'บิ๊กโจ๊ก' ขอหมายเรียกแก๊งผู้การฯชลบุรี เผยผู้เสียหายทนไม่ไหวถูกเรียกเงินมากขึ้น จึงแจ้งความ

บิ๊กโจ๊ก ขอหมายเรียกแก๊งตำรวจผู้การฯชลบุรี เข้ารับทราบข้อหา ส่วนพลเรือน 2 คน ออกหมายจับอินเตอร์โพล พบหนีออกนอกประเทศแล้ว ระบุ ผู้เสียหายทนไม่ไหวถูกเรียกเงินมากขึ้น จึงตัดสินใจแจ้งความ ครั้งแรกไม่เชื่อ จนพบหลักฐาน ลั่นตำรวจกับโจร เป็นแค่เส้นบาง ๆ เช้านี้ตำรวจเข้ารับทราบข้อหา 2 นาย


พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีนี้ ได้เรียกประชุมคณะทำงาน ติดตามคืบหน้าทางคดี โดยการประชุมได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้น ตนได้รับแจ้งประมาณ 3 วันที่แล้ว ยอมรับว่าตอนแรกยังไม่เชื่อ เพราะถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ จึงแจ้งกับผู้ร้องเรียนไปว่าหากตรวจสอบแล้วไม่เป็นความจริง ต้องรับผิดชอบ ซึ่งด้านของผู้เสียหายก็ยืนยันว่าเป็นความจริง และมีหลักฐานมาให้ดู จากนั้นผู้เสียหายเดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ส่งมอบเงินแล้ว


ส่วนเหตุผลของผู้เสียหายที่ตัดสินใจร้องกับตำรวจ "เนื่องจากทนไม่ไหวกับการถูกเรียกเงินมากขึ้น จากเดิมเคยจ่ายเท่านี้ แต่ระยะหลังจ่ายมากขึ้น ชนิดที่เรียกว่าหนักหนาสาหัส เกินที่จะรับได้"


จากการตรวจสอบไม่พบว่าไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง ต้องยอมรับว่าผู้เสียหายทำธุรกิจสีเทา แต่ที่ผ่านมาไม่มีปัญหาเพราะทั้งสองฝ่ายตกลงกันได้ แต่ครั้งนี้การเรียกรับผลประโยชน์ถูกรีดไถอย่างหนักหนาสาหัส ฝ่ายคนทำธุรกิจผิดกฎหมายรับไม่ได้ เลยตัดสินใจมาร้องเรียน


และผู้เสียหายก็ยอมรับ ว่ารู้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำก็เป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่ไม่ขอทนจ่ายเงินกับแก๊งผู้การฯชลบุรีอีกแล้ว เบื้องต้นจากการตรวจสอบ ข้อมูลทั้งหมดมีมูลความจริงตามที่ปรากฏในสื่อ


พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุอีกว่า ในวันนี้ (18 มิ.ย.) พนักงานสอบสวนจะเดินทางไปที่ศาลเพื่อขอหมายเรียกนายตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้ง 8 นาย มารับทราบข้อกล่าวหา เนื่องจากทั้งหมดได้ติดต่อมาเพื่อขอมอบตัว และมีการพูดคุยกันตลอดอยู่แล้ว แต่ในส่วนของพลเรือนทั้ง 2 คน เจ้าหน้าที่ก็จะขอหมายจับมาดำเนินคดี แต่เบื้องต้นทราบว่าทั้ง 2 คนได้กระทำแบบนี้มานาน และหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว ซึ่งก็จะทำหมายแดงส่งอินเตอร์โพลตามขั้นตอนของกฎหมาย เพื่อเอากลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย


ซึ่งนายตำรวจทั้งหมดจะถูกแจ้งข้อหาตามมาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติโดยมิชอบ และข้อหาตามมาตรา 149 เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับ หรือจะรับผลประโยชน์ เบื้องต้นจะเป็น 2 ข้อหานี้ โดยมีการสอบปากคำไปแล้วบางส่วนแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนเรื่องเส้นทางการเงินยังไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ซึ่งยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบกับทางธนาคาร


พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ในส่วนของตำรวจที่มีการถูกระบุนั้น ได้มีการติดต่อตนมาเพื่อขอมอบตัว โดยได้ระบุให้ทยอยมาที่สโมสรตำรวจในวันนี้ (18 มิ.ย.) และในวันที่ 19 มิ.ย. ทั้งนี้ในส่วนของ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ยังไม่มีการประสานเข้ามามอบตัว แต่ได้มีการพูดคุยไว้แล้ว


ส่วนพลเรือน 2 คนนั้น ที่หลบหนีไปก่อนเป็นนกรู้ เพราะอยู่กับตำรวจ เมื่อรู้ว่าจะถูกออกหมายจับก็รีบหลบหนีออกนอกประเทศไปทันที แต่ไม่น่ากังวลอะไร เพราะทรัพย์สินยังมีอีกเยอะ ก็จะใช้มาตรการทางกฎหมายในการยึดทรัพย์

ส่วนการดำเนินคดีกับตำรวจก็มีทั้งคดีอาญาและทางวินัย หากพบว่าผิดวินัยร้ายแรง ทาง ผบ.ตร.ก็จะมีการเซ็นคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ส่วนในคดีอาญาถือว่าเป็นการทุจริต เมื่อมีการสอบสวนดำเนินคดีก็จะส่งสำนวนให้ ป.ป.ช. เมื่อ ป.ป.ช.รับคดีไปแล้วก็จะส่งเรื่องให้อัยการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


และเช้าวันนี้ 18 มิ.ย. เวลา 10.00 น. ตำรวจ 2 นายเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ที่สโมสรตำรวจ


ผู้สื่อข่าวถามว่า ใครเป็นตัวการใหญ่ บงการเรื่องนี้ และมีใครอยู่เบื้องหลังหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า พบข้อมูล มีตัวการใหญ่ที่เป็นตำรวจและพลเรือนอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริง โดยทีมคณะทำงานจะตรวจสอบข้อมูชเป็นรายบุคคล และเส้นทางการเงิน เพื่อประกอบสำนวนคดี ส่วนการอยู่เบื้องหลัง ไม่รู้ แต่ผู้เสียหายยอมที่จะดำเนินคดี เพื่อเอาผิดกับตำรวจชุดนี้


พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ส่วนผู้เสียหายที่เดินทางมาแจ้งร้องเรียนนั้น ก็จะต้องถูกดำเนินคดีควบคู่กันไปด้วย เนื่องจากเกี่ยวพันกับเว็บพนันออนไลน์ โดยจะต้องมีการไล่ตรวจสอบย้อนหลังว่าเป็นเว็บไซต์เกี่ยวข้องกับอะไร ก็ต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด


ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังบอกอีกว่า รายละเอียดในคดีนี้คือเว็บพนัน ซึ่งเป็นปัญหาหลักประเทศที่สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจ มอมเมาประชาชน หน้าที่ของตำรวจคือ จับปราบ ไม่ใช่ รับเงินหรือหาผลประโยชน์ ทำผิดก็คือผิด ยิ่งถ้าตำรวจทำผิดเสียเอง ก็จะไม่มีการช่วยเหลือเด็ดขาด ไม่ว่าจะรุ่นพี่หรือรุ่นน้อง


เพราะจริงแล้ว ตำรวจมีเส้นแบ่งบาง ๆ หากก้าวข้ามไป ก็จะเปลี่ยนจากตำรวจเป็นโจร เมื่อเป็นโจรก็ต้องถูกดำเนินคดี เพื่อไม่ให้ประชาชนหมดความศรัทธา พร้อมกับยอมรับว่าวันนี้ตำรวจต้องปรับตัว เอางานนำ ไม่ใช่เงินนำ แล้วเรื่องอื่นตาม


ส่วนโทษของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีการกระทำผิด ก็จะมีทั้งทางวินัย ซึ่งโทษทางวินัยก็ได้มีการสั่งย้ายไปแล้วเบื้องต้น และในส่วนของโทษทางอาญา หากพบว่ามีการกระทำความผิดจริง ก็จะถูกข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมาย

https://youtu.be/HELh-XtLdKg