อาชญากรรม

ย่าวัย 82 เหยื่อแก๊งคอลฯ สูญกว่า 2.5 ล้าน ให้ปากคำตร. ลูกเผยถามตลอดจะได้เงินคืนมั้ย

โดย passamon_a

22 ต.ค. 2566

65 views

คุณย่าวัย 82 ปี เหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สูญเงินกว่า 2.5 ล้าน ให้ปากคำตำรวจ ลูกชายเผย คุณย่าสภาพจิตใจดีขึ้น ถามตลอดจะได้เงินคืนมั้ย ด้านตำรวจรอเอกสารจากธนาคารก่อนออกหมายจับ คาดใช้เวลา 7 วัน


หลังจากรายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ นำเสนอเรื่องราวของ คุณย่าซ่อนกลิ่น อายุ 82 ปี ข้าราชการเกษียณ ที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกโอนเงิน ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย.-18 ต.ค. รวมแล้ว 12 ครั้ง เป็นเงิน 2.58 ล้าน โดยมีโทรศัพท์มาอ้างเป็นไปรษณีย์ที่ภูเก็ต บอกมีพัสดุส่งถึงคุณย่าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ให้คุณย่าไปแจ้งความตำรวจที่ภูเก็ต ซึ่งทางคุณย่าได้ปฏิเสธว่าไปไม่ได้เพราะแก่แล้ว ทางปลายสายก็ได้ดำเนินการตามขั้นตอนของมิจฉาชีพ หลอกให้คุณย่าเข้ากลุ่มไลน์


และเนื่องจากคุณย่าซ่อนกลิ่น ไม่มีแอปฯธนาคารในโทรศัพท์ คนร้ายได้แนะนำให้ไปเปิดแอปฯ ที่ธนาคาร โดยคนร้ายให้คุณย่าไปบอกกับธนาคารว่า ย่าอายุมากแล้ว ไม่สะดวกเดินทางมาธนาคารบ่อย ๆ จึงขอเปิดแอปฯ ปรากฏว่าธนาคารออมสินให้เปิดแอปฯได้ ส่วนธนาคารกรุงไทย ไม่ยอมให้เปิด ต้องพาลูกหลานมาด้วย เมื่อเปิดเสร็จ คนร้ายหลอกว่าจะขอนำเงินที่มีทั้งไปตรวจสอบ ว่าเป็นเงินที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดี และให้โอนเงินไปตามเลขบัญชีที่แจ้งมา พร้อมย้ำว่าห้ามบอกใครทั้งสิ้น


โดยคุณย่าได้ถูกหลอกให้โอนเงิน ซึ่งเป็นการทยอยโอนตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน จนถึงวันสุดท้าย 5 ตุลาคม 2566 มียอดสูงสุดคือวันที่ 16 กันยายน 2566 1 ล้านบาท วันที่ 17 ตุลาคม 2566 150,000 บาท และครั้งสุดท้ายที่โอนคือมีเงินติดบัญชี 1,556.31 บาท คนร้ายหลอกให้โอนยอดนี้ ในวันที่ 5 ตุลาคม 2566 สรุปโอนเงินออกจากบัญชีคุณย่าซ่อนกลิ่นไปบัญชีอื่น 13 บัญชี รวมเป็นเงิน 2,585,153.31 บาท


โดยที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใจเย็น ใช้เวลาหลอกให้คุณย่าซ่อนกลิ่น โอนเป็นเวลาหลายวัน เพราะห้ามไม่ให้บอกใคร เวลาพิมพ์ไลน์ ก็อย่าใช้คำว่าโอนเงิน ให้ใช้คำถ่ายเทมาไว้ที่บัญชีกลาง


หลังจากเกิดเรื่องคุณย่าซ่อนกลิ่นเกิดความเครียด และไม่กล้าบอกใคร จนกระทั่งทางครอบครัวรู้สึกเอะใจ จึงได้มีการสอบถามจนรู้ความจริงว่าถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอก และยิ่งน่าตกใจไปกว่านั้น เมื่อทางลูกหลานมาหาคุณย่าซ่อนกลิ่นที่บ้าน ได้พบจดหมายที่คุณย่าเขียนสั่งเสียเอาไว้ ระบุ "คำสั่งสุดท้ายของแม่" ลงวันที่ 18 ตุลาคม 2566 ข้อความว่า


"ถ้าพรุ่งนี้ ไม่มีลมหายใจแล้ว ให้กู๊ดกับเก่ง เป็นผู้ไปรับเงินช่วยเผาศพ 3 เดือน และเงินอื่นถ้ามี ไม่ต้องจัดพิธีรีตองอะไร เผาที่วัดคลองเตย ติดต่อสำนักงานประถม" แล้วก็เขียนชื่อคนที่ให้ติดต่อ ลงท้ายด้วยคำว่า "จากแม่ซ่อนกลิ่น" โชคดีที่ลูก ๆ มาเห็นก่อน ก่อนที่คุณย่าซ่อนกลิ่นจะคิดสั้น


ความคืบหน้าเมื่อวานนี้ (21 ต.ค.) คุณย่าซ่อนกลิ่น พร้อมลูกชาย เดินทางไปที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน โดยการให้ปากคำก็เป็นไปอย่างทุลักทุเล เพราะห้องพนักงานสอบสวนอยู่ชั้น 3 คุณย่าวัย 82 ปี ต้องค่อย ๆ เดินขึ้นบันได เดินไป พักไป เป็นภาพที่หดหู่ ด้วยวัยชราแต่ต้องมาขึ้นโรงพัก


จากนั้นพนักงานสอบสวน ก็นำโน๊ตบุ๊คมานั่งที่โต๊ะในห้องสบสวน สอบปากคำคุณย่าไล่เรียงเหตุการณ์ตั้งแต่วันเกิดเหตุ มีช่วงหนึ่งคุณย่าเดินออกมาเข้าห้องน้ำ ก็พบกับทีมข่าว คุณย่าบอกว่า ตำรวจไม่ให้บอกข้อมูลนักข่าวแล้ว และคุณย่าถามนักข่าวว่า คุณนักข่าว ย่าจะได้เงินคืนมั้ย


จากนั้น คุณตระกูล ลูกชายคุณย่า ให้สัมภาณ์ว่า การสอบสวนยังไม่มีอะไรมาก เป็นการเริ่มสอบปากคำ และเพิ่งเริ่มขั้นตอนการอายัด 13 บัญชี และทราบชื่อของบัญชีม้าทั้งหมดแล้ว จากข้อมูลแอปฯธนาคาร ที่ระบุชื่อ นามสกุล บัญชีปลายทาง


"โดยเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ต้องรอทางธนาคารส่งรายละเอียดแต่ละบัญชีกลับมาให้พนักงานสอบสวนก่อน ถึงจะมีออกหมายจับได้ คาดว่าใช้เวลาประมาณ 7 วัน จะดำเนินการได้ และจาการตรวจสอบข้อมูลพบว่าเงินที่โอนไปนั้น ไม่เหลือแล้ว"


ส่วนเรื่องสภาพจิตใจคุณย่านั้น ต้องบอกว่า ทางครอบครัวหดหู่ใจ และตกใจมาก เพราะมารู้ทีหลังว่า วันที่คุณย่าเขียนจดหมายลาตายนั้น คุณย่ากินยานอนหลับไป 40 เม็ดด้วย ซึ่งหลังจากนี้ลูกก็ต้องเฝ้าดูแลใกล้ชิด ส่วนสภาพจิตใจโดยรวมก็ดีขึ้น แต่มีความเครียดบางครั้ง และถามเป็นประจำว่า "ทำยังไง จะได้เงินคืน นักข่าวมาเยอะ เขาจะช่วยเรามั้ย"


ซึ่งเรื่องนี้ทางครอบครัวอยากสะท้อนถึงทางธนาคารว่า ไม่ควรให้ผู้สูงอายุ มีแอปฯธนาคารในมือถือ เพราะมีโอกาสถูกหลอกได้ง่าย กรณีของคุณย่านี้ มีการตั้งค่าแอปฯ ด้วยว่าโอนและถอนเงินไม่มีลิมิต จึงทำให้โอนเงินวันเดียวในวันที่ 16 กันยายน 1 ล้านบาท


และขอร้องไปถึงตำรวจอยากให้เร่งจับกุมพวกบัญชีม้า และเพิ่มโทษ เพราะพวกนี้คือตัวสำคัญที่จะถ่ายโอนเงินที่หลอกลวงมา เพราะถ้าไม่มีบัญชีม้าก็ทำให้มิจฉาชีพทำงานลำบากมากขึ้น พวกบัญชีม้าก็เปรียบเหมือนเหลือบไรสังคม ต้องเร่งจับกุม และเพิ่มโทษ เพื่อไม่ให้ก่อความเดือดร้อน




รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/ruNpVgmKoTI

คุณอาจสนใจ

Related News