ญาติ ‘แด้’ เชื่อหลานชายถูก ‘แอม’ ฆ่า - แม่บ้านปั๊มเผยคำพูดสุดท้ายแด้ ก่อนหมดสติ “พี่กินยาที่เธอให้มา”

ยาย ‘แด้’ เชื่อหลานชายถูกฆ่า ทุกวันนี้ไม่กล้าอยู่บ้าน กลัวไม่ปลอดภัย ด้าน ‘น้าแด้’ ไม่ยัน ลูกในท้องแอม เกิดจากนายแด้ หรือไม่  ด้าน แม่บ้านปั๊มเล่านาทีช่วยนายแด้ เมียบอกไม่ไป รพ. จะพากลับบ้าน ส่วนแด้บอกก่อนตาย “พี่กินยาที่เธอให้มา”


เมื่อวานนี้ (28 เม.ย.) คุณยาย วรรณเพ็ญ ยายของนายแด้ อายุ 35 ปี กล่าวในรายการโหนกระแสว่า ตนคิดว่าหลานชายถูกฆ่า เพราะการตายไม่ปกติ ตายวันแรกก็หน้าเขียว ดำ แด้เป็นคนสุขภาพดีมากไม่เคยปวดหัว ตัวร้อน เคยเข้า รพ. 2 ครั้ง คือ ครั้งแรก ถูกรถชน  ครั้งที่ 2 ผ่าริดสีดวง ไม่เคยมีโรคอะไร แข็งแรงมาก พอจู่ๆ แอมมาบอกว่าแด้ไปทานอาหารมาอ้วก ล้มในห้องน้ำตาย แต่ยายไม่เห็นเพราะไม่เคยไปที่อุดรฯ


วันที่แด้ตาย แอมมาบอกว่า ลูกในท้อง 3 เดือน เป็นลูกของแด้ ทอง สร้อยคอ 5 บาท แหวน โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง รถเครื่องหนึ่งคันชื่อแอม ให้แอมเอาไปหมด แต่ไม่เอารูปหน้าศพแด้ไป เพราะเขาบอกว่ายังอยู่กับบ้านแฟนเก่า (ตำรวจ) เพราะมีลูกด้วยกัน 2 คน ต้องดูแล พักอยู่ด้วยกัน


ยายติดใจมากเรื่องการตายของแด้ ทุกวันนี้ไม่คิดว่าเด็กในท้องเป็นลูกแด้แล้ว แต่ไม่รู้กฏหมายจะไปสู้รบปรบมือได้อย่างไร พอเปิดศพดู ศพดำไม่มีที่ขาวเลย เหมือนใครเอาอะไรไปทา ยายกินไม่ได้นอนไม่หลับเป็นเดือน ต้องหนีจากบ้านไปอยู่ระยอง เพราะเลี้ยงแด้ตั้งแต่เล็กจนโต เขาดีกับยาย ทำใจไม่ได้ มองรูปศพ ทำไมรีบตาย ยายแก่แล้วให้ยายตายก่อนได้มั้ย


ช่วงงานศพยายจะคอยบอกแอมว่าใส่ซองให้พระทำบุญกับสามีบ้างสามีจะได้ไม่คิดว่าไม่ดูกูเลยแอมมาทุกวัน ที่ทำพิธีศพ 3 วัน รวมทั้งวันเผา


ตอนแรก ยายไม่กล้าออกสื่อเพราะอยู่กันสองคนกับลูกสาว กลัวอิทธิพลแอม เพราะเราเป็นชาวบ้าน แอมพูดตลอดเวลาว่ามีสามีเป็นตำรวจ ช่วงที่มีข่าวแด้ มีคนไปที่บ้าน แต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร ใส่เสื้อแดง ขับกระบะมาเราเลยหนีออกจากบ้าน ตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้ยังไม่ได้เข้าบ้านเลย กลัวความปลอดภัย


ต่อมาทางผู้สื่อข่าวได้โทรสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับนางสาวนันทวัน น้าสาวของแด้ หลังกอล์ฟ ลูกน้องคนสนิทของแด้ ออกไปให้ปากคำและมีกระแสข่าวว่าลูกในท้องแอมไม่ใช่ลูกของแด้


น.ส.นันทวัน กล่าวว่า เรื่องลูกทางเรายังไม่แน่ใจ ส่วนเรื่องทองที่จะให้ขวัญหลานนั้น คือเมื่อตอนที่แด้เสียชีวิต ทางเราได้บอกกับแอมว่าให้นำทองที่ติดตัวนายแด้ไป ซึ่งไม่ได้เตรียมจะรับขวัญหลาน


หลังจากที่กอล์ฟให้สัมภาษณ์ตนก็ยังไม่ได้ฟังข่าวเพิ่งมาทราบเมื่อช่วงเช้าวานนี้ (28 เม.ย.) ส่วนข่าวที่ออกมาว่ากอล์ฟเคยได้ยินว่าแอมพูดว่าจะฆ่าแด้นั้นก็เพิ่งมาทราบ  และยังไม่มีการพูดคุยกับแม่ของแด้แต่อย่างใด


ส่วนตัวไม่เคยเจอกอล์ฟมาก่อน เคยเจอแต่เพื่อนๆ ของแด้ เพราะเขาจะไม่ค่อยอยู่กับบ้าน ส่วนข่าวที่หลุดมาว่านายตำรวจที่เป็นอดีตสามี ยืนยันมาว่าลูกในท้องแอมเป็นลูกของเขา ทางเราไม่เคยทราบมาก่อน เพราะที่ผ่านมาทางแอมก็ยืนยันว่าเป็นลูกของเขากับแด้ ยิ่งพอตอนหลังมาทราบว่ายังอยู่ด้วยกันกับนายตำรวจท่านนี้ ก็ยังสงสัยว่าเป็นลูกใครกันแน่

-------------------------------------------------

ขณะที่ วานนี้ (28 เม.ย.) ทีมข่าวได้ เดินทางไปพบนางราตรี ซึ่งเป็นแม่บ้านที่ปั๊มน้ำมันที่เกิดเหตุ และเป็นคนช่วยชีวิตนายแด้ออกมาจากห้องน้ำรอดตายชั่วขณะ  


นางราตรี เปิดเผยว่า จำได้วันนั้นตอนเช้า 12 มี.ค.66 ขณะที่ตนเองกำลังทำความสะอาดอยู่ห้องน้ำชาย บริเวณอ่างล้างมือทางเข้าห้องน้ำ ได้ยินเสียงคนที่ใช้ห้องน้ำหมายเลข 3 เสียงเบ่งถ่ายหนักเสียงดังมาก อื๊ดๆ 2 ครั้ง แต่ครั้งที่ 3 ได้ยินเสียงหายใจหอบและแรงหลายครั้งประมาณ 10 นาทีได้ จากนั้นก็เงียบไป ตนเอะใจก็เดินเข้าไปดูและเคาะประตูก็ถามไปว่า ลูกค้าเป็นอะไรไหมคะ ก็ไม่ได้ยินตอบกลับมา ตนก็ถามไปอีกว่า ขออนุญาตส่องดูนะคะ เลยก้มลงใต้ประตูหองน้ำ เห็นศีรษะนายแด้คว่ำลงพื้นห้องน้ำเลย  ตนกลัวลูกค้าตายในห้องน้ำ ก็ตัดสินใจบิดประตูเข้าไปเลยในสภาพนายแด้ถอดกางเกงกำลังถ่ายหนัก ตนก็วิ่งให้เด็กปั๊มมาช่วย ซึ่งตนก็ล้างก้นใส่กางเกงให้เรียบร้อย และอุ้มมานั่งบริเวณม้านั่งข้างห้องน้ำ


ตนถามเขาไปว่า เป็นอะไรถึงมาวูบในห้องน้ำ ตอนนั้นเมียเขาคนที่ใส่เสื้อเหลืองยังไม่เดินมาดู ได้แต่ยืนดูอยู่ห่างๆ สักแปบก็เดินมาใช้มือสองข้างตบเบาๆ ที่ใบหน้า และบอกว่า “เป็นอะไรมากไหมคะ พี่ๆ อย่าหลับตานะ ลืมตาๆ”  ส่วนนายแด้แค่พยักหน้า แต่ดูอาการยังไม่ดีขึ้น พอเรียกรถกู้ภัยมา เมียเขาก็บอกว่า ถ้าดีขึ้นก็ไม่ต้องไป รพ.แล้ว จะพากลับบ้าน ก่อนที่ตนกับ นางสาวแอมจะช่วยพยุงแขนคนละข้างเพื่อพาไปขึ้นรถ  


ปรากฏนายแด้ ก็อ้วกอีกครั้ง ตนจึงถามไปว่า อ้วกขนาดนี้ตอนเช้ากินอะไรมา แต่ภรรยา คือ น.ส.แอม บอกว่า ป้าอย่าไปซักเขามาก เขากำลังเหนื่อยอยู่ ตนจึงถามย้ำอีกครั้งว่าไปกินอะไรมา นายแด้ก็บอกว่า “พี่กินยาริดสีดวงที่เธอให้มานั่นแหละ” คำๆ นี้ได้ยินชัดเจน ไม่มีวันลืมเลย


แม่บ้านปั๊มน้ำมันบอกอีกว่า พอกู้ภัยมาช่วย น.ส.แอมก็คะยั้นคะยอบอกว่า ไม่เอาไป รพ. ไม่เป็นอะไรมากแล้ว จะพาขับรถกลับบ้านท่าเดียว แต่กู้ภัย และตนบอกว่าต้องรีบพาไปหาหมอก่อน จนมารู้ข่าวว่าเขาเสียชีวิต สงสารคนตายอย่างมาก  

-------------------------------------------------------------------

เปิดสลิปปริศนา "แด้ " ทำธุรกิจอะไร 4 วัน มีคนโอนเงินให้นับล้านบาท

จากการตรวจสอบประวัติของนายแด้ หนึ่งในผู้เสียชีวิต จากการกระทำของนางสาวแอม ซึ่งต่อมาพบข้อมูลว่านายแด้ มีการโอนเงินไปมาเกี่ยวกับการทำธุรกิจชนิดหนึ่ง กับบุคคลหนึ่ง โดยมีการโอนเงินตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม 2566 จนถึง 17 มกราคม 2566 รวมเป็นเงินกว่าหนึ่งล้านบาท โดยจะโอนขั้นต่ำหลักหมื่น จนถึงหลักแสน เป็นที่น่าแปลกใจว่านายแด้ทำธุรกิจอะไร

และธุรกิจเหล่านี้นางสาวแอมเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ เพราะมีเงินจำนวนมากโอนเข้าบัญชีนายแด้เพียงคนเดียว

ทั้งนี้ ตำรวจอุกรธานี จมีการตรวจสอบประวัติย้อนหลังว่านายแด้ และพวกทำธุรกิจอะไร โดยคดีของนายแด้นั้น ตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานีจะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด

----------------------------------------------------------------------

ส่วนที่ จ.ราชบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม (กก.5 บก.ป.) ลงพื้นที่นำกลุ่มเยาวชนซึ่งเป็นพยานสำคัญไปชี้จุดเกิดเหตุที่บ้านพักใน ต.สวนกล้วย อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ที่แอม จ้างวานให้นำถุงดำไปฝังดิน โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาเพียงไม่นาน ก่อนจะพาตัวกลุ่มเยาวชนออกไป

 หลังจากที่แอม ได้ก่อเหตุสังหาร น.ส.ก้อย เมื่อวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา ก็ได้หิ้วถุงดำมาให้กลุ่มเยาวชนนำไปฝังดินด้วยเงินค่าจ้าง 500 บาท แต่เยาวชนยังไม่ได้นำไปฝัง ต่อมาได้ทราบข่าวการเสียชีวิตของ น.ส.ก้อย รู้สึกผิดสังเกตจึงเปิดถุงดำดู ก็พบว่ามีกรอบป้ายทะเบียนรถ เอกสารประจำตัวของนายแด้ อดีตสามีของแอมที่เสียชีวิต รวมไปถึงขวดสีขาว ฝาสีแดง ที่ฉลากมีตัวอักษรเขียนว่า UN1680 โดยขณะนั้นกลุ่มเยาวชนไม่ทราบว่าเป็นขวดยาอะไร จึงรีบประสานญาติของนายแด้ ก่อนจะส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ แล้วมาทราบในภายหลังว่าคือสารไซยาไนด์

 ในเวลาต่อมา นางแอมเกิดเปลี่ยนใจและติดต่อหากลุ่มเยาวชนอีกครั้ง พร้อมชักชวนให้ไปกินข้าว และว่าจ้างให้นำถุงดำมาคืนที่ จ.นครปฐม ด้วยเงินจำนวน 10,000 บาท แต่กลุ่มเยาวชนเกรงจะเกิดอันตรายจึงปฏิเสธไป กระทั่งนางสาวแอมถูกจับกุมได้ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ กทม.

 สำหรับสิ่งของที่อยู่ในถุงดำ โดยเฉพาะขวดยาไซยาไนด์ ถือเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่เจ้าหน้าที่จะสามารถนำไปใช้เอาผิดกับนางแอมต่อไป

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/KxPRc-Q-c_s