้าที่ให้รวดเร็ว ทำไมส่วนราชการชอบดึงเรื่องให้ช้า ทั้งที่การทำเรื่องให้เร็วน่าจะเป็นผลงานที่ดี แสดงถึงศักยภาพ นี่มาดึงให้ข้ามเดือน ข้ามปี นี่ยังดีนะไม่ข้ามภพข้ามชาติ


นายอธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจกล้าที่จะก้าว กล่าวว่า อยากฝากถึงกรมที่ดินให้ช่วยเร่งรัดเรื่องการโอนโฉนด เพราะทางพระอาจารย์จะได้หายกังวลกับเรื่องที่ดินที่ค้างคาอยู่ โดยตนได้รับมอบหมายให้นำโฉนดทั้ง 9 ฉบับ ไปประสานงานกับสำนักงานที่ดิน สาขาบางบัวทอง สอบถามว่าติดปัญหาอะไรและเร่งรัดดำเนินการให้กับพระอาจารย์และวัดให้แล้วเสร็จ

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/j7XXi-OUpAI